ThaiPublica > เกาะกระแส > สหรัฐ – จีน พักรบชั่วคราว ทรัมป์ชะลอขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีน เจรจาแก้ไขข้อขัดแย้งการค้าใน 90 วัน

สหรัฐ – จีน พักรบชั่วคราว ทรัมป์ชะลอขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีน เจรจาแก้ไขข้อขัดแย้งการค้าใน 90 วัน

2 ธันวาคม 2018


การพบปะในช่วงอาหารค่ำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดี สี่จิ้นผิงของจีน ที่มาภาพ: https://www.theguardian.com/world/2018/dec/02/donald-trump-and-xi-jinping-declare-trade-truce-at-g20

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขอhttps://thaipublica.org/งสหรัฐและประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีน ตกลงที่จะพักรบทางการค้าชั่วคราวและสหรัฐจะเลื่อนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อให้เวลากับการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าของทั้งประเทศ 90 วัน หลังจากพบปะกันในช่วงอาหารค่ำคืนวันเสาร์หลังการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 เสร็จสิ้นลง และการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 รอบนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้นำของทั้งกลุ่มประชุมร่วมกันหลังจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเริ่มขึ้น

สำนักข่าว ซินหัวของจีนรายงานว่า หลังจากการประชุมผู้นำกลุ่ม G-20 เสร็จสิ้นลงและก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมโต๊ะกับประธานาธิบดีทรัมป์ นั้น ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีนกล่าวว่า มีความยินดีที่จะพบปะกับประธานาธิบดีทรัมป์ และมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

“นับตั้งแต่การพบปะกันครั้งก่อนสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ในฐานะที่เป็นประเทศใหญ่ จีนและสหรัฐจึงมีอิทธิพลอย่างมากและมีความรับผิดชอบหลักในการส่งเสริมสันติภาพและความรุ่งเรืองของโลก” ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง กล่าว

“ความร่วมมือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของทั้งสองฝ่าย ผมต้องการที่จะใช้โอกาสในค่ำคืนนี้ แลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นกับท่านประธานาธิบดีในประเด็นที่มีความวิตกร่วมกัน และวางแผนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐในระยะต่อไป” ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง กล่าว

การพบปะของทั้งสองในเริ่มขึ้นในเวลา 5.30 น. เวลาท้องถิ่นในกรุงบัวโนสไอไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิม 1 ชั่วโมง ตามคำขอของสหรัฐอันเป็นผลจากการถึงแก่กรรมของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิ้ลยู. บุช ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความว่า จะไม่มีการแถลงข่าวผลการประชุมกลุ่มผู้นำ G-20 จนกว่าจะผ่านพ้นพิธีศพอดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิ้ลยู. บุช

รายการอาหารของประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง และทีมงาน ได้แก่ สเต้กเซอร์ลอยน์ เสริฟ์พร้อมไวน์ Malbec ของอาร์เจนตินา ที่มาจากไร่ Catena Zapata

ทั้งสองฝ่ายพอใจกับผลการหารือ โดยมีเสียงปรบมือลั่นห้องเมื่อการรับประทานอาหารร่วมกันใกล้จะสิ้นสุดลง โดยที่การพูดคุยเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการของทั้งสองฝ่ายใช้เวลา 2.5 ชั่วโมง

นอกจากนี้หลังอาหารค่ำสิ้นสุดทั้งสองฝ่ายได้มีการถ่ายรูปร่วมกัน โดยมีทีมงานของทั้งสองประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งให้ภาพว่าทั้งสองฝ่ายมีความกลมเกลียว ตรงข้ามกับการตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนนับตั้งแต่สงครามการค้าระเบิดขึ้น

หลังจากการรับประทานอาหารค่ำร่วมกันเสร็จสิ้นลง ทำเนียบข่าวได้ออกแถลงการณ์พร้อมความเห็นของทั้งสองประธานาธิบดี ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า โดยมีคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ว่า ความสัมพันธ์ของเขากับประธานาธิบดีสี่ จิ้นผิงมีความพิเศษมาก และยังมีคำกล่าวของประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิงด้วย

