ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > รื้อโควตาสลาก 22 ล้านฉบับ ใครได้-ใครเสีย!

รื้อโควตาสลาก 22 ล้านฉบับ ใครได้-ใครเสีย!

23 มิถุนายน 2015


หลังจากวันที่ 15 มิถุนายน 2558 คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติให้สำนักงานสลากฯ พิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่มอีก 22 ล้านฉบับ หรือ 11 ล้านคู่ เพื่อทดแทนสลากบำรุงการกุศลเดิม (ยุติการพิมพ์ออกขายตั้งแต่งวดวันที่ 1 กันยายน 2558 เป็นต้นไป) โดยให้จัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลลอตนี้แก่มูลนิธิ สมาคม องค์กรการกุศล นิติบุคคล (ตัวแทนจำหน่ายสลากบำรุงการกุศลเดิม) ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการในสัดส่วนเท่าเดิมที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ แต่ถ้าเป็นมูลนิธิและสมาคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนพิการจะถูกปรับลดโควตาสลากลง 30-50% ของจำนวนโควตาสลากบำรุงการกุศลเดิมที่เคยได้รับ นี่คือนโยบายของบอร์ดชุดใหม่ที่มอบหมายให้สำนักงานสลากฯ รับไปดำเนินการ

บอร์ดสลากสั่งรื้อโควตา 22 ล้านฉบับ แต่ไม่เปิดเผยรายชื่อ

แม้จะมีการรื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลใหม่ แต่สำนักงานสลากฯ ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการจัดสรรโควตาผ่านเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแต่อย่างใด ซึ่ง พ.ท. หนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้เหตุผลในการจัดสรรใหม่ว่า “สำนักงานสลากฯ ได้ปรับลดโควตาของมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลลง 50% จากเดิมเคยได้รับการจัดสรรโควตาสลาก 20,000 เล่มใหญ่ ลดเหลือ 10,000 เล่มใหญ่ (1 เล่มใหญ่มี 100 คู่ หรือ 200 ฉบับ) ลดลง 50% ส่วนตัวแทนจำหน่ายสลากรายใหญ่ 3 ราย เดิมเคยได้โควตา 8,000 เล่มใหญ่ ลดเหลือ 5,000 เล่มใหญ่ ลดลง 30% และตัวแทนจำหน่ายสลากขนาดกลาง 10 ราย เดิมเคยได้โควตา 600 เล่มใหญ่ ลดเหลือ 400 เล่มใหญ่ ลดลง 30% เช่นกัน การปรับลดโควตาสลากลอตนี้ ทำให้มีโควตาเหลือ 19,000 เล่มใหญ่ บอร์ดสลากฯ มีมติให้นำโควตาที่เหลือมาจัดสรรให้มูลนิธิกีฬาคนพิการ 2 แห่ง ที่เคยมาลงทะเบียนกับสำนักสลากฯ แต่ไม่ได้รับการจัดสรรโควตาสลากมาก่อน คือ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 12,000 เล่มใหญ่ และสมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย 7,000 เล่มใหญ่ โดยสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลลอตนี้มีอายุ 4 เดือน”

ใครได้ใครเสียปรับโครง

สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า จึงนำรายชื่อตัวแทนจำหน่ายสลากบำรุงการกุศลเดิมที่เคยได้รับการจัดสรรโควตาสูงสุด 20 อันดับแรก มาจัดเรียงลำดับใหม่อีกครั้ง โดยพิจารณาจากจำนวนโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้รับการจัดสรรครั้งล่าสุดมาจัดลำดับใหม่ พร้อมกับประมาณการรายได้ที่ตัวแทนจำหน่ายสลากได้รับในแต่ละงวด และตลอดอายุสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก 4 เดือน เปรียบเทียบกับโควตาสลากการกุศลเดิมที่เคยได้รับ ภายใต้สมมติฐานส่วนลดใหม่ตามมติบอร์ดสลากเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 โดยกระทรวงการคลังยอมให้สำนักงานสลากฯ ลดเงินนำส่งคลังลง 8% ต่อปี (จาก 28% ลดเหลือ 20%) เฉพาะช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2558 ทำให้รัฐขาดรายได้ 1,500 ล้านบาท

ลดเงินนำส่งคลัง 8% – เพิ่มรายได้ให้ยี่ปั๊ว-ซาปั๊วคู่ละ 4 บาท

สำหรับการจัดสรรเงินรายได้จากการจำหน่ายสลาก 8% สำนักงานสลากฯ นำเงินรายได้ส่วนหนึ่งโอนให้ “กองทุนสำนักงานสลากเพื่อการพัฒนาสังคม” งวดละ 3% ส่วนที่เหลืออีก 5% นำมาเพิ่มส่วนลดหรือเพิ่มรายได้ให้ตัวแทนจำหน่ายสลากคู่ละ 4 บาท ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ผสมผสานกับมาตรการปราบปรามผู้ค้าสลากเกินราคาอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมราคาสลากปลายทางไม่ให้เกิน 80 บาทต่อคู่

ด้วยมาตรการโยกเงินนำส่งคลังมาเพิ่มส่วนลดให้ผู้ค้าสลากครั้งนี้ ทำให้ตัวแทนจำหน่ายสลาก ประเภทมูลนิธิและสมาคม องค์กรการกุศล และนิติบุคคล มีส่วนต่างรายได้ (Margin) เพิ่มขึ้นเป็นคู่ละ 11.20 บาท จากเดิมคู่ละ 7.20 บาท (ต้นทุนสลากเดิมคู่ละ 72.80 บาท ลดเหลือ 68.80 บาท) ส่วนตัวแทนจำหน่ายทั่วไปและคนพิการ มีส่วนต่างรายได้เพิ่มขึ้นเป็นคู่ละ 9.60 บาท จากเดิมได้คู่ละ 5.60 บาท (ต้นทุนเดิมคู่ละ 74.40 บาท ลดเหลือ 70.40 บาท)(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

โควต้าหวย

จากนั้น สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าได้นำรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการจัดสรรโควตาสลากสูงสุด 20 อันดับแรก (สลากกินแบ่งรัฐบาลลอต 11 ล้านคู่) มาวิเคราะห์เปรียบเทียบ ผลปรากฏว่า สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ ไม่เคยได้โควตาสลากมาก่อน กลายเป็นม้ามืดมาแรง ได้รับการจัดสรรโควตาจากสำนักงานสลากลอตนี้มากที่สุด 1,200,000 คู่ เบียดมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตกจากอันดับที่ 1 ลงมาอยู่อันดับที่ 3 หลังจากที่ถูกบอร์ดสลากสั่งลดโควตาสลาก 50% เพราะไม่เกี่ยวข้องกับคนพิการ นอกจากสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ ที่ได้รับการจัดสรรโควตาสลากมากที่สุดแล้ว ก็ยังมีสมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่เคยได้รับการจัดสรรโควตาสลากมาก่อน แต่ครั้งนี้สำนักงานสลากฯ จัดโควตาสลากให้ 700,000 คู่ ส่วนอันดับที่ 2 คือองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ไม่ถูกหั่นโควตา เพราะดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับการจัดสรรโควตาสลาก 1,050,000 คู่

เผยเอเย่นต์รายใหญ่-รายกลาง 6 ราย ไม่ถูกหั่นโควตา

การจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลลอตนี้มีตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่ 2 ราย “ไม่ถูกตัดโควตา” หรือได้รับการจัดสรรโควตาสลากตามสัดส่วนเดิม (โควตาสลากการกุศล) ได้แก่ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกได้รับการจัดสรรโควตาสลากมากเป็นอันดับที่ 2, สมาคมพนักงานผู้เกษียณอายุสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้รับการจัดสรรโควตาสลาก เป็นอันดับที่ 4 ส่วนตัวแทนจำหน่ายขนาดกลางที่ไม่ถูกตัดโควตาสลากมี 4 ราย ได้แก่ มูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัวอยู่อันดับที่ 9, มูลนิธิสโมสรรัฐสภา อยู่อันดับที่ 10, มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูประถัมภ์ และมูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ได้รับการจัดสรรโควตาสลากอยู่อันดับที่ 20 เป็นต้น

หากตัวแทนจำหน่ายสลากนำโควตาสลากที่ได้รับการจัดสรรใหม่ไปขายเองราคา 80 บาทต่อคู่ โดยไม่ผ่านยี่ปั๊วจะมีรายได้คู่ละ 11.20 บาท นำมาคำนวณกับจำนวนโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้รับการจัดสรรใหม่ ตัวแทนจำหน่ายสลากแต่ละรายจะมีรายได้จากการขายสลากเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 5 อันดับแรก มีดังต่อไปนี้ อันดับที่ 1 สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยได้รับการจัดสรรโควตาสลากมากที่สุดจะมีรายได้ 13.44 ล้านบาทต่องวด ครบกำหนดสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่าย 4 เดือนมีรายได้รวม 107.52 ล้านบาท อันดับที่ 2 องค์กรสงเคราะห์ทหารผ่านศึก มีรายได้ 11.76 ล้านบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 94.08 ล้านบาท อันดับที่ 3 และ 4 มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีรายได้ 11.20 ล้านบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 89.60 ล้านบาท และอันดับที่ 5 สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย มีรายได้ 7.84 ล้านบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 62.72 ล้านบาท (คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

มูลนิธิโควต้าหวย

แต่ถ้ามูลนิธิและสมาคม องค์กรการกุศล ไม่ขายเอง นำโควตาสลากที่ได้รับการจัดสรรไปขายส่งยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว จะได้รายได้คู่ละ 1.60 บาท ตามที่ นายชัยวัฒน์ พสกภักดี ประธานมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 หากตัวแทนจำหน่ายสลากกลุ่มนี้นำโควตาสลากขายส่งยี่ปั๊วแต่ละงวดมีรายได้ดังนี้ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยมีรายได้ 1.92 ล้านบาทต่องวด ครบอายุสัญญา 4 เดือนมีรายได้รวม 15.36 ล้านบาท, องค์กรสงเคราะห์ทหารผ่านศึก มีรายได้ 1.68 ล้านบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 13.44 ล้านบาท, มูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีรายได้ 1.6 ล้านบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 12.8 ล้านบาท, สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทยมีรายได้ 1.12 ล้านบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 8.96 ล้านบาท, มูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว มีรายได้ 4 แสนบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 3.2 ล้านบาท, มูลนิธิสโมสรรัฐสภามีรายได้ 1.6 แสนบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 1.28 ล้านบาท และมูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มีรายได้ 8 หมื่นบาทต่องวด ครบอายุสัญญามีรายได้รวม 6.4 แสนบาท

สำหรับตัวแทนจำหน่ายสลากรายใหญ่ที่ถูกหั่นโควตาลง 30-50% หากไม่ต้องการให้รายได้ลดลง ทางออก คือ ต้องพยายามตัดพ่อค้าคนกลาง ลดตัวหาร หรือเปิดแผงขายสลากเอง ซึ่งสอดคล้องกับคำสัมภาษณ์ของประธานมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ที่ว่า “หากสำนักงานสลากฯ จัดสรรโควตาสลากให้มูลนิธิสำนักงานสลากฯ ครั้งนี้มูลนิธิสำนักงานสลากฯ จะเปิดร้านขายสลากอย่างจริงจัง ทำเป็นเรื่องเป็นราว”