ThaiPublica > เกาะกระแส > “ประยุทธ์” ยันเร่งจับคนร้ายวางระเบิดราชประสงค์ ตั้ง “จักรทิพย์” ทำคดี ช่วยผู้เสียชีวิต 1 แสน – ทูลเกล้าฯ รายชื่อปรับ ครม. แล้ว

“ประยุทธ์” ยันเร่งจับคนร้ายวางระเบิดราชประสงค์ ตั้ง “จักรทิพย์” ทำคดี ช่วยผู้เสียชีวิต 1 แสน – ทูลเกล้าฯ รายชื่อปรับ ครม. แล้ว

18 สิงหาคม 2015


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แถลงผ่านทีวีพูล แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 พร้อมยืนยันว่าจะเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด ที่มาภาพ: www.thaigov.go.th
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แถลงผ่านทีวีพูล แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 พร้อมยืนยันว่าจะเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด ที่มาภาพ: www.thaigov.go.th

เมื่อวันที 18 สิงหาคม 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ซึ่งใช้เวลาประชุมเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยก่อนการประชุมนายกฯ ยังได้ประชุมวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อสรุปสถานการณ์เหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ กทม. เมื่อค่ำวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา

เผยระเบิดราชประสงค์หวังทำลายการท่องเที่ยว – ยังไม่ฟันธงกลุ่มใด

พล.อ. ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ครม. ถึงเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้ส่งสารแสดงความเห็นใจไปยังผู้นำของประเทศที่มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว และมีการประสานให้ดูแลชาวต่างชาติรวมถึงสถานทูต ยืนยันว่าจะเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมกันนี้ อยากขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้นำเสนอแต่ข้อเท็จจริงเท่านั้น

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่ขอสรุปว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด และไม่ตัดประเด็นใดทั้งสิ้น ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน ที่สรุปได้คือเป็นการกระทำของคนเลว ที่ไม่เห็นแก่ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ยอมรับว่าป้องกันได้ยาก เพราะคนร้ายนำระเบิดมาวางในสถานที่ซึ่งคนพลุกพล่าน ส่วนที่การข่าวอ้างว่าอาจมีเหตุจากการเมืองระหว่างประเทศ ยังไม่อยากลงความเห็นไปในทางทางใดทางหนึ่ง เพราะอาจทำให้การตั้งประเด็นการสืบสวนผิดพลาดไป

“เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด ที่ผ่านมาเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ แต่ครั้งนี้มุ่งหวังชีวิตประชาชน เพื่อสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวที่มาของเหตุระเบิดอาจเกิดจากประเด็นเรื่องชาวอุยกูร์ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำไมจะต้องพูดให้ชัดว่าใครทำ ยังไม่ทราบทั้งนั้น กำลังตามอยู่ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง ระหว่างการเมืองภายในประเทศกับการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งยังไม่ได้ตัดว่าเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่ง

“อยากให้ประชาชนระมัดระวังตัว ก็รู้กันอยู่ว่ามีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกจนไม่ยอมใช้เงินใช้ทองเลย เพราะจะยิ่งทำให้เดือดร้อนกันเข้าไปอีก” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

เผยเสียชีวิตแล้ว 20 คน – วอนช่วยส่ง “ภาพ-คลิป” เหตุการณ์ให้ตำรวจทำคดี

พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการส่งภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเหตุการณ์ มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการเปรียบเทียบ โดยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 1599 และช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากพบเจอวัตถุต้องสงสัยให้รีบแจ้งทันที และอย่าหลงเชื่อข่าวลือที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการไม่เผยแพร่ภาพสยดสยอง หรือการตั้งคำถามชี้นำในเชิงลบ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับคืนสู่ประเทศโดยรวม

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้รัฐมนตรี 6 คน เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้บาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ

“สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้ ยังอยู่ที่ 20 คน เป็นชาวมาเลเซีย 2 คน ชาวจีน 2 คน ชาวฮ่องกง 2 คน ชาวสิงคโปร์ 1 คน ชาวไทย 5 คน และไม่ทราบสัญชาติ 8 คน จำนวนผู้บาดเจ็บ อยู่ที่ 125 คน เป็นชาวจีน 20 คน ชาวฮ่องกง 2 คน ชาวมาเลเซีย 2 คน ชาวไทย 42 คน ชาวญี่ปุ่น 1 คน ชาวสิงคโปร์ 2 คน ชาวอินโดนีเซีย 1 คน ชาวฟิลิปปินส์ 1 คน ชาวโอมาน 1 คน ชาวมัลดีฟส์ 1 คน และไม่ทราบสัญชาติ 42 คน” พล.ต. สรรเสริญกล่าว

ช่วยผู้เสียชีวิตรายละ 1 แสน – ตั้ง “จักรทิพย์” คุมทำคดี

ด้าน พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษก คสช. แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทีวีพูล) ว่า สตช. ได้ตั้งคณะทำงานพิเศษ โดยมี พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อคลี่คลายเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เบื้องต้นคณะทำงานชุดนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ มีการตั้งจุดตรวจตามสถานที่สำคัญใน กทม. และปริมณฑล รวม 88 จุด ส่วนในต่างจังหวัด ให้ทหารและตำรวจร่วมกันตั้งจุดตรวจในชุมชนรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

สำหรับเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียหาย พ.อ. วินธัย กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จะจ่ายค่าตอบแทน กรณีบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากิน วันละ 200 บาท ต่อ 1 ปี ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 30,000 บาท และค่าห้องวันละ 600 บาท ในกรณีที่เสียชีวิต ทายาทจะได้รับค่าตอบแทน จำนวน 100,000 บาท

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะจ่ายเงินจากกองทุนประกันภัยนักท่องเที่ยว ให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีได้รับบาดเจ็บ ไม่เกิน 100,000 บาท และกรณีเสียชีวิต ไม่เกิน 300,000 บาท

ห่วงกระทบนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กำลังประเมินผลกระทบของเหตุดังกล่าวต่อการท่องเที่ยว คาดว่าจะมีผลระดับหนึ่ง กลุ่มคือพวกที่เดินทางมาประชุม (MICE) ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับบริษัทประกันของต่างชาติ ถ้าให้ประกัน ก็คงมา แต่ถ้าไม่ให้ประกัน ก็อาจไม่มา กลุ่มถัดไปคือกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ ที่น่าจะตัดสินใจเองได้ ถ้าเป็นห่วง กทม. สามารถไปเที่ยวที่อื่นได้ ทั้งเชียงใหม่หรือภูเก็ต ช่วงที่เกิดเหตุสี่แยกราชประสงค์ก่อนหน้านี้ กรุ๊ปทัวร์ก็ไปตามต่างจังหวัดแทน

นางกอบกาญจน์ยังกล่าวถึงการจ่ายเงินเยียวยานักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีเงินกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวอยู่ โดยจะให้เงินช่วยเหลือ 2,000 บาท/วัน สูงสุดไม่เกิน 10 วัน นอกจากนี้จะอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า ให้กับญาติพี่น้องของนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ และต้องการเดินทางมาเยี่ยมในไทย

ทูลเกล้าฯ รายชื่อ “รบ.ประยุทธ์ 3” แล้ว – ปรีดิยาธรเข้าใจเหตุผลปรับ ครม.

พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในปรับ ครม. ว่า ได้ส่งรายชื่อทูลเกล้าฯ ไปแล้ว รอเพียงการโปรดเกล้าฯ ลงมาเท่านั้น และจะมีการชี้แจงต่อไป

