ThaiPublica > เกาะกระแส > ทีเอ็มบี เดินหน้าชู 3 ผลิตภัณฑ์ ยกระดับเป็นโซลูชั่นตอบโจทย์ชีวิตคนไทย

ทีเอ็มบี เดินหน้าชู 3 ผลิตภัณฑ์ ยกระดับเป็นโซลูชั่นตอบโจทย์ชีวิตคนไทย

1 มีนาคม 2019


นายปิติ ตัณฑเกษม(ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย พร้อมผู้บริหาร

เม่ื่อวันที่ 1 มีนาคม 2562 ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานเผยกลยุทธ์การทำการตลาด ปี 2562 แก่สื่อมวลชนและพนักงานของธนาคาร โดยมีนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย พร้อมผู้บริหารใน 3 ผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี (TMB All FREE) ทีเอ็มบี ทัช (TMB TOUCH) และ ทีเอ็มบี สมาร์ท พอร์ต (TMB Smart Port) เข้าร่วม

นายรูว์ ไฮซ์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย ทีเอ็มบี เปิดเผยถึงที่มาของแนวคิดในการเพิ่มศักยภาพของผลิตภัณฑ์ของทีเอ็มบีให้เป็นโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงใจในทุกช่วงเวลาจำเป็นของชีวิต (Customer Life Moments) ในครั้งนี้ว่า อยู่บนพื้นฐานปรัชญาของทีเอ็มบี Make THE Difference ที่ต้องการจะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น

“เราได้ทำการศึกษาพฤติกรรมทางการเงินของคนไทยแล้วก็พบว่า มีคนไทย 5 ใน 10 คนที่มีเงินเก็บไม่พอใช้หลังเกษียณ 6 ใน 10 คนที่ไม่มีกรมธรรม์ประกันชีวิต และมี 9 ใน10 คน ที่ไม่มีการลงทุนเพื่อให้งอกเงยใดๆ เพียงสามข้อที่จำเป็นนี้เราก็เห็นว่าคนไทยยังขาดสิ่งที่เรียกว่าหลักประกันพื้นฐานของตัวเอง ทั้งเงินออม เงินเกษียณ หรือแม้แต่เงินประกันให้กับตัวเอง เรามองเห็นความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่เมื่อลูกค้าเองอาจจะยังไม่ตระหนักเลยว่านี่คือสิ่งที่เขาควรมี ดังนั้นทีเอ็มบี ในฐานะที่เราเป็นสถาบันการเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพทาง การเงินเหล่านั้นของลูกค้าโดยตรง เราจึงคิดว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อช่วยให้กลุ่มลูกค้าที่ยังไม่มีตัวช่วยด้านการเงินได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจไร้กังวลสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงิน หรือสิทธิประโยชน์ใดๆที่จำเป็นต้องใช้หรือได้รับโดยที่ไม่เป็นการสร้างภาระเพิ่มขึ้นให้กับตัวลูกค้าเอง” นายรูว์กล่าว

ในปี 2561 ที่ผ่านมาทีเอ็มบีได้มอบดอกเบี้ยส่วนต่างที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปให้กับลูกค้าไปรวมแล้วกว่า 2,400 ล้านบาท ได้มอบความคุ้มครองผ่านผลิตภัณฑ์ All Free ไปแล้วกว่า 625,000 ล้านบาท ที่สำคัญ ทีเอ็มบี ทัช (TMB TOUCH) ที่เน้นให้ลูกค้าดูง่าย หาง่าย ใช้ง่าย ก็ได้ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาไปแล้วกว่า 12,500 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ได้เกิดขึ้นและจะต้องพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและช่วยทำให้สวัสดิภาพทางการเงินของลูกค้าดีขึ้น ซึ่งถือเป็นพันธสัญญาของทีเอ็มบี นายรูว์กล่าว

นายรูว์ ไฮซ์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย ทีเอ็มบี

นางณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารกลุ่มลูกค้าบุคคลระดับกลาง ทีเอ็มบี ได้เปิดเผยถึงลักษณะพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปโดยมีเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในการสร้างความต้องการส่วนบุคคลในรูปแบบฉับพลันมากขึ้นที่เรียกว่า “Here & Now” คือทุกความต้องการต้องได้รับการตอบสนองในทันที รอไม่ได้ จึงส่งผลให้นักการตลาดต้องปรับตัวให้ทัน โดยทุกผลิตภัณฑ์ต้อง ตรงใจ และ ใช้งานหรือเข้าถึงได้ง่าย (Need Bank Simple & Easy) ทีเอ็มบี ก็เช่นเดียวกันต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าสอดคล้องกันกับช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการเรา

เพิ่มสิทธิประโยชน์ ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี ให้เป็นบัญชีเพื่อใช้ที่ดีที่สุด

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกรรมธนาคาร ได้กล่าวถึงที่มาของโซลูชั่นของผลิตภัณฑ์ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี ที่จะช่วยตอบโจทย์เรื่องหลักประกันที่ทำให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้นว่า “เรามองลูกค้าเป็นศูนย์กลางก่อนเสมอ ซึ่งภายใต้แนวคิด Make THE Difference ก็ทำให้กล้าที่จะคิดนอกกรอบให้สามารถทำอะไรก็ตามที่จะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ให้เกิดความพึงพอใจ ใช้งานได้ง่าย สะดวก และตรงใจในช่วงเวลาที่เขาต้องการจริงๆ เรามีข้อมูลมากมายแต่เราอยากมั่นใจว่าสิ่งที่เราจะพัฒนาขึ้นมาให้ลูกค้าได้ใช้นั้นต้องเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ ไม่ใช่เพียงการนำตัวเลขมากางวิเคราะห์แล้วนำสิ่งที่จะทำออกไปสอบถามลูกค้าว่าชอบหรือไม่ อยากใช้หรือเปล่า นั่นไม่ใช่ทีเอ็มบี ที่นี่เราต้องออกไปหาลูกค้า ไปสังเกตการณ์ ไปติดตามรูปแบบของการใช้ชีวิต เผ้าดูพฤติกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นเดือนๆ ออกไปดูเกาะติดอยู่เช่นนั้นเพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งไหนที่เป็นอุปสรรคต่อลูกค้าและเราต้องนำกลับมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจและทำให้เกิดการบอกต่อ เพราะนั่นคือเป้าหมายของเรา ของทีเอ็มบี

ผลิตภัณฑ์ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี (TMB All Free) เป็นผลิตภัณฑ์แฟลกชิป ที่ต้องการจะพัฒนาเพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการทำธุรกรรมที่ดีที่สุดในประเทศ โดยจะเพิ่มคุณค่าของบัญชีให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยล่าสุดได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ ประกันคุ้มครองวงเงินในบัญชีกรณีอุบัติเหตุ (ประกันอุบัติเหตุ) ให้กับลูกค้าทุกคนที่มีบัญชีและบัตรเดบิต ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี ส่งผลให้ลูกค้ากว่า 3 ล้านบัญชีมีโอกาสได้รับความคุ้มครองทันทีโดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันใดๆ เพิ่มเติม ทำให้การใช้ชีวิตรู้สึกมีหลักประกันเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องทำประกัน ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับดีมากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ส่งผลให้ยอดเปิดบัญชีล่าสุดของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสูงขึ้นถึง 25%

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกรรมธนาคาร

ผลิตภัณฑ์ All Free ยังสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในด้านอื่นอีกเช่น การนำบัตรเดบิต All Free ไปใช้งานต่างประเทศ ก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน 2.5% รูดเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น แม้เมื่อต้องการกดเงินสดที่ตู้ ATM ในต่างประเทศ เพียงแค่ 75 บาท/ครั้ง จากปกติที่ต้องเสีย 100 บาท/ครั้ง ตัดปัญหาต้องพกเงินก้อนเสี่ยงสูญหายและถูกโจรกรรม เพียงเดือนเดียวที่เปิดตัวออกไปก็ทำให้ยอดใช้จ่ายในต่างประเทศผ่านบัตรเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า มีการใช้จ่ายใน 117 ประเทศ จาก 166 สกุลเงินที่ให้บริการ และตั้งแต่ 1 มี.ค -31 ธ.ค. 62 ลูกค้าก็จะได้รับความคุ้มครองการเดินทาง (Travel Insurance) ในวงเงิน 1,000,000 บาททันที

ส่งทีเอ็มบี สมาร์ท พอร์ต ตอบโจทย์การลงทุนแบบครบวงจร

นางกิดาการ ชัฎสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบี ได้กล่าวถึง โซลูชั่นเพื่อการลงทุนนี้ว่า “สิ่งที่จำเป็นอีกประการหนึ่งสำหรับลูกค้าคือ การมีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ คนไทยมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามหลังเกษียณเพียง 1 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมดของไทย 70 ล้านคน ซึ่งน้อยมาก และอาจก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวหากไม่มีการเตรียมการเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจากการศึกษาถึงพฤติกรรมการลงทุนของคนไทย พบว่า สาเหตุที่ทำให้คนไทยมีเงินไม่พอสำหรับการเกษียณนั่นคือ ไม่มีการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเงินเก็บ เงินออมของตัวเอง ซึ่งพอศึกษาเข้าไปอีกก็พบอีกว่าปัญหาที่ไม่ลงทุน ก็เพราะไม่รู้จะเริ่มลงทุนอย่างไร ต้องเลือกลงทุนในอะไรบ้าง หรือเมื่อเริ่มลงทุนแล้วก็ไม่มีเวลามาติดตามตลาด จนเมื่อขาดทุนก็จะเข็ดขยาดการลงทุนไปเลยและคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะลงทุนให้ได้กำไร

ทีเอ็มบีได้หาวิธีการและเครื่องมือเพื่อการลงทุนต่างๆ ช่วยให้นักลงทุนไม่ว่าจะหน้าใหม่หรือเก่าให้สามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจและง่ายขึ้นด้วย ทีเอ็มบี สมาร์ท พอร์ต (TMB Smart Port) ซึ่งเข้าถึงได้ง่าย ใช้งานได้ง่าย และสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ

ปัจจัยหลักของการที่ทำให้เกิดการตัดสินใจลงทุนคือความมั่นใจ ต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก จึงได้ค้นหาผู้เชี่ยว ชาญมาคอยช่วยจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม บลจ.ระดับโลกทั้งจาก ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปยุโรป เพื่อเป็นพันธมิตรที่ได้ศึกษาข้อมูลของ บลจ.ที่จะมาเป็นพันธมิตรอย่างละเอียดด้วยว่า บริษัทนั้นเป็นบลจ.ที่มี know how ในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน และเป็นบลจ.ที่ลงทุนตามนโยบายในการลงทุนที่แจ้งไว้กับสาธารณชนด้วยอย่างเคร่งครัด

นางกิดาการ ชัฎสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบี

ทีเอ็มบีพบว่า บริษัทจัดการกองทุน Amundi นั้นมีพร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 5,000 คน ประจำอยู่ใน 37 ประเทศทั่วโลก มีโนฮาว (know how) และนโยบายลงทุนที่สอดคล้องตามที่ ทีเอ็มบีต้องการ มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองทุนต่างประเทศ แต่ด้วยตลาดในต่างประเทศมีขนาดที่ใหญ่ มีกองทุนในต่างประเทศมีรวมกันกว่า 30,000 กองทุน ก็ต้องไปเข้าศึกษาว่ากองทุนไหนบ้างที่เหมาะสมกับลูกค้าคนไทย และกองไหนที่จะเหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ และจะทำให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องทำทุกอย่างให้ง่ายเพื่อให้เกิดความพึงพอใจที่แท้จริง

ทีเอ็มบี สมาร์ท พอร์ต (TMB Smart Port) เป็นบริการด้านการลงทุนที่ช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการจัดพอร์ตได้ ซึ่งปกติบริการแบบนี้เป็นบริการที่ให้เฉพาะลูกค้าระดับ Private Wealth ซึ่งต้องมีเงินลงทุนอย่างน้อย 20-50 ล้านขึ้นไป แต่ด้วยความร่วมมือกันระหว่าง TMB และ Amundi เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทำให้ TMB Smart Port เป็น Total Solution ที่ช่วยจัดสรรการลงทุน คัดเลือกกองทุนที่ดีที่สุด และปรับเปลี่ยนการลงทุนโดยอัตโนมัติให้เหมาะสมในทุกสถานการณ์ตลาด ทำให้ลงทุนได้อย่างมืออาชีพเหมือนมีผู้จัดการลงทุนส่วนตัวมาดูแลพอร์ตการลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท ก็สามารถมีพอร์ตลงทุนเป็นของตัวเองได้แล้ว

TMB TOUCH เสริมประสบการณ์ผ่านการใช้งาน

นายสหชัย ลิ้มอำไพ เจ้าหน้าที่บริหาร บริหารช่องทางบริการดิจิทัล กล่าวถึง การพัฒนาช่องทางบริการ TMB TOUCH เพื่อให้เป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้ช่องทางดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ของลูกค้าว่า ทีเอ็มบี ทัช (TMB TOUCH) มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเพื่อตอบโจทย์เรื่องความสามารถในการใช้งาน ความหลากหลายในการให้บริการ และการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า

TMB TOUCH เป็นแอปพลิเคชั่นที่มีความสามารถในการรองรับปริมาณการใช้งานมหาศาล และถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายๆ ลื่นไหล รวดเร็ว และให้ความปลอดภัยสูง TMB TOUCH มีการเฝ้าระวังระบบ 24 ชม. ด้วยระบบ “Bot” ที่จำลองคนเสมือนจริง เพื่อทำการตรวจสอบการใช้งานของตัวแอปจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้า TMB TOUCH สามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือหากมีปัญหาไม่พึงประสงค์ ทีมงานก็จะรับทราบและรีบแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

“ปัจจุบันนี้เราอยู่ในยุคที่เราเรียกว่า NOW ลูกค้าต้องการทุกอย่างเร็วแบบเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ โดยความเร็วปกติของแอปทั่วๆไปอยู่ที่ 5 วินาที แต่ที่ TMB เราตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ภายใน 2 วินาที รวมถึงเพิ่มความสามารถในการรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาในอนาคตถึง 3 เท่า” นายสหชัยกล่าว

นายสหชัย ลิ้มอำไพ เจ้าหน้าที่บริหาร บริหารช่องทางบริการดิจิทัล
ทีเอ็มบี ยังคงมุ่งมั่น คิดค้นให้ TMB TOUCH มีบริการที่หลากหลายในการทำธุรกรรม พร้อมรับฟังเสียงจากลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าบริการต่างๆออกมาโดนใจลูกค้ามากที่สุด และยังพิถีพิถันในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย และการออก แบบหน้าจอที่ใช้ผ่านหลักการ 3 ง่าย คือ การออกแบบให้ดูเรียบง่าย หาเจอง่าย ใช้งานง่าย ให้ลูกค้ายุ่งยากน้อยที่สุด

“เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการ ทีเอ็มบีจึงตอบแทนลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่าน TMB TOUCH ด้วยคะแนนสะสม ทีเอ็มบี ว้าว (TMB WOW) และลูกค้าเองก็ตอบแทนกลับมาด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ “TAB Digital Inclusive Awards” จากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย นับเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของทีมงาน เพราะรางวัลนี้จะมอบให้แบงก์ กิ้งแอปพลิเคชันที่พัฒนามาให้ใช้งานได้ง่ายกับลูกค้ารวมถึงผู้พิการทางสายตา ถือเป็นการตอกย้ำว่าได้มาถูกทางแล้ว ที่จะทำให้ลูกค้าของทีเอ็มบีทุกคนได้รับความสะดวกสบายจากสิ่งที่เราได้พัฒนาขึ้นอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายสำคัญที่จะทำให้สะดวก รวดเร็ว และใช้งานง่ายที่สุดจนลูกค้าของเรา 90% เปลี่ยนมาทำธุรกรรมพื้นฐานต่างๆ ด้วยตัวเองบน TMB TOUCH” นายสหชัยกล่าว