ThaiPublica > เกาะกระแส > เริ่มแล้ว e-Donation บริจาคเงินออนไลน์ผ่านแบงก์-ไม่มีค่าธรรมเนียมออกใบอนุโมทนาลดหย่อนภาษีทันที

เริ่มแล้ว e-Donation บริจาคเงินออนไลน์ผ่านแบงก์-ไม่มีค่าธรรมเนียมออกใบอนุโมทนาลดหย่อนภาษีทันที

24 กรกฎาคม 2018


เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ เปิดตัวโครงการ e-Donation ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้พัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่าง สถาบันการเงิน บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ กรมสรรพากร และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริจาคเงินและได้รับการลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส และรวดเร็ว สำหรับการบริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาคตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร เช่น วัด โรงพยาบาล สถานศึกษา และองค์กรสาธารณกุศลอื่น ๆ โดยสามารถบริจาคผ่าน mobile banking ของธนาคารที่ร่วมโครงการ ซึ่งระบบจะพร้อมให้บริการในเดือน กรกฎาคม 2561

การจัดงานเปิดตัวโครงการ e-Donation มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ และแสดงตัวอย่างในการสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลที่ดีแก่หน่วยรับบริจาคและภาคการเงินไทย ซึ่งภายในงานประกอบด้วย การแสดงแนวนโยบายและความร่วมมือในการผลักดันโครงการ e-Donation จาก 4 องค์กร คือ ธปท. กระทรวงสาธารณสุข กรมสรรพากร และสมาคมธนาคารไทย รวมทั้งการจัดแสดงบูธและการประชาสัมพันธ์โครงการจากธนาคารที่ร่วมโครงการ หน่วยรับบริจาค และกรมสรรพากร

โดยเริ่มแรกเดือนกรกฎาคม 2561 มี 5 ธนาคารที่พร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทีเอ็มบี และ ธนาคารออมสิน นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีอีก 5 ธนาคารที่ทยอยเปิดให้บริการ คือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารธนชาต ธนาคารมิซูโฮ และ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์

ระบบ e-Donation เป็นการอำนวยความสะดวกให้การบริจาคเงินเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ตรงผู้รับ และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้โดยไม่ต้องส่งหลักฐานการบริจาคประกอบการพิจารณาคืนเงินภาษี ซึ่งเป็นกลไกในการบริจาคเงินที่มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมไทย

  • หนังสือเวียนจัดระเบียบวัดเข้าระบบหลุด สรรพากรยันไม่เก็บภาษวัด แจงอยู่ระหว่างทำ e-Donation ให้วัด-โรงเรียนเพื่อคืนภาษีได้รวดเร็ว
  • สรรพากรดึง “วัด-โรงเรียน” เข้าระบบ e-Donation ตู้รับบริจาคเงินติด QR Code ระบุไม่พบข้อมูล-ไม่คืนภาษี
  • นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ขวาสุด และ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ที่2จากขวา)

    “กรุงไทย เติมบุญ”

    หลังจากที่ธนาคารกรุงไทยประสบความสำเร็จจากการนำร่องออกใบอนุโทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์เป็นธนาคารแรก ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปลายปีที่ผ่านมา วันนี้ธนาคารกรุงไทยต่อยอดความสำเร็จกับการให้บริการ e-Donation อย่างเป็นทางการแล้ว ภายใต้ชื่อ “กรุงไทย เติมบุญ” เป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่สามารถออกใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมลได้ทันที ไม่เสียค่าธรรมเนียม ช่วยลดปัญหาการจัดเก็บเอกสาร พร้อมส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากรเพื่อประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ซึ่งในขณะนี้มีหน่วยงานรับบริจาคที่ใช้บริการมากที่สุดถึงกว่า 4,200 แห่งทั่วประเทศ กับวัด โรงพยาบาล มูลนิธิ สถานศึกษา มัสยิด และองค์กรสาธารณกุศล โดยตั้งเป้าไว้ 10,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้

    นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารได้ให้การสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐที่ต้องการวางโครงสร้างพื้นฐานอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศและขับเคลื่อนสังคมไทยทุกภาคส่วนสู่สังคมไร้เงินสด โดยธนาคารได้ให้บริการ e-Donation “กรุงไทย เติมบุญ” เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าและประชาชนในการบริจาคเงินผ่าน Mobile Application จากทุกธนาคาร พร้อมส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากร สำหรับการลดหย่อนภาษีอีกด้วย

    “ด้วยยุทธศาสตร์ Future Banking ของธนาคารที่นำนวัตกรรมทางการเงินมาตอบโจทย์เพื่อสะดวกสบายของลูกค้าและประชาชน โดยธนาคารเปิดให้บริการ e-Donation “กรุงไทย เติมบุญ” จำนวนมากที่สุดถึงกว่า 4,200 แห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันมีวัดและศาสนสถานจำนวน 4,000 กว่าแห่ง โรงพยาบาลจำนวน 20 กว่าแห่ง มูลนิธิจำนวน 40 กว่าแห่ง และสถานศึกษาจำนวน 130 แห่ง โดยตั้งเป้าหมายทั้งหมดไว้ 10,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ สำหรับผู้ที่บริจาคเงินผ่าน KTB netbank จะได้รับใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมลทันที ลดปัญหาการจัดเก็บและการสูญหายของเอกสาร”