“ผมคิดว่า มีเหตุผลเบื้องต้นที่ว่าเราอาจจะจบการหารือด้วยการมีข้อสรุปบางอย่างทีจะมีผลดีต่อจีนและผลดีต่อสหรัฐ” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐตกลงที่จะเลื่อนการเก็บภาษีอัตรา 25% ที่จะผลบังคับใช้กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 200 พันล้านเหรียญออกไปเป็นวันที่ 1 มกราคม 2562

ขณะเดียวกันจีนตกลงที่จะซื้อสินค้าจากสหรัฐในจำนวนที่มากขึ้นอย่างสำคัญ ในสินค้ากลุ่มเกษตร พลังงานและสินค้าอื่น เพื่อลดความไม่สมดุลทางการค้า แต่ไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจน

แถลงการณ์ของทำเนียบข่าวยังระบุว่า ทั้งสองผู้นำเห็นด้วยที่ให้มีการเจรจาสองฝ่ายในทันมี ในประเด็นที่สหรัฐวิตก เช่น ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญา และโจรกรรมไซเบอร์ และทั้งสองฝ่ายเห็นต้องกันว่าจะต้องดำเนินการเจรจาให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน แต่หากการเจรจาล้มเหลว อัตราภาษีที่เก็บจากสินค้าจีนจะปรับขึ้นเป็น 10% และ 25%

ในแถลงการณ์ที่อ้างโฆษกทำเนียบขาว ซาร่าห์ แซนเดอร์ส ยังระบุถึงสิ่งที่ประธานาธิบดีจีนได้ดำเนินการได้ ซึ่งร่วมถึงการห้ามส่งออกเฟนตานิล(fentanyl) ยาระงับอาการปวดในกลุ่ม opioid ไปสหรัฐ และจะถือว่าการส่งออกยาเฟนตานิลผิดกฎหมายใครฝ่าฝืนจะมีโทษประหารชีวิต

นอกจากนี้ฝ่ายสหรัฐยังระบุว่า จีนส่งสัญญานที่จะเปิดกว้างให้มีข้อตกลงระหว่างผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ 2 ราย คือ ควอลควัมม์ อิงค์ของสหรัฐ ที่จะซื้อเอ็นเอ็กซ์พี ที่ปัจจุบันจีนไม่อนุญาต

ควอลควัมม์ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกได้ระงับการซื้อกิจการ เอ็นเอ็กซ์พี ในเนเธอร์แลนด์ในมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่หน่วยงานตรวจสอบของจีนไม่อนุมัติ

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะเดินทางกลับด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ว่า “เป็นข้อตกลงที่เยี่ยมมากๆ และจะส่งผลบวกต่อภาคเกษตร และสิ่งที่ผมจะทำคือชะลอการเก็บภาษี จันจะเปิดกว้างและ จีนจะยกเลิกการเ้ก็บภาษี”

เจ้าหน้าที่ของจีนเปิดเผยว่า การพบปะกันของสองผู้นำได้บรรลุ ความเห็นพ้องกันที่สำคัญ โดยชี้ไปที่ทิศทางความสัมพันธ์จีนกับสหรัฐในอนาคตข้างหน้า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เต็มไปด้วยมิตรภาพและตรงไปตรงมา และผู้นำของสองประเทศมีข้อตกลงกันว่า แต่ละฝ่ายจะต้องเปิดตลาดระหว่างกัน และต้องขับเคลื่อนการเจรจาไปในทิศทางการยกเลิกการเก็บภาษีเพิ่มเติม อย่างไรก็ ตามไม่ได้กล่าวถึงกรอบระยะเวลาการเจรจา

แถลงการณ์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง

ย้อนสถานการณ์สงครามการค้าปะทุ

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเริ่มขึ้นหลังจากที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10% จากสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีอัตรา 5-10% จากสินค้าสหรัฐรวมวงเงิน 60 พันล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้สหรัฐเก็บภาษี 25% จากสินค้าจีนรวมวงเงิน 50 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม และจีนได้ตอบโต้ในทันทีด้วยการเก็บภาษีนำข้าจากสินค้าสหรัฐในอัตราเท่ากัน

