ThaiPublica > เกาะกระแส > DSI ตามรอยเช็ค พบสหกรณ์คลองจั่นฯ จ่ายเงินให้ “ธรรมกาย” เพิ่มอีกเป็น 1.2 พันล้าน – ซื้อที่ดินในชื่อพระ ออกหมายเรียก 3 วัด

DSI ตามรอยเช็ค พบสหกรณ์คลองจั่นฯ จ่ายเงินให้ “ธรรมกาย” เพิ่มอีกเป็น 1.2 พันล้าน – ซื้อที่ดินในชื่อพระ ออกหมายเรียก 3 วัด

26 สิงหาคม 2015


นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น (แฟ้มภาพ)

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท. สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และ พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการของพนักงานสอบสวนในคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น (สหกรณ์คลองจั่นฯ) กรณีเข้าตรวจค้นบ้านพักของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์คลองจั่นฯ ที่มีส่วนร่วมสนับสนุนการกระทำผิดกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตคลองจั่น จำนวน 7 จุด ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ประกอบด้วย

1.บ้านพักของนายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์คลองจั่นฯ

2.บ้านพักของนายลภัส โสมคำ อดีตเลขานุการของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร

3.บ้านพักของนางสรันยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์คลองจั่นฯ

4.บ้านพักของนางกฤษา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ สหกรณ์คลองจั่นฯ

5.บ้านพักของ น.ส.สิรภัทร โพธิ์พรม อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ สหกรณ์คลองจั่นฯ

6.บ้านพักของ น.ส.จันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์คลองจั่นฯ

7.บ้านพักของนางวันเพ็ญ ยอดดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน สหกรณ์คลองจั่นฯ

พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้น พบเอกสารการสัญญา รวมถึงสำเนาเช็คสั่งจ่ายเงินให้กับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มูลนิธิรัตนคีรี สำเนาหนังสือซื้อขายที่ดิน ใบรับฝากเช็ค หลักฐานเกี่ยวกับการจ่ายเงินทดรองจ่ายให้กับนายศุภชัย ทั้งนี้ ดีเอสไอจะออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องประมาณ 10-13 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน 2558 เนื่องจากหลักฐานพบว่าเกี่ยวข้องกับการตกแต่งบัญชีอันเป็นเท็จตั้งแต่ปี 2551-2555 ซึ่งในช่วงดังกล่าวสหกรณ์คลองจั่นฯ มีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง แต่ยังจ่ายเงินปันผล 10% ทำให้สมาชิกสำคัญผิดในสถานภาพของสหกรณ์คลองจั่นฯ โดยผู้ที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์คลองจั่นฯ ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลเข้าระบบ และเจ้าหน้าที่ที่ทำสัญญาเงินกู้ปลอม ทำรายงานประจำปีอันเป็นเท็จ ทำให้นายศุภชัยสามารถดึงเงินออกจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ผ่านบัญชีเพื่อความมั่นคง ซึ่งเป็นบัญชีกระแสรายวัน ที่นายศุภชัยสามารถดึงเงินออกจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ได้โดยอัตโนมัติ

ด้าน พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเช็คสั่งจ่ายของสหกรณ์คลองจั่นฯ ว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ดีเอสไอตรวจพบว่ามียอดการรับเช็คเพิ่มเติมจากเดิมที่พบว่ามีกว่า 600 ล้านบาท แต่การตรวจสอบล่าสุดพบยอดรับเช็ครวมเพิ่มเติมเท่าตัวคือกว่า 1,216 ล้านบาท แบ่งเป็นเช็คสั่งจ่ายให้พระธัมมชโย จำนวน 8 ฉบับ เป็นเงิน 431 ล้านบาท สั่งจ่ายวัดพระธรรมกาย 10 ฉบับ จำนวน 642 ล้านบาท จ่ายมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง 5 ฉบับ จำนวน 142 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมาวัดธรรมกายไม่เคยให้ข้อมูลในส่วนนี้ แต่แจ้งเพียงว่าหากมียอดเงินเกินกว่า 600 ล้านบาท จะขอไปตกลงกับสหกรณ์คลองจั่นฯ เอง

ส่วนสหกรณ์ 9 แห่งที่รับเช็คจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ดีเอสไอพบว่าเป็นการทำธุรกรรมปกติมีมูลหนี้กันจริง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการนำเงินจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ไปซื้อที่ดินในชื่อของพระวิรัตน์ จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 20 ไร่ ใน จ.พิจิตร และที่ดินของพระประยูร จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 27 ไร่ ใน จ.ชุมพร ซึ่งดีเอสไอจะอายัดที่ดินตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นางสุวณา กล่าวว่า ในชั้นสอบสวนมีเจ้าอาวาสวัด จำนวน 3 รูป ที่ได้รับเช็คจากสหกรณ์คลองจั่นฯ วัดละประมาณ 10 ล้านบาท ไม่ติดต่อเข้าให้ปากคำตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง ตามขั้นตอนดีเอสไอต้องแจ้งความดำเนินคดีฐานขัดหมายเรียก และเสนอให้พนักงานอัยการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดกิ่วลม เจ้าอาวาสวัดสะนาม และเจ้าอาวาสวัดบ้านขุน ซึ่งทั้ง 3 วัด ตั้งอยู่ใน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่