ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “ทรานส์เอเชีย” ตกรอบ 2 ใน 7 เดือน พบกัปตันมือกุมคันบังคับแน่น-ปลัดหนุ่มเล่นแรง จัดฉากยัดยาเซอร์ไพรส์แฟนขอแต่งงาน

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “ทรานส์เอเชีย” ตกรอบ 2 ใน 7 เดือน พบกัปตันมือกุมคันบังคับแน่น-ปลัดหนุ่มเล่นแรง จัดฉากยัดยาเซอร์ไพรส์แฟนขอแต่งงาน

7 กุมภาพันธ์ 2015


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2558

  • ทรานส์เอเชีย” ตกรอบ 2 ใน 7 เดือน พบกัปตันมือกุมคันบังคับแน่น
  • ไอซิสทำลุกลามไปทั่ว จอร์แดนเตรียมล้างแค้นหลังนักบินถูกเผาทั้งเป็น
  • ปลัดหนุ่มเล่นแรง จัดฉากยัดยาเซอร์ไพรส์แฟนขอแต่งงาน
  • คสช. เตือนล้อการเมืองในงานบอล ไม่ได้ห้าม ให้ระวัง
  • สโมสรทหารบกขายข้าวกะเพราจานละ 100 ผจก. ยันไม่แพง ใช้มาตรฐานโรงแรม
  • “ทรานส์เอเชีย” ตกรอบ 2 ใน 7 เดือน พบกัปตันมือกุมคันบังคับแน่น

    Screen Shot 2558-02-06 at 8.43.49 PM
    ที่มาภาพ: https://www.youtube.com/watch?v=6uOFEjpRQCM

    เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ไทยรัฐออนไลน์รายงาน เครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก รุ่น ATR 72 ของสายการบิน ทรานส์ เอเชีย แอร์เวย์ส (TRANS ASIA AIRWAYS) เที่ยวบิน GE 235 ประสบเหตุตกลงในแม่น้ำคีหลุง ในกรุงไทเป ของไต้หวัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย และผู้รอดชีวิต 15 ราย และอีก 12 รายยังหายสาบสูญ

    โดยทีมกู้ภัยไต้หวันได้มีการยกซากเครื่องบินเล็กขึ้นจากแม่น้ำแล้วเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย นายโก๊ะ เหวินจี้ นายกเทศมนตรีกรุงไทเป ได้กล่าวยกย่องนักบินว่าคือฮีโร่ ที่สามารถบังคับเครื่องบินหลบหลีกตึกสูงในระยะฉิวเฉียด ก่อนจะพุ่งลงแม่น้ำ ขณะที่น้องชายของผู้รอดชีวิตกล่าวด้วยว่า นักบินมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างดีเยี่ยม จึงไม่ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด

    ในวันเดียวกัน เดลินิวส์ออนไลน์รายงานว่า สำนักงานการบินพลเรือนของไต้หวันหวั่นเกรงจะเกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินรุ่นนี้ตกซ้ำ จึงมีคำสั่งให้เครื่องบินเล็กรุ่น ATR 72 ทุกลำที่จดทะเบียนในไต้หวัน หยุดขึ้นบิน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยทั้งหมด และประกาศบทลงโทษทรานส์เอเชียในขั้นต้น ด้วยการห้ามเปิดเส้นทางบินใหม่เป็นเวลา 1 ปี และตั้งคณะทำงานพิเศษตรวจสอบโครงสร้างการทำงานของสายการบิน ไล่ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงสุดลงมาจนถึงระดับล่างสุด โดยมุ่งเน้นกระบวนการฝึกฝนลูกเรือ

    นอกจากนี้ ทีมกู้ภัยได้พบศพนายเลี่ยว เจียนจง กัปตันประจำเที่ยวบิน วัย 42 ปี ซึ่งหน่วยกู้ภัยพบศพของเลี่ยวในสภาพที่มือยังจับคันบังคับเอาไว้แน่น ขณะที่กระดูกขาทั้งสองข้างหักจนแตกละเอียด

    สภาพศพของเลี่ยวในลักษณะดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ว่า เลี่ยวพยายามช่วยชีวิตผู้โดยสารทุกคนเอาไว้ให้ได้มากที่สุดจนวินาทีสุดท้าย ด้วยการพยายามนำเครื่องบินลงจอดบินผิวน้ำแทน เพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด เนื่องจากหากช้ากว่านี้แม้เพียงเสี้ยววินาที เครื่องบินอาจพุ่งชนเข้ากับสิ่งปลูกสร้างและก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกว่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในกล่องบันทึกข้อมูลการบินจะสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนที่สุด ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนเครื่องตก

