ThaiPublica > เกาะกระแส > ธนาคารเกียรตินาคินเปิดตัวที่ปรึกษาการเงิน “KK Magic Mirror เมื่อเทคโนโลยีไม่เท่ากับหุ่นยนต์”

ธนาคารเกียรตินาคินเปิดตัวที่ปรึกษาการเงิน “KK Magic Mirror เมื่อเทคโนโลยีไม่เท่ากับหุ่นยนต์”

27 กุมภาพันธ์ 2018


ดร. อนุชิต อนุชิตานุกูล ประธานสายพัฒนาระบบงาน ช่องทางขาย และผลิตภัณฑ์ ธนาคารเกียรตินาคิน

ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดตัวบริการ “KK Magic Mirror” นำเทคโนโลยีมาต่อยอดการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินที่คงเสน่ห์ของ “ปฏิสัมพันธ์” ระหว่างมนุษย์ โดยดร. อนุชิต อนุชิตานุกูล ประธานสายพัฒนาระบบงาน ช่องทางขาย และผลิตภัณฑ์ ธนาคารเกียรตินาคิน เปิดเผยว่า กระแสเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นได้เข้ามาพลิกโฉมการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ (Disruption) รวมถึงอุตสาหกรรมการเงินในรูปแบบเดิม ได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจรูปแบบใหม่ในภาคการเงินเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟินเทค, พร้อมเพย์, Banking Agent หรือ e- Marketplace Platform (บริการซื้อขายออนไลน์แบบครบวงจร) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ทำ ซึ่งย่อมเพิ่มโอกาสให้กับธนาคารในการต่อยอดธุรกิจกับสถาบันการเงินด้วย

ในส่วนของธนาคารเกียรตินาคิน ได้พัฒนาช่องทางการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงสาขาและจุดบริการสำหรับลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ด้านการเงินและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพจากจุดแข็งคือบุคลากรมืออาชีพในด้านการเงินการลงทุน เป็นนวัตกรรมการบริการที่เรียกว่า “KK Magic Mirror” กระจกวิเศษที่ช่วยให้การเงินเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วคลิก ซึ่งใช้เทคโนโลยีมาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับธนาคารในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุด (Human Interaction) โดยถือเป็นประสบการณ์ใหม่เพราะเป็นการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินผ่านจอ LED แบบ Interactive ครั้งแรกของประเทศไทย

“ทุกวันนี้เราได้ยินแต่เรื่องปิดสาขา คนไปดิจิทัล ไปโมบายแบงกิง ไปเรื่อยๆ จริงๆ แล้วผมว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้กับธนาคาร ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนทำๆ กัน ผมว่าเรายังเดินไม่ถูก คือไม่ใช่เอาเทคโนโลยีมาเพื่อที่จะทำให้คนหรือการให้บริการเป็นมนุษย์น้อยลง ผมถามทุกท่านว่าต้องการอะไร ต้องการทำอะไรเองทุกอย่าง ไปตามห้างมีตู้ ให้ดูแผนที่หาเอง แตะไปแตะมา บางทีคนต้องไปยืนงง มีวิธีใช้งานแปะอยู่ข้างๆ มีมนุษย์น้อยลง ไม่น่าใช่ มนุษย์ไม่ได้ติดต่อกันด้วยวิธีแบบนี้ จริงๆ การบริการที่ดีต้องมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่ทำอย่างไรที่จะเอาเทคโนโลยีมาสานกับความเป็นมนุษย์ เพื่อทำให้การบริการใช้เทคโนโลยีแต่มีความเป็นมนุษย์ที่ดี อันนี้คือสิ่งที่เรากำลังทำในนวัตกรรมอันนี้ สิ่งที่เราทำคือเอาเทคโนโลยีแต่พูดคุยเหมือนคนให้แนะนำคุณ ไม่ใช่มีแต่ปุ่มมีคู่มือ ให้คนเข้ามาใช้ได้ใช้เป็น เหมือนคุยกับมนุษย์ การใช้เทคโนโลยีไม่ใช่เพื่อทดแทนมนุษย์” ดร.อนุชิตกล่าว

ดร.อนุชิตกล่าวต่อไปถึงแนวคิดดังกล่าวว่า ความท้าทายในอนาคตจะหันมาที่การกระจายบริการมากขึ้น ต่างจากเดิมที่จะเน้นการกระจายสินค้า ซึ่งสำหรับธนาคารคือการกระจายบริการความรู้ทางการเงินจากผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่จำกัดให้สามารถไปบริการในสถานที่ต่างๆ ได้มากขึ้น ดังนั้น KK Magic Mirror ถือว่าตอบโจทย์เนื่องจากต้นทุนเพียงหลักแสนแต่สามารถกระจายบริการที่ปรึกษาทางการเงินออกไปได้ เปรียบเสมือนมีสาขาเสมือนจริงไปตั้งอยู่ เทียบการตั้งสาขาจริงที่ต้องลงทุนเริ่มต้นเป็นหลักล้านและต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนอีก  ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจของธนาคารเกียรตินาคินที่ไม่ได้เน้นการให้บริการแบบธุรกรรมดั้งเดิม ฝาก ถอน โอน จ่าย หรือ Transaction Banking แต่เน้นไปที่การให้บริการที่ปรึกษาด้านการเงินมากกว่า รวมทั้งขนาดที่เล็กของธนาคารมาตั้งแต่เดิม ทำให้ไม่ต้องเผชิญปัญหาที่ต้องลดขนาดของธนาคารแบบดั้งเดิมลงก่อน แต่สามารถเดินได้ไปในทิศทางใหม่ได้ทันที

บริการของ KK Magic Mirror มี 2 ระดับ 1) การโต้ตอบกับพนักงานเสมือนจริง โดยเพียงตอบข้อมูลทางการเงิน 2 คำถาม ระบบจะสรุปแนวทางการวางแผนการลงทุนเบื้องต้นในรูปแบบเฉพาะบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการลงทุนอย่างเต็มรูปแบบที่สาขาธนาคารต่อไป 2) พูดคุยซักถามข้อมูลเพิ่มเติมกับกูรูทางการเงินจากกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรในรูปแบบ Live Video Call เพื่อตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมือด้านการเงินทั่วไปที่มักมีลักษณะเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ KK Magic Mirror ถูกออกแบบมาให้พูดคุยโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้เหมือนกำลังสื่อสารกับมนุษย์จริงเพื่อสร้างความรู้สึกที่เป็นมิตรและเข้าถึงง่าย

ดร.อนุชิตกล่าวว่า ธนาคารมั่นใจว่า KK Magic Mirror จะเป็นช่องทางเข้าถึงที่ปรึกษาทางการเงินขั้นพื้นฐาน และช่วยให้ผู้สนใจด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สะดวกเข้าไปรับบริการที่สาขาธนาคาร ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่ผ่าน KK Magic Mirror ได้ใน 5 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน สาขาอโศก, ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ศูนย์การค้าเควิลเลจ, ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, และอาคารซีพีทาวเวอร์ 1 สีลม ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป

“KK Magic Mirror นับเป็นอีกหนึ่งระดับของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดไปสู่การขยายฐานลูกค้า หลังจากนี้ ธนาคารยังมีแผนพัฒนาช่องทางการให้บริการและผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิทัลอีกอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่เริ่มติดต่อหรือทำธุรกรรมจากบนแพลตฟอร์มออนไลน์ร่วม 50,000 รายต่อปี โดยตั้งเป้าจะเพิ่มฐานลูกค้าในส่วนนี้อีกราว 20%” ดร.อนุชิตกล่าว

อนึ่ง จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า จำนวนธุรกรรมที่ประชาชนทำผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและตู้ ATM ลดลงจากประมาณ 41% ของธุรกรรมทั้งหมดในปี 2553 เหลือเพียง 17% ในปัจจุบัน ขณะที่ธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจากประมาณ 15% เป็น 66% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยสาเหตุที่ประชาชนหันมาทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้นมี 2 ประการ ได้แก่ หนึ่ง กระแสเทคโนโลยียุค 4.0 (Industry 4.0) ที่ทำให้การใช้โทรศัพท์มือถือและรูปแบบธุรกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) มีมากขึ้น และสอง การนำเสนอบริการพร้อมเพย์หรือการโอนเงินและรับโอนเงินที่ผูกบัญชีเงินฝากธนาคารเข้ากับหมายเลขบัตรประชาชนหรือโทรศัพท์มือถือตามโครงการ National e-Payment ของภาครัฐ ซึ่งช่วยลดทอนค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมูลค่าสะสมการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์ล่าสุดอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท และมีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ของบุคคลธรรมดาแล้ว 37 ล้านบัญชี และของนิติบุคคลอีก 4.5 หมื่นบัญชี