    นายผยง ศรีวณิช กล่าวต่อไปว่า การบริจาคผ่าน KTB netbank ทำได้สะดวก ง่าย ทันใจเพียง 3 ขั้นตอน คือ 1.สแกน QR Code “กรุงไทย เติมบุญ” 2.กรอกที่อยู่อีเมลเพื่อให้ระบบจัดส่งใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ 3.ระบุจำนวนเงินและยืนยันการทำรายการ ก็สามารถบริจาคเงินได้สะดวกและปลอดภัย ไม่เสียค่าธรรมเนียม และรับใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมลได้ทันที

    ด้านหน่วยงานรับบริจาคที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตุง กรุงไทย” สามารถรับเงินเข้าบัญชีธนาคารของหน่วยงานได้โดยตรง และตรวจสอบสรุปยอดบริจาคแบบ Real Time ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการเงินสดและค่าใช้จ่ายในการออกใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ด้วย

    ทีเอ็มบี “ปันบุญ” ต่อยอดนโยบายภาครัฐ e-Donation

    ด้านทีเอ็มบี เปิดตัวโครงการ “ปันบุญ” เว็บไซต์แรกที่รวบรวมองค์กรสาธารณกุศลและโครงการเพื่อสังคมทั่วประเทศ ต่อยอดโครงการภาครัฐด้านการพัฒนาระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) และตอบโจทย์ความต้องการในยุคสังคมไร้เงินสดของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งองค์กรสาธารณกุศลที่สามารถช่วยการบริหารจัดการเงินสด ลดขั้นตอนการออกใบเสร็จ เพิ่มช่องทางใหม่ที่ช่วยระดมทุนได้อย่างกว้างขวาง โดยประชาชนสามารถเลือกบริจาคให้องค์กรสาธารณกุศลได้หลากหลายตามความศรัทธา ที่เว็บไซต์ปันบุญเพียงที่เดียว ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องใช้เงินสด และไม่ต้องยื่นใบเสร็จหรือเอกสารใดๆ ให้กับกรมสรรพากร ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคผ่านโครงการปันบุญได้แล้ววันนี้ ทาง www.punboon.org

    นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า “ทีเอ็มบี เป็นธนาคารแรกที่พัฒนา TMB Digital Donation Solution ด้วยโครงการ ‘ปันบุญ’ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ช่องทางใหม่สำหรับประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการบริจาคให้กับองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ สามารถบริจาคเงินได้อย่างสะดวกคล่องตัว ผ่านโมบายล์แบงก์กิ้ง สแกน QR Code เลือกชำระเงินผ่านการหักบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต/ เดบิต หรือ Rabbit LINE Pay โดยไม่ต้องใช้เงินสด ในช่วงแรกธนาคารฯ ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริจาคที่บริจาคผ่านการสแกน QR Code ผ่านการหักบัญชีธนาคาร โดยผู้บริจาคไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้กับกรมสรรพากร ซึ่งข้อมูลการบริจาคจะได้รับการบันทึกไว้ และแสดงขึ้นมาในขั้นตอนการยื่นเสียภาษีแบบอัตโนมัติ ส่วนการชำระในรูปแบบอื่นๆ เช่น บัตรเครดิต หรือ Rabbit LINE Pay ทีเอ็มบีจะเปิดให้บริการเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในอนาคต

    ทั้งนี้ โครงการปันบุญ ของทีเอ็มบี ยังเพิ่มความสะดวกด้านการจัดการเงินสดให้กับองค์กร ทั้งยังลดการสูญเสียเวลา บุคลากร และขั้นตอนในการออกใบเสร็จเพื่อเป็นหลักฐานให้กับผู้บริจาค รวมไปถึงการได้รับรายงานการบริจาคทุกวันผ่านทางระบบอีเมล์ ช่วยให้ตรวจสอบได้ง่าย ลดความผิดพลาด นอกจากนี้ แต่ละองค์กรยังได้ประโยชน์ในการเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์องค์กรให้เป็นที่รู้จักผ่านโครงการปันบุญ ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางการระดมทุนขององค์กรสาธารณกุศลอีกด้วย โดยปัจจุบันมีองค์กรสาธารณกุศลเข้าร่วมในโครงการปันบุญของทีเอ็มบีแล้ว อาทิ มูลนิธิดวงประทีป มูลนิธิยุวพัฒน์ มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย โรงพยาบาลทหารผ่านศึก มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มูลนิธิสันติสุข มูลนิธิคนไทยเก่งขึ้น มูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูพัฒนาเด็กและครอบครัว (ฟอร์เด็ก) และมูลนิธิทีเอ็มบี เป็นต้น

    “ทีเอ็มบี ตั้งเป้าหมายเชิญชวนองค์กรสาธารณกุศลเข้าร่วมในโครงการปันบุญรวมกว่า 200 องค์กรภายในปีนี้ และเชื่อมั่นว่าโครงการปันบุญ ซึ่งเป็นศูนย์กลางระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ที่ครบวงจรจะเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งขององค์กรสาธารณกุศลในประเทศไทย เป็นช่องทางที่สะดวกคล่องตัวสำหรับประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันสนับสนุนสังคมไทยในด้านต่างๆ และตอบโจทย์พฤติกรรมของประชาชนในยุคสังคมไร้เงินสดได้อย่างดี” นายปิติ กล่าว

    ดร.วิรไท สันติประภพ(ที่ 7จากซ้าย) ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ(ที่ 7จากขวา)อธิบดีกรรมสรรพากร นายปรีดี ดาวฉาย(ที่ 6 จากขวา)ประธานสมาคมธนาคารไทย และผู้บริหารธนาคารและสถาบันการเงินรัฐที่เข้าร่วมโครงการ e-Donation