    ไอซิสทำลุกลามไปทั่ว จอร์แดนเตรียมล้างแค้นหลังนักบินถูกเผาทั้งเป็น

    กษัตริย์อับดุลลาที่ 2 แห่งประเทศจอร์แดน ที่มาภาพ:https://www.facebook.com/RHCJO/photos/
    กษัตริย์อับดุลลาที่ 2 แห่งประเทศจอร์แดน
    ที่มาภาพ:https://www.facebook.com/RHCJO/photos/

    เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า รัฐบาลจอร์แดนประกาศ ว่าปฏิบัติการโจมตีถล่มเป้าหมายกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอซิส ทางภาคตะวันออกของประเทศซีเรียเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของปฏิบัติการตอบโต้ หลังจากเรืออากาศโท มูอัธ อัล-คาซาสเบห์ นักบินหนุ่มจอร์แดนวัย 27 ปี ถูกกลุ่มไอซิสเผาทั้งเป็นอย่างเหี้ยมโหดตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนหน้าจะมีการนำคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโลกออนไลน์เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้าการออกมาแถลงนั้น ทางจอร์แดนออกปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า “วีรชนมูอัธ” โดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติจอร์แดนยังได้ออกอากาศเผยแพร่ข่าวพิเศษแสดงให้เห็นภาพเหตุการณ์เครื่องบินรบจอร์แดนถล่มเป้าหมายกลุ่มไอซิสในซีเรีย พร้อมกันนั้นหลังปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น เครื่องบินรบของกองทัพยังบินผ่านน่านฟ้าเหนือหมู่บ้านในเมืองคารัก บ้านเกิดของเรืออากาศโทมูอัธ อัล-คาซาสเบห์ด้วย เพื่อเป็นการประกาศสดุดี ก่อนบินกลับฐานทัพด้วย

    ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายเคนจิ โกโตะ ตัวประกันชาวญี่ปุ่นถูกตัดคอไปแล้ว หลังจากกลุ่มไอซิสเผยแพร่คลิปวิดีโอเรียกค่าไถ่จากประเทศญี่ปุ่นเป็นเงิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนายเคนจิ โกโตะ นักข่าวอิสระวัย 47 ปี และนายฮารูนะ ยูคาวะ อดีตนักธุรกิจวัย 42 ปี โดยกำหนดเส้นตายไว้ภายใน 72 ชั่วโมง แต่เมื่อญี่ปุ่นแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าจะไม่จ่ายค่าไถ่จึงได้ทำการตัดคอนายเคนจิและประกาศข้อเรียกร้องใหม่ของไอซิส คือแลกตัวนายเคนจิกับนางซาจิดา อัล-ริชาวี มือระเบิดฆ่าตัวตายที่กำลังอุทธรณ์โทษประหารในจอร์แดน

    จากนั้นในวันที่ 27 มกราคม 2558 ไอซิสเผยแพร่คลิปใหม่ แสดงให้เห็นภาพนิ่งของนายเคนจิ โกโตะ ถือรูปภาพนายอัล-คาซาสเบห์ นักบินของกองทัพจอร์แดน และมีเสียงซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายเคนจิเช่นเดิมกล่าวว่า เขาเหลือเวลามีชีวิตอีกเพียง 24 ชั่วโมง ขณะที่นักบินเหลือเวลาน้อยกว่านั้น หากจอร์แดนไม่ยอมปล่อยตัวนางริชาวี

    ต่อมากลุ่มไอซิสได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 22 นาทีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์​ 2558 ซึ่งใช้ชื่อว่า “Healing the Believers’ Chests” ที่น่าจะเป็นร้อยโทมาอัซ อัล คัสซัสเบห์ นักบินของเครื่องบินรบจอร์แดน ที่ถูกจับได้เมื่อเดือนธันวาคมถูกไฟลุกท่วมตัวอยู่ในกรงเหล็ก นับเป็นการประหารชีวิตตัวประกันต่างชาติอย่างโหดเหี้ยมที่สุดของกลุ่มไอซิส

    หลังจากเหตุการณ์นั้นเพียงวันเดียว ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 ทางการจอร์แดนประหารชีวิตนางซาจิดา อัล ริชาวี นักโทษกลุ่มอัลไคด้า ที่กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิสต้องการตัวแล้วด้วยวิธีการแขวนคอ พร้อมกับนายซิยาด คาโบลี นักโทษกลุ่มอัลไคด้าอีกผู้หนึ่ง โดยทั้งสองเป็นชาวอิรัก นางริชาวีถูกคุมขังในเรือนจำของจอร์แดนมาเกือบสิบปี หลังพยายามก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงอัมมานของจอร์แดนเมื่อปี 2548 แต่ไม่สำเร็จ โดยกลุ่มไอซิสได้เรียกร้องให้แลกตัวนางริชาวีกับ ร.ท. โมแอซ อัล คาซาสเบห์ นักบินจอร์แดนที่ไอซิสเพิ่งเผยแพร่วิดีโอการสังหารเขาออกมา