ด้าน พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯ ได้กล่าวชี้แจงในที่ประชุม ถึงความจำเป็นในการปรับ ครม. ซึ่งมีการทูลเกล้าฯ รายชื่อไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 โดยยืนยันว่าไม่ได้ปรับตามกระแสข่าวหรือข่าวลือ แต่เป็นเพราะทำงานร่วมกันมาครบ 1 ปีแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะปรับเปลี่ยนให้เกิดความเหมาะสม รองนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่จะถูกปรับออกก็ยังเป็นพี่น้องกันอยู่ และจะมีการแต่งตั้งให้กลับมาเป็นที่ปรึกษา เปรียบเสมือนจากผู้เล่นก็กลายมาเป็นโค้ช

“หลังจากนายกฯ แจ้งต่อที่ประชุม รองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายคน รวมถึง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ก็ได้กล่าวแสดงความเห็นคิดเห็น ซึ่งทุกคนก็เข้าใจเหตุผลในการปรับ ครม. ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น” พล.ต. สรรเสริญกล่าว

ด้านนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมีข่าวว่าจะถูกปรับออกจาก ครม. กล่าวว่า ได้หารือเรื่องงานกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรแล้ว อยากให้ผลักดันร่างกฎหมายภาษีที่ดินต่อ เพราะได้ผ่านการศึกษาและปรับปรุงแก้ไขจนเสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงการเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีที่ติดอยู่ในโผว่าจะถูกปรับออกตามหน้าสื่อ นอกจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังรวมถึงรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน เป็นต้น

ไฟเขียวร่วมโครงการอบรม รปภ.การบินของ ICAO

สำหรับวาระการประชุม ครม. อื่นๆ ที่น่าสนใจ

พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้เข้าร่วมโครงการความร่วมมือด้านการรักษาความปลอดภัยการบินระหว่างกรมการบินพลเรือน (บพ.) กับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) โดยให้อธิบดี บพ. เป็นตัวแทนไปลงนาม โดยโครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557 จนถึงเดือนมิถุนายน 2562 แม้จะเข้าร่วมช้าไป 1 ปี แต่ก็ถือว่าไม่ช้าเกินไป เพราะ ICAO จะเข้ามาประเมินการรักษาความปลอดภัยการบินไทย ในปี 2560 โดยมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการปีละ 1 ล้านบาท

สิ่งที่ บพ. จะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการนี้ มีอย่างน้อย 4 ประการ

– โครงร่างของการเขียนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้แก่ โปรแกรมการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ, โปรแกรมฝึกอบรมการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนระดับชาติ และโปรแกรมควบคุมคุณภาพการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนระดับชาติ ตลอดจนโมเดลกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น Aviation Security Act และ Aviation Security Regulations

– การได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจาก ICAO ตลอดจนประเทศสมาชิกที่มีความพร้อมมากกว่า

– เจ้าหน้าที่ บพ. ได้เข้าร่วมฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ภายใต้โครงการ CASP-AP Phase III

– การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ จากประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ

“แม้การรักษาความปลอดภัยการบินจะเป็นคนละประเด็นกับที่ ICAO ให้ใบแดง แต่ก็ไม่ไกลจากกันมากนัก และเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่ไทยจะรับการตรวจสอบจาก ICAO อีกครั้ง ในอีก 2 ปีข้างหน้า” พล.ต. สรรเสริญกล่าว

เลื่อนตั้งปลัดกระทรวงเพิ่มเติมเป็นสัปดาห์หน้า

สำหรับการแต่งตั้งปลัดกระทรวงแทนตำแหน่งที่จะว่างลง ซึ่งเดิม นายกฯ เคยระบุว่าจะให้เสร็จสิ้นทุกกระทรวงภายในสัปดาห์นี้ พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ ไม่มีรัฐมนตรีรายใดเสนอวาระแต่งตั้งปลัดกระทรวงเข้ามาให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเพิ่มเติม สิ่งที่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวคือจะให้แต่งตั้งปลัดกระทรวงทุกกระทรวงที่จำเป็นให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม 2558 เพื่อให้ปลัดกระทรวงคนใหม่มีส่วนในการจัดทำโผแต่งตั้งโยกย้ายภายในกระทรวง ดังนั้น จึงยังเหลือการประชุม ครม. อีกครั้ง คือสัปดาห์หน้า