ThaiPublica > Native Ad > บทความร่วมมือ > AMEM ครั้งที่ 37 – เวทีอาเซียนชูนวัตกรรมสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

AMEM ครั้งที่ 37 – เวทีอาเซียนชูนวัตกรรมสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

29 สิงหาคม 2019


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานครั้งที่ 37 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง (ASEAN Ministers on Energy Meeting and Associated Meetings: 37th AMEM) ซึ่งจะมีขึ้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน 2562 นี้ นอกจากจะเป็นเวทีหารือความร่วมมือเป็นประจำทุกปีของอาเซียน ประเทศคู่เจรจา และองค์กรพลังงานระหว่างประเทศแล้ว ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ ยังสามารถใช้เวทีระดับนานาชาติแสดงวิสัยทัศน์และบทบาทของไทยในภูมิภาคอาเซียนได้อีกทางหนึ่งด้วย

การประชุมระดับรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการวันที่ 4-5 กันยายน 2562 โดยมีนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นประธานเปิดการประชุม ประเด็นหารือจะเป็นการสรุปกิจกรรมและผลงานรวมทั้งข้อเสนอต่างๆ ภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียนด้านพลังงาน นำเสนอต่อรัฐมนตรีพลังงานของ 10 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เพื่อรับทราบและเห็นชอบแผนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

สาระสำคัญของการประชุมปีนี้คือ “Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation” การมุ่งเน้นความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนสามารถก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานที่มีความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งระหว่างงานจะมีนิทรรศการและการแสดงเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงานของภาคธุรกิจคู่ขนานกันไปด้วย โดย AMEM มีกรอบความร่วมมือหลักๆ 3 ด้าน คือ

1. ด้านความมั่นคงทางพลังงาน ที่จะทำให้แต่ละประเทศมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ 2. ด้านราคาพลังงาน ที่ต้องมีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอาเซียน และ 3. ด้านสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมพลังงานสะอาดซึ่งเป็นแนวโน้มสำคัญของโลก

โดยแบ่งความร่วมมือเป็น 7 สาขา 1) ความเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน 2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับขนส่งก๊าซธรรมชาติ 3) การส่งเสริมเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด 4) การส่งเสริมพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ 5) การส่งเสริมพลังงานทดแทน 6) การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและอนุรักษ์พลังงาน 7) การจัดทำนโยบายและแผนอาเซียนด้านพลังงาน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ถึงการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม AMEM ครั้งที่ 37 ว่า นอกจากเนื้อหาสาระของการประชุมที่จะมีขึ้นแล้ว ไทยยังมี 3 บทบาทสำคัญ คือ

  • บทบาทแรก การขับเคลื่อนความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนด้านพลังงานร่วมกันของภูมิภาค
  • บทบาทที่สอง การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงพลังงานของภูมิภาค
  • บทบาทที่สาม บทบาทด้านการตอบสนองของนโยบายของรัฐบาลด้านความมั่นคงทางพลังงาน ที่มุ่งเน้นการจัดหาพลังงานให้ประชาชนเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม

สำหรับการประชุมครั้งนี้จะมีกิจกรรมความร่วมมือ เช่น การขยายปริมาณการซื้อขายไฟฟ้าเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าพหุภาคีในโครงการลาว-ไทย-มาเลเซีย (LTM-PIP) จากเดิม 100 เมกะวัตต์ เป็น 300 เมกะวัตต์ การปรับมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในอาเซียน เช่น อุปกรณ์ส่องสว่างและเครื่องปรับอากาศ การลดความเข้มการใช้พลังงานให้ได้ร้อยละ 20 ภายในปี พ.ศ. 2563