ThaiPublica > คอลัมน์ > ทำไมอัตราของอุบัติเหตุรถยนต์บนท้องถนนเราถึงเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

ทำไมอัตราของอุบัติเหตุรถยนต์บนท้องถนนเราถึงเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

27 กุมภาพันธ์ 2018


ณัฐวุฒิ เผ่าทวี
www.powdthavee.co.uk

ผมเชื่อว่าเราคงจะหาบทสรุปกันได้ยากว่าอะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้อัตราของอุบัติเหตุบนท้องถนนของเราสูงมากเป็นพิเศษ เเต่สำหรับตัวผมเเล้ว ปัจจัยที่สำคัญที่สุดเลยก็คือการสอบใบขับขี่ของไทยเรานั้นง่ายเกินไป

ถ้าเราเอาขั้นตอนของการสอบใบขับขี่ของประเทศเราไปเปรียบเทียบกันกับประเทศที่พัฒนาเเล้ว การสอบผ่านเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายเอาเสียมากๆ คนที่ไปสอบอาจจำเป็นต้องเรียนกฎบนถนนบ้างนิดหน่อย อาจจะเรียนวิธีถอยรถจอดนิดหน่อย ผิดนิดผิดหน่อยก็อาจจะสอบผ่านได้

ผมเคยสอบใบขับขี่ของทั้งสองที่ (ที่ประเทศไทยเเละประเทศอังกฤษ) ผมจึงสามารถพูดอย่างได้เต็มปากว่าตอนที่ผมสอบใบขับขี่ที่อังกฤษนั้นผมกลัวยิ่งกว่าตอนผมสอบ viva เพื่อจบปริญญาเอกเสียอีก (ส่วนตอนที่ไปสอบใบขับขี่ที่เมืองไทยนั้น ผมเเทบไม่มีความกลัวว่าจะตกเลย) ทำไมผมถึงต้องกลัวด้วย ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่า ก่อนที่คนอังกฤษจะไปสอบใบขับขี่นั้น ส่วนใหญ่เเล้วพวกเขาจำเป็นที่จะต้องเรียนขับรถกับผู้ฝึกหัดอย่างน้อย 20 ชั่วโมงขึ้นไปถึงจะมั่นใจไปสอบได้ เพราะการสอบเเต่ละทีนั้นเเพงมาก (ราคาร่วมหมื่นบาทได้) ถ้าตกก็ต้องจ่ายอีกเพื่อไปสอบใหม่ เสียทั้งเงินเเละเวลา

ส่วนวันที่สอบก็จะมีคนสอบนั่งรถไปกับเราด้วย (พร้อมๆ กับเเบบฝึกหัดเพื่อที่จะตรวจสอบว่าเราทำอะไรผิดบ้างในขณะที่กำลังสอบอยู่) การสอบก็ยากเสียเหลือเกิน (คือต้องออกถนนใหญ่เลย เเละถ้ามี major fail หรือผิดครั้งใหญ่เพียงเเค่ครั้งเดียว ซึ่ง major fail รวมไปถึงการเบรถรถกะทันหันซึ่งทำให้รถข้างหลังต้องเบรคอย่างเเรงด้วย การเลี้ยวเข้าซอยที่มีป้ายห้ามย้อนศร หรือเเม้เเต่กระทั่งการเช็คกระจกหลังในขณะที่ขับรถอยู่ไม่พอก็ทำให้ตกเลยได้) อัตราการตกของการสอบครั้งเเรกของคนสอบใบขับขี่ที่ประเทศอังกฤษมักจะอยู่ที่ประมาณ 50%

จึงไม่เป็นที่น่าเเปลกใจที่สถิติอุบัติเหตุทางท้องถนนในประเทศที่พัฒนาเเล้วจึงมีตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกันกับประเทศของเรา (เเละเกือบทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจนต้องมีคนเสียชีวิต เราก็มักจะเห็นอุบัติเหตุนั้นๆ ออกเป็นข่าวในทีวี ไม่เหมือนที่เมืองไทยที่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นเกือบทุกวัน) ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่ารถเกือบทุกคันบนท้องถนนนั้นมีคนขับที่ถูกระบบคัดกรองมาอย่างเรียบร้อยเเล้ว เเละคนขับเเต่ละคนก็รู้ว่าคนอื่นๆ ก็ต้องถูกคัดกรองมาอย่างดีเช่นเดียวกัน

ถามว่าเเต่ถ้าเราจะให้มี reform ของการสอบใบขับขี่ในประเทศไทยนั้น คนส่วนใหญ่จะยอมไหม

ผมว่าพวกเราหลายคนก็คงจะทราบคำตอบกันดีอยู่เเล้ว ซึ่งก็คือไม่ (ถ้ามันมี มันก็หมายความว่าคุณอาจจำเป็นต้องไปสอบอีกที ซึ่งผมเองก็เชื่อว่าทุกคนก็คงไม่อยาก)

ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่า คนเราส่วนใหญ่มักจะประเมินความเสี่ยงในท้องถนนต่ำจนเกินไป (พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเรายังไม่เจออุบัติเหตุกับตัวเอง เราก็จะไม่มีทางรู้ซึ้งถึงคุณค่าของระบบการป้องกันอุบัติเหตุที่เป็น universal อย่างการมีขั้นตอนการสอบใบขับขี่ที่ยากขึ้นอย่างนี้)