การเก็บภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เพียงกดดันให้จีนต้องใช้มาตรการที่ต้องยุติการขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ต่อเนื่องมา 10 ปี แต่ยังช่วยให้บริษัทสหรัฐเข้าถึงตลาดจีนได้ง่ายขึ้น

จีนเกินดุลการค้าสหรัฐมูลค่า 375 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อน และเกินดุล 261 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 8 เดือนของปี 2561

ทางด้านจีนได้ตอบสนองด้วยการให้คำมั่นว่าจะขยายสัดส่วนการลงทุนของต่างชาติให้สูงขึ้นในภาคการเงิน และจะนำเข้าถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ยอมรับ เพราะเห็นว่าไม่เพียงพอที่จะลดการขาดดุลการค้า และเรียกร้องให้จีนยกเลิกนโยบายที่บังคับให้ธุรกิจต่างชาติที่ลงทุนในจีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยี การซอร์สโค้ด และ encryption ให้กับธุรกิจจีนที่ต่างชาติร่วมทุนด้วย

ที่ประชุม G-20 เห็นพ้องปฏิรูป WTO

การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 มีมติให้แก้ไขระบบการค้าโลก ขณะที่อีก 19 ประเทศยกเว้นสหรัฐตกลงที่จะสนับสนุนข้อตกลงปารีสเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change

แถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ยอมรับกระแสการค้าโลกและเรียกร้องให้มีการปฏิรูปองค์กรการค้าโลกหรือ World Trade Organization
ที่ประชุมได้มีการลงนามในข้อตกลงที่ไม่ผูกพัน ท่ามกลางความแตกแยกของสมาชิก โดยเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปกล่าวว่า สหรัฐเป็นตัวถ่วงของเกือบทุกเรื่อง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตำหนิ WTO และดำเนินนโยบายการค้าเชิงรุกกับจีนและสหภาพยุโรป

ขณะที่รัสเซียแม้จะมีปัญหาความตึงเครียดทางการทหารและการแทรกแซงทางการเมืองจากภายนอก ก็ยังสนับสนุนการปฏิรูปทางการค้าและการแก้ไข Climate Change

สำหรับการค้าโลกนั้น แถลงการณ์ระบุว่า ทั้ง 20 ประเทศสนับสนุนการค้าแบบพหุภาคี และยอมรับว่าระบบในปัจจุบันใช้ไม่ได้ผล จำเป็นที่ต้องมีการแก้ไข ด้วยการปฏิรูป WTO เพื่อปรับปรุงการทำงาน

แถลงการณ์ยังแสดงถึงความยึดมั่นต่อกฎกติกาสากลเพื่อรักษาระเบียบของโลก แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะคัดค้านกติกาในหลายข้อ

แม้ข้อตกลงนี้จะไม่มีผลทางกฎหมาย แต่สหภาพยุโรปก็ยังเห็นว่าการรวมกลุ่มของ G-20 ยังมีความหมายและการรวมตัวกันเป็นพหุภาคียังใช้ได้ผล โดยนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แองเจลา แมร์เคิล กล่าวว่า ทุกคนเห็นพ้องว่า ควรมีการปฏิรูป WTO และนี่คือข้อตกลงที่มีความสำคัญ เพราะส่งสัญญานที่ชัดเจน ในทุกกรณีจากเราทุกคน”

ดังเต้ ซิก้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการผลิตและแรงงาน อาร์เจนติน่า กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ไม่มีผลดีต่อการค้าระหว่างประเทศ การต่อสู้ของสองผู้เล่นรายใหญ่ ไม่เกิดผลดี และหากว่าสามารถตกลงกันได้ จะเป็นสัญญานที่ดีที่จะลดผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ

มาวริซิโอ้ มาครี ประธานาธิบดีอาร์เจนติน่ากล่าวปิดการประชุมว่า สิ่งที่เราได้ตกลงร่วมกันสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับการค้าให้ทันสมัย ปรับ WTO ให้ดีขึ้น และยอมรับร่วมกันถึงความวิตกต่อ Climate Change

การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2019 ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

เรียบเรียงจาก CNN,scmp,theguardian,TIME,BBC