จรัล งามวิโรจน์เจริญ Chief Data Scientist & VP of Data Innovation Lab บริษัท เซอร์ทิส จำกัด
ทุกวันนี้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (climate change) และผลกระทบทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การเกิดพายุ ความแห้งแล้ง อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำกว่าปกติในหลายพื้นที่ ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของเรา เช่น การทิ้งเศษถุงพลาสติกจำนวนมากลงทะเล การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ของโรงงานและรถยนต์ ในฐานะที่เราเป็นประชากรที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ เราควรที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการลดใช้ถุงพลาสติกและการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ ยังสามารถนำเทคโนโลยีและศาสตร์อย่าง Data Science กับ Machine Learning (ML) มาใช้เพื่อทำให้สังคมและโลกน่าอยู่มากขึ้น (AI/Data Science for social good)
ตัวอย่างของงานที่มีผลกระทบต่อด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมสูง (High leverage) โดยการเอาเครื่องมือของงาน Data Science เช่น Machine Learning มาใช้กับจัดการข้อมูลหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น
บทความที่แล้วผมได้กล่าวถึงข้อพึงระวังในการใช้ AI (จริยธรรม AI ตอน1 2 3) ซึ่งมีหลากหลายมิติ ส่วนในบทความนี้เราจะเห็นว่า ถ้าเรามีข้อมูลที่ดี (ย้ำว่าต้องเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพ) เราสามารถที่จะทำประโยชน์ให้กับสังคม ประเทศและโลกของเราได้เช่นกัน โดยประเทศไทยเรามีข้อมูลที่มีประโยชน์อยู่มากมาย ซึ่งเป็นข้อมูลทางภาครัฐ เราต้องช่วยกันเก็บรักษาให้ดี และถ้าสามารถเปิดเผยให้เป็นข้อมูลที่นำไปใช้ได้อย่างอิสระ (open data) รวมทั้งมีการสนับสนุนทำให้เกิดนวัตกรรมแบบเปิด (open innovation) จากข้อมูลนั้นๆ ได้ก็จะมีประโยชน์กับประเทศเราอย่างมากครับ
References:
https://earlywarningproject.ushmm.org
https://zamba.drivendata.org/
https://www.cmu.edu/scs/ml4sg/
https://www.drivendata.org/competitions/49/deep-learning-camera-trap-animals/Tackling climate change with ML https://arxiv.org/abs/1906.05433v1
Tackling climate change with MLhttps://www.climatechange.ai/ICML2019_workshop.html
AI for social good https://arxiv.org/abs/1901.05406
https://www.nature.com/articles/s41598-019-45349-y
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