    คสช. เตือนล้อการเมืองในงานบอล ไม่ได้ห้าม ให้ระวัง

    ball
    ที่มาภาพ: https://www.facebook.com/CUTUFootball

    เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ มติชนออนไลน์ รายงานข่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย งดจัดกิจกรรมล้อเลียนการเมืองในงาน “ฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 70” ในวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้จัดขึ้นประจำทุกปี เนื่องจากอาจสร้างความขัดแย้งได้

    ปกติแล้วในการจัดงานฟุตบอลประเพณีนั้น จะมีขบวนพาเหรด การแปรอักษร ล้อการเมือง และการแข่งขันฟุตบอลระหว่าง 2 สถาบัน ซึ่งเป็นกิจกรรมหลัก โดยงานฟุตบอลประเพณีนั้นมีเนื้อหาสะท้อนภาพประเทศไทย ในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และหยอกล้อกันระหว่างสองสถาบัน เพื่อให้กำลังใจนักกีฬา และเป็นการสร้างสีสัน มิตรภาพ

    ขณะเดียวกัน ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าว ทางฝ่ายทหารได้ประสานขอความร่วมมือในการงดจัดกิจกรรมล้อการเมือง มายังสมาคมธรรมศาสตร์ฯ (ในฐานะเจ้าภาพจัดงาน) และทางสมาคมได้ประสานมายังมหาวิทยาลัย โดยได้พูดคุยกับทางนักศึกษาและทุกฝ่ายแล้ว เนื่องจากกิจกรรมล้อการเมืองเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี และเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงออก จึงตกลงว่าจะมีการจัดกิจกรรมต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องความกังวลของบางฝ่ายนั้น ก็จะมีการพิจารณาถึงรายละเอียดในแต่ละกิจกรรมที่จะแสดงออกตามความเหมาะสมต่อไป

    ล่าสุด พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ว่า ทางผู้จัดทั้งสองสถาบันได้มีการประสานกันกับทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในระดับพื้นที่ถึงรายละเอียดกิจกรรมว่า ก่อนแข่งขันอาจจะมีการละเล่นเชิงหยอกล้อการเมือง จึงประสานกันว่าปีนี้จะมีการระมัดระวังในเนื้อหา ให้อยู่ในกรอบ ของความบันเทิงทางการกีฬา ตามธรรมเนียมที่พอเหมาะสม เพราะทั้งผู้จัดและเจ้าหน้าที่เห็นตรงกัน ว่ามีโอกาสที่อาจถูกบางบุคคลหยิบไปบิดขยายผลส่งผลให้เกิดความไม่เรียบร้อย หรือถูกนำไปอ้างเชื่อมโยงเป็นประเด็นขัดแย้งได้

    ทั้งนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้าม แค่เห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ทางผู้จัดเข้าใจและมีแผนที่จะระมัดระวังให้อยู่แล้ว

    ปลัดหนุ่มเล่นแรง จัดฉากยัดยาเซอร์ไพรส์แฟนขอแต่งงาน

    7
    ที่มาภาพ: http://news.sanook.com/1743837/

    หลังจากนายธนาวุธ สีตาลแก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน และชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี เข้าจู่โจมจับกุม น.ส. สุชาดา อินทุวงศ์ อายุ 31 ปี แฟนสาวนักวิชาการอาหารสัตว์ บริษัทแห่งหนึ่ง ขณะขับรถเก๋งโตโยต้า โคโรล่า อัลติส สีขาว ทะเบียน ญฎ-3997 กรุงเทพมหานคร ผ่านบริเวณหน้ารูปปั้นปลาฉลาม ชายหาดบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในความผิดฐานพัวพันยาเสพติด ในช่วงเย็นวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ว่าที่เจ้าสาวตกใจขวัญหนีดีฝ่อ ก่อนปลัดว่าที่เจ้าบ่าวจะปรากฏตัว นำช่อดอกไม้เข้ามาขอเธอแต่งงาน

    ต่อมาไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่านายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ตั้งกรรมการสอบวินัย แม้จะทำในวันหยุดราชการแต่ทำให้เกิดภาพพจน์ไม่ดี ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด ด้านเจ้าว่าที่เจ้าบ่าวทำรายงานชี้แจงนายอำเภอกับผู้ว่าฯ แล้วก้มหน้ายอมรับชะตากรรมพร้อมขอโทษยอมรับผิดสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแค่ต้องการให้แฟนสาวประทับใจเป็นความทรงจำในวันสำคัญ ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้

    ด้านนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอสัตหีบ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงได้สั่งให้นายธนาวุธทำรายงานชี้แจงด่วนแล้ว พร้อมทั้งลงโทษด้วยการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว อีกอย่างวันที่นายธนาวุธทำเรื่องเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแฟนสาวด้วยวิธีดังกล่าวเป็นวