นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงใน 4 ประเด็นภายหลังจากเปิดเผยตัวเลขคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการ 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อวานนี้ว่า กกต.ได้รวมข้อสงสัยเกี่ยวกับผลคะแนนของสังคมดังนั้น ประเด็นที่ 1 จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตั้งข้อสังเกตว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประธาน กกต.แถลงในวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ กกต.ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ กว่า 34,014 คน ว่าข้อมูลที่ประธาน กกต.ได้แถลงเป็นจำนวนที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้คีย์เข้าระบบ Rapid Report ในวันที่มารับอุปกรณ์ ซึ่งในวันดังกล่าวบางหน่วยไม่สามารถคีย์ข้อมูลเข้าระบบได้ ดังนั้นตัวเลขในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ไม่ใช่จำนวนผู้มีสิทธิ 100 เปอร์เซนต์ เหมือนอย่างข้อมูลเมื่อวานนี้
ประเด็นที่สอง จำนวนบัตรเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น 4.5 ล้านฉบับ มาจากกรณีการนำข้อมูลจากRapid Report ที่มีการรายงานผลที่ร้อยละ 93 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 แต่ข้อมูลเมื่อวานนี้เป็นผลคะแนน 100 เปอร์เซ็นต์ บวกกับผลรวมคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในและนอกเขตเลือกตั้ง ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 2.3 ล้านคน รวมกับบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรอีกกว่า 1 แสนใบ รวมกันจึงเป็นตัวเลขของบัตรเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น 4.5 ล้านใบ ยืนยัน บัตรเลือกตั้งมีที่มาที่ไป อีกทั้งที่หน่วยเลือกตั้งก็มีกระบวนการนับคะแนนและมีการประกาศจำนวนบัตรที่ใช้
นายกฤช กล่าวว่า ในเรื่องผลต่างของผู้มาใช้สิทธิกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ต่างกัน 9 ใบ ที่พบว่าบัตรที่ใช้มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนผู้มีสิทธิ 9 ใบ อาจเกิดจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. คลาดเคลื่อน มองในแง่ดีว่าแสดงให้เห็นว่ากกต.ไม่ได้ตกแต่งตัวเลข และตัวเลขที่น้อยกว่า 9 ใบ ไม่มีผลกระทบต่อคะแนนผู้สมัคร ส.ส.
ส่วนจำนวนบัตรเลือกตั้งเลือกตั้งที่ใช้ไปกว่า 38 ล้าน ซึ่งมากกว่ายอดรวมของบัตรดี บัตรเสียและบัตรไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครใด จำนวน 2 ใบ คณะทำงานเห็นว่าการนับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ต้นขั้วที่ใช้ไปอาจคลาดเคลื่อนจำนวน 2 ใบ ซึ่งจะมีการตรวจสอบว่าเกิดขึ้นที่หน่วยเลือกตั้งใด
เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส. มาร้องเรื่องการวินิจฉัยบัตรของกรรมการประจำหน่วย ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ พันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ชี้แจงว่าการร้องให้นับคะแนนใหม่เป็นหน่วยสามารถยื่นร้องได้ ขณะนี้มีการร้องคัดค้านการเลือกตั้งจำนวน 186 คดี และ 7 เรื่องเป็นการคัดค้านการนับคะแนน แต่ถ้าจะให้นับใหม่ทั้งประเทศนั้น กฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำได้ อย่างไรก็ตามในการร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ หากไม่ร้องในระหว่างที่มีการนับคะแนนก็สามารถร้องภายหลังการเลือกตั้งได้
ส่วนเรื่องการประกาศผลร้อยละ 95 ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า กฎหมายกำหนดว่าหลังกฎหมายเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ให้จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ถ้าหากเห็นว่าสุจริต ก็ให้ประกาศผล ซึ่งคาดว่าสำนักงานจะเสนอให้ กกต.พิจารณาภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เบื้องต้นได้เร่งรัด กลุ่มภารกิจสืบสวนสอบสวนในกรณีเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง และกฎหมายใหม่ไม่เปิดโอกาสให้ทยอยประกาศ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการให้ใบแดงก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ซึ่งอาจทำให้จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อที่สื่อมวลชนคำนวณอาจปรับเปลี่ยนได้ หากมีการเลือกตั้งใหม่
ขณะที่การสั่งไม่นับคะแนนบัตรเลือกตั้ง 1542 ใบจากนิวซีแลนด์นั้น นายกฤช ชี้แจงว่า เมื่อดูกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 144 กฎหมายได้เขียนบังคับให้ กกต.ต้องวินิจฉัยอย่างนั้น ทั้งที่ กกต.เข้าใจเรื่องสิทธิของประชาชนและไม่อยากทำอย่างนั้น รวมทั้งได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบภายใน 7 วัน ซึ่งจะทราบว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
