ThaiPublica > เกาะกระแส > 3 ประเทศในเอเชียครองอันดับพาสปอร์ตที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก

3 ประเทศในเอเชียครองอันดับพาสปอร์ตที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก

12 ตุลาคม 2018


ที่มาภาพ: https://www.channelnewsasia.com/news/world/japan-singapore-most-powerful-passport-ranking-10810414

พาสปอร์ตและวีซ่าคือกุญแจสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในการไขเข้าสู่ประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเพื่อเดินทางท่องเที่ยวหรือเพื่อติดต่อธุรกิจ แต่พาสปอร์ตของบางประเทศทรงอำนาจมากกว่า เนื่องจากผู้ถือสามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆ กว่าร้อยประเทศได้โดยไม่ต้องทำเรื่องขอวีซ่าล่วงหน้า (ได้รับฟรีวีซ่า)

ญี่ปุ่นก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง

ล่าสุด Henley & Partners ผู้จัดทำดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์ (ดูดัชนีแบบครบถ้วนได้ที่นี่) ประกาศเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2561 ว่าสามประเทศที่ครอบครองพาสปอร์ตที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกคือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ตามลำดับ

ญี่ปุ่นแซงสิงคโปร์แชมป์เก่าขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้โดยได้รับฟรีวีซ่าจาก 190 ประเทศ สิงคโปร์กลายเป็นอันดับสองร่วมกับเยอรมนีซึ่งได้รับฟรีวีซ่าจาก 189 ประเทศ ส่วนเกาหลีใต้ที่ได้รับฟรีวีซ่าจาก 188 ประเทศ ครองอันดับ 3 ร่วมกับฝรั่งเศส

ขณะที่สหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นอันดับ 1 เมื่อปี 2015 อันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว ตกเป็นอันดับ 5 ในปีนี้ โดยได้รับฟรีวีซ่าจาก 186 ประเทศ สำหรับประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 68 ได้รับฟรีวีซ่าจาก 77 ประเทศ ประเทศที่ได้อันดับท้ายสุดในดัชนีคืออัฟกานิสถานและอิรัก พาสปอร์ตของสองประเทศนี้ได้รับฟรีวีซ่าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพียง 30 ประเทศเท่านั้น

ฟรีวีซ่านั้นสำคัญไฉน

วีซ่าเป็นเอกสารสำคัญในการไปเยือนต่างประเทศ มีทั้งแบบที่เป็นตรายางประทับ สติกเกอร์สัญลักษณ์ หรือเอกสารขนาดเล็กสำหรับแนบติดในพาสปอร์ต ปกติแล้วจำเป็นต้องมีการติดต่อขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนเดินทาง

การได้รับฟรีวีซ่าทำให้สามารถเดินทางไปยังที่หมายและขอลงตราวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินของประเทศเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องดำเนินการล่วงหน้าให้ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม การได้รับฟรีวีซ่าไม่ใช่สิ่งยืนยันว่าจะได้เข้าประเทศ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศมีสิทธิ์เต็มที่ในการปฏิเสธการเข้าประเทศหากมีเหตุอันควร

การได้รับฟรีวีซ่ามีประโยชน์มากมายหลายประการทั้งทางตรงและทางอ้อม นั่นคือ

  • ไม่ต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น การขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 5,440 บาททันที ไม่ว่าจะได้รับอนุมัติวีซ่าหรือไม่ก็ตาม
  • ไม่ต้องกรอกเอกสารยาวเหยียดหรือส่งเอกสารเพิ่มเติม เช่น จดหมายจากนายจ้าง เอกสารการเงิน
  • ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสถานทูตหรือหน่วยงานอนุมัติวีซ่า
  • ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
  • สามารถเดินทางได้ทันทีโดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ซึ่งถือเป็นความสะดวกอย่างยิ่งไม่ว่าจะสำหรับผู้เดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือเพื่อติดต่อธุรกิจ

กลไกสำคัญ

ความปรารถนาที่จะท่องโลกทั้งเพื่อทำธุรกิจ แสวงหาโอกาสด้านการเงินและอาชีพหรือแม้แต่เพื่อความบันเทิง ส่งผลให้มีการเรียกร้องเพื่อลดข้อจำกัดด้านการเข้าประเทศ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกมีลักษณะโลกาภิวัตน์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมแล้ว การเปิดฟรีวีซ่าให้ประเทศต่างๆ จึงเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

แต่ความสัมพันธ์ด้านการทูต เศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความต่อเนื่องของชายแดน คือกลไกสำคัญที่ซับซ้อนและสำคัญที่สุดในการพิจารณาว่าจะให้ฟรีวีซ่าแก่ประเทศใด การได้ฟรีวีซ่าจากประเทศต่างๆ จำนวนมากจึงถือเป็นประกาศเสรีภาพในการเดินทาง และเป็นดัชนีวัดศักดิ์ศรีของประเทศได้กลายๆ

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ประเทศในแถบเอเชียซึ่งมีความสำคัญด้านการเมืองและเชิงกลยุทธ์ ประกอบกับขนาดเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จึงได้รับฟรีวีซ่าจากประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น จนกระทั่งพาสปอร์ตของญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลี จึงกลายเป็นพาสปอร์ตที่ทรงอำนาจที่สุดของโลกในปัจจุบัน

แหล่งข้อมูล:
1. https://www.forbes.com/sites/bishopjordan/2018/10/10/most-powerful-passport-world-japan/#1a38f0e16e6e
2. https://www.telegraph.co.uk/travel/news/powerful-passports-2018/
3. https://www.henleypassportindex.com/
4. https://csglobalpartners.com/visa-free-travel-mean/
5. http://www.consular.go.th/main/contents/filemanager/VISA/Visa%20on%20Arrival/VOA.pdf