ThaiPublica > เกาะกระแส > ประธานกกต. แจงกระแสข่าวยุบทษช. ระบุ ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ขอให้ฟังจากปากตนเอง-เลขากกต.เท่านั้น

ประธานกกต. แจงกระแสข่าวยุบทษช. ระบุ ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ขอให้ฟังจากปากตนเอง-เลขากกต.เท่านั้น

12 กุมภาพันธ์ 2019


นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ตอบคำถามสื่อมวลชนผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ถึงกระแสข่าวระบุว่า กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) หลังพิจารณาคำร้องที่ขอให้ตรวจสอบว่า การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทษช. เข้าข่าย ผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยที่ประชุมกกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า “ฝากเรียนทุกท่านที่รออยู่ด้วยว่า กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่แล้วเสร็จ ถ้าผมหรือเลขาธิการมิได้ให้ข่าว กรุณาอย่าถือว่าเป็นข่าวจริงนะครับ อย่างน้อยที่สุดถ้าการพิจารณาแล้วเสร็จแล้ว จะเรียนให้ทราบ ถ้ามิใช่แถลงข่าวก็เป็นเพรสครับ”

ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งกับสื่อมวลชนที่ปักหลักรอทำข่าวที่ศาลรัฐธรรมนูญว่า นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถามไปยังสำนักงานกกต.ว่าจะมีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามกระแสข่าวหรือไม่ โดยทางสำนักงานกกต.ยืนยันว่าจะไม่มีการยื่นคำร้องใดๆในวันนี้

สำหรับมาตรา92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดความผิดไว้ว่า เมื่อกกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการ (1)ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น

อย่างไรก็ตามในวันที่ 13 ก.พ.62 เวลา 09.00 น. คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคทษช.โดยนาย สุรชัย ชินชัย จะไปยื่นหนังสือถึงกกต. ต่อกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่า กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ทษช. เพื่อขอโอกาสในการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ชี้แจงแสดงเหตุผลข้อเท็จจริง รวมถึงข้อกฎหมาย และทั้งใช้สิทธิ์ในการอ้างพยานหลักฐานเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทกำหนดโทษหากศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ตามมาตรา 92 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น กฎหมายไม่ได้ระบุระยะเวลาเอาไว้ว่าเพิกถอนสิทธินานเพียงใด ขณะเดียวกันก็ถูกกำหนดเป็นลักษณะต้องห้าม ในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆและกรรมการองค์กรอิสระ ดังนั้นถ้าหากถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ย่อมหมายความว่า ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือดำรงตำแหน่ง ใดๆในทางการเมืองหรือ กรรมการองค์กรอิสระ ได้ตลอดไป