ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น ได้เปิดแถลงข่าวผลการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลัง มีมติไล่ออกจากราชการ ข้าราชการกรมสรรพากรจำนวนหนึ่ง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับกลุ่มผู้ส่งออกเศษเหล็ก 30 ราย โดยไม่ได้ประกอบกิจการจริง ทำให้รัฐเสียหายอย่างร้ายแรง คิดเป็นวงเงิน 3,209 ล้านบาท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2559 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ได้มีมติชี้มูลความผิดนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตข้าราชการสรรพากรระดับซี 9 พื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 ในคดีร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 597,728,229 บาท กรณีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการขอคืน VAT ดังกล่าว และให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินตามมาตรา 80 (4) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ทรัพย์สินดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
- เงินจากกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการส่งออกที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ จำนวน 26 บริษัท ได้ฝากเข้าบัญชีเงินฝากของนายสุวัฒน์และบุคคลใกล้ชิด รวมเป็นเงิน 415,897,041 บาท
- เงินที่อยู่ในชื่อของนายสุวัฒน์ คู่สมรส บุตร และญาติพี่น้องของคู่สมรส ซึ่งนายสุวัฒน์ไม่สามารถชี้แจงถึงที่มาของทรัพย์สินได้ รวมเป็นเงิน 181,831,188 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ ถือเป็นคดีที่ 2 ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ มีมติชี้มูลความผิดในคดีร่ำรวยผิดปกติ กับผู้เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการขอคืนภาษี และส่งเรื่องให้ อสส. ยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ต่อจากกรณีนายศุภกิจ ริยะการ (สิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ) อดีตข้าราชการสรรพากรระดับซี 9 พื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 รวมมูลค่า 31,754,337 บาท
น.ส.สุภากล่าวว่า ป.ป.ช. จะพยายามนำทรัพย์สินที่ถูกโกงไปกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด โดยนอกจากกรณีนายสุวัฒน์และนายศุภกิจแล้ว ยังเหลือนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช.
เมื่อถามว่า ป.ป.ช. จะเรียกร้องความเสียหายจากบริษัทเอกชนที่ยื่นขอคืนภาษีเป็นเท็จด้วยหรือไม่ น.ส.สุภากล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่กำลังตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาส่งฟ้อง ส่วนจะขยายผลไปยังบุคคลกลุ่มใดได้อีกบ้างนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช.