เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 12/2558 เรื่อง ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ในตำแหน่งต่อไป โดยมีสาระสำคัญคือ เนื่องจากนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องพ้นจากตำแหน่ง ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 เนื่องจากอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ขณะที่กรรมการ ป.ป.ช. อีก 4 คน ประกอบด้วยนายประสาท พงษ์ศิวาภัย นายภักดี โพธิศิริ นายวิชา มหาคุณ และนายวิชัย วิวิตเสวี จะพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากดำรงตำแหน่งครบวาระ 9 ปี ในวันที่ 21 ตุลาคม 2558
เพื่อมิให้ต้องดำเนินการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. 2 ครั้งในเวลาใกล้เคียงกัน อันจะเป็นการสร้างภาระแก่ผู้สนใจสมัครเข้ารับการสรรหาและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย อีกทั้งจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณของแผ่นดินโดยไม่จำเป็น จึงเห็นสมควรให้ดำเนินการสรรหาบุคคลแทนตำแหน่งที่ว่างไปในคราวเดียวกัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช. จึงมีคำสั่งให้นายปานเทพดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไปจนถึงวันที่ 21 ตุลาคม 2558
วันเดียวกัน พล.อ. ประยุทธ์ ยังลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2558 เรื่อง การสรรหากรรมการ ป.ป.ช. มีสาระสำคัญคือ ตามที่ได้มีประกาศ คสช. ฉบับที่ 48/2557 กำหนดให้การสรรหาบุคคลแทนตำแหน่งที่ว่างในองค์กรอิสระ ซึ่งรวมถึง กรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เคยดำเนินการสรรหากันมาแล้วตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 โดยมีคณะกรรมการสรรหา จำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1. ประธานศาลฎีกา 2. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 3. ประธานศาลปกครองสูงสุด 4. ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ 5. ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
แต่เนื่องจากขณะนี้ไม่มีผู้นำฝ่ายค้านฯ ขณะที่ประธานศาลปกครองสูงสุดอยู่ระหว่างถูกพักราชการ เพื่อให้กระบวนการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการสรรหา โดยเพิ่มผู้แทนจากฝ่ายบริหาร เพื่อให้คณะกรรมการสรรหามีองค์ประกอบที่หลากหลายและได้สมดุล โดยมีที่มาจากอำนาจทั้ง 3 ฝ่าย
อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช. จึงมีคำสั่งให้แก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้มีจำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1. ประธานศาลฎีกา 2. ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 3. ประธานศาลปกครองสูงสุด 4. ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่แทนประธานสภาฯ และ 5. รองนายกรัฐมนตรีที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ทั้ง 2 ฉบับ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งได้แก่วันที่ 8 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป.
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
