ThaiPublica > คอลัมน์ > วิธีการทำนายว่าคุณกับแฟนจะหย่ากันไหมในอนาคตในเวลาเพียงเเค่สามนาที

วิธีการทำนายว่าคุณกับแฟนจะหย่ากันไหมในอนาคตในเวลาเพียงเเค่สามนาที

7 กรกฎาคม 2017


ณัฐวุฒิ เผ่าทวีwww.powdthavee.co.uk

มีเพื่อนๆ คนไหนที่เพิ่งแต่งงานกันไปบ้างครับ

ถ้ามีขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ

แล้วเพื่อนๆ อยากรู้ไหมครับว่า ตามผลงานการวิจัยของนักจิตวิทยา John Gottman นั้น อะไรเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ทำนายว่าคู่ที่แต่งงานใหม่ๆ นั้นจะอยู่กันรอดไม่รอด

ถ้าอยากรู้จริงๆ ลองทำตามที่ผมแนะนำก่อนนะครับ

ก่อนอื่นเลยผมอยากให้คุณและคู่ของคุณมาลองนั่งคุยกันในหัวข้อที่ว่า “อะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณและคู่ของคุณเคยผิดใจกัน” ซึ่งมันจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณผู้ชายหนีเที่ยวบ่อย หรือคุณผู้หญิงช็อปเยอะจนเกินไป ซึ่งให้เวลาที่ต้องใช้คุยกันเพียงแค่ 15 นาทีนะครับ

และถ้ามีใครมี iPhone หรือ iPad ระหว่างคุยกันก็ให้อัดเสียงเรื่องที่คุยกันไว้ด้วยนะครับ

โอเค

เสร็จเรียบร้อยนะครับ

งั้นผมจะเล่าแล้ว

ระหว่างปี 1989 และ 1992 John Gottman และนักวิจัยอีกหลายคนได้เชิญคู่ข้าวใหม่ปลามันจำนวน 124 คู่ด้วยกันมานั่งคุยในแล็บอย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างบนแล้วก็อัดเทปของการคุยของแต่ละคู่เอาไว้ หลังจากนั้น John ก็โควตคำพูดออกมาเป็นพฤติกรรมต่างๆ นานา ซึ่งก็มีอารมณ์ขัน (humour) อาการรังเกียจ (disgust) การหลบหลีกคำถาม (stonewalling) และการเถียงและไม่ยอมต่อกัน (belligerence) เป็นต้น หลังจากนั้นเขาก็ตามไปเก็บข้อมูลของคู่ทั้ง 124 คู่หกปีหลังจากที่เชิญพวกเขามาที่แล็บครั้งแรก

และในงานวิจัยของเขา เขาพบว่าเขาสามารถใช้ข้อมูลพฤติกรรมที่เขาเก็บเพียงแค่สามนาทีแรกเท่านั้นในการทำนายว่าใครยังอยู่ด้วยกัน และใครจะหย่าในเวลาเพียงแค่หกปีเท่านั้น

John Gottman พบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดสี่ปัจจัยในการทำนายว่าคู่ไหนจะยังอยู่ด้วยกันหกปีให้หลังก็คือ ความสุข (joy) อารมณ์ขัน (humour) ความรัก (affection) และการยอมรับในความคิดเห็นของอีกฝ่าย (validation)

ส่วนปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำนายว่าคู่ไหนจะหย่าร้างกันเพียงในเวลาหกปีก็คือดูถูก (contempt) รองลงมาก็คืออาการรังเกียจ (disgust) รองลงมาอีกก็คืออาการหาเรื่องมาปกป้องตนเอง (defensiveness) การหลบหลีกคำถาม (stonewalling) และการเถียงและไม่ยอมซึ่งกันและกัน (belligerence)

และตามผลงานวิจัยของ John Gottman นั้นการดูถูกกันในคู่ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นอะไรที่ฟังดูแย่ (พูดง่ายๆ ก็คือไม่จำเป็นต้องด่ากันก็ได้) ความหมายของการดูถูก หรือ contempt แค่มีคนหนึ่งในคู่พูดคำว่า

“….แต่ผม/ฉันว่า…”

ก็เป็น contempt แล้ว

เพราะการพูดคำว่า “แต่” ในการพูดกันในหัวข้อที่ว่า อะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณและคู่ของคุณเคยผิดใจกันนั้นเป็นการแสดงออกลึกๆ ของคนที่พูดต่อคนที่กำลังฟังอยู่ว่า “คุณจะพูดอะไรมาก็ช่างคุณ เพราะสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่นั้นมันผิด และสิ่งที่ผม/ฉันกำลังพูดอยู่นั้นมันถูก”

แล้วคุณกับแฟนคุณพูดคำว่า “แต่” นี่กี่ครั้งกันครับ 🙂 หวังว่าคงจะไม่เยอะมากนะครับ

ป.ล. สำหรับในประเทศของเราที่มีการสร้างตราบาปกับการหย่าร้างกัน งานวิจัยของ John Gottman อาจจะใช้ในการทำนายโอกาสการหย่าร้างไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าเรายังสามารถใช้มันในการทำนายว่าคู่ไหนจะยังมีความสุขกับชีวิตแต่งงานหกปีให้หลังอยู่บ้าง

อ่านเพิ่มเติม
ที่นี่