พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล มีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมี ผู้แทนพรรคการเมืองตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี อาทิ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส, นายอนุสนธิ์ ชินวรรโณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายอุตตม สาวนายน พรรคพลังประชารัฐ, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน พรรคประชาธิปัตย์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย, นายวราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา, หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล พรรครวมพลังประชาชาติไทย, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ พรรคชาติพัฒนา, พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ พรรคพลังชาติไทย, นายนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ พรรคประชาภิวัฒน์, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์, นายปรีดา บุญเพลิง พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ พรรคประชานิยม, นายพิเชษฐ สถิรชวาล พรรคประชาธรรมไทย, นายไพบูลย์ นิติตะวัน พรรคประชาชนปฏิรูป, นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ พรรคพลังพลเมือง และนายระวี มาศฉมาดล พรรคพลังธรรมใหม่
โดยนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชิญพานพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เข้าสู่ห้องสีงาช้าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ถวายความเคารพพระบรมราชโองการฯ จากนั้น นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า
“พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
จึงแต่งตั้งให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร”
จากนั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วเดินออกไปตรงกลางหน้าโต๊ะหมู่บูชา ถวายความเคารพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ แล้วถวายบังคม 3 ครั้ง เสร็จแล้วถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ฯ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
นายกฯ ยันจะทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์-เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่พัฒนาประเทศ
ภายหลังพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและกล่าวขอบคุณ ดังนี้
“ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ผมและครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ”
ผมขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายามมุ่งมั่นทำงาน พร้อมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
ตลอดจนการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และการที่มีเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ
เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี จะสร้างสรรค์สังคมให้มีความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาส ทั้งนี้ก็เพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย
ผมขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาในการทำหน้าที่ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ ขอขอบคุณพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ที่สนับสนุน และให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่ อย่างที่ทุกคนคาดหวังตั้งใจไว้
ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ตลอดจนภาคประชาสังคม ธุรกิจ เอกชน ที่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะร่วมกันเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุน และร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาล และพวกเราทั้งหมด เพื่อจะนำพาประเทศไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้มายังตึกภักดีบดินทร์ เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้เป็นพิธีสำคัญ ตนได้ให้คำมั่นไปแล้วว่าจะทำหน้าที่ขอตนให้ดีที่สุด ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรี ที่จะมีการจัดตั้งขึ้นในอนาคตนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนได้แถลงไปแล้วในคำกล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ปลอดภัย ยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของตน ต่อจากนี้ขอให้ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม
เมื่อถามว่า รายชื่อรัฐมนตรีจะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้เมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนการตั้ง ครม.จะติดขั้นอะไรหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย วันนี้เพิ่งเป็นนายกฯ