ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสเศรษฐกิจ > ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดรวม 5 ราย 5.9 ล้านบาท กรณีสร้างราคาหุ้น YCI

ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดรวม 5 ราย 5.9 ล้านบาท กรณีสร้างราคาหุ้น YCI

13 ธันวาคม 2016


thaipublica-sec
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยคำสั่งคณะกรรมการเปรียบเทียบผู้กระทำผิด 5 ราย กรณีเป็นตัวการร่วมกันสร้างราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้น บริษัท ยงไทย จำกัด (มหาชน) (YCI) ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ อินทรสงเคราะห์ (2) นางวรณัน เลิศกุลธรรม (3) นายภาณุรักษ์ แสงอร่าม (4) นายจรรยา ลี้รุ่งเรืองพร และ (5) นางสาวกรญฉัช ยอดอภิกุล รวมเป็นเงิน 5,917,125 บาท โดยความผิดดังกล่าวเป็นกรณีเดียวกันกับที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบุคคล 3 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไปก่อนหน้านี้

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 ก.ล.ต. กล่าวโทษ นายศิร์วสิษฏ์ สายน้ำผึ้ง กรณีตกลงรู้เห็นร่วมกับบุคคลอีก 5 ราย ในการใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์จำนวนหลายบัญชีเข้าซื้อขายหุ้น YCI ในลักษณะอำพรางเพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าหุ้น YCI มีการซื้อขายกันมาก โดยมีการซื้อขายอย่างต่อเนื่องในระหว่างวันที่ 10 – 27 กันยายน 2556 ทำให้ราคาและปริมาณซื้อขายหุ้น YCI ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยผู้สนับสนุน 2 ราย คือ นางสาวนพวรรณ สุวรรณ และนายวิโรจน์ อานกแก้ว ได้ให้ยืมใช้ชื่อในการซื้อขาย เพื่อสร้างราคาโดยได้รับค่าตอบแทนจากการดำเนินการดังกล่าวนั้น

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 243(1)(2) ประกอบมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ต่อมาตัวการร่วมอีก 5 ราย ดังกล่าว คือ นายยรรยงค์ นางวรณัน นายภาณุรักษ์ นายจรรยา และนางสาวกรญฉัช ได้เข้ารับการพิจารณาเปรียบเทียบความผิดจากคณะกรรมการเปรียบเทียบ และเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ได้ชำระค่าปรับตามคำสั่งคณะกรรมการเปรียบเทียบครบถ้วนทั้ง 5 ราย เป็นเงินรายละ 1,183,425 บาท

ทั้งนี้ ผู้ร่วมกระทำผิดส่วนใหญ่ได้เข้ารับการเปรียบเทียบความผิดในเรื่องดังกล่าวนั้น จึงเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีกับนายศิร์วสิษฏ์ นางสาวนพวรรณ และนายวิโรจน์ ที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษไปแล้ว

และเนื่องจากนางสาวกรญฉัชเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน อันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนด้วย1

ดังนั้น ก.ล.ต. จึงสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนและกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไปของนางสาวกรญฉัช เมื่อพ้น 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2559

หมายเหตุ: 1.ทั้งนี้ การไม่ปฏิบัติตามข้อ 20(5) แห่งประกาศ ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบของบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 เป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 6(2) แห่งประกาศที่ ทธ/น/ข. 37/2553 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อ 23(5) และเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(2) แห่งประกาศที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ที่ใช้บังคับแทนประกาศทั้งสองฉบับดังกล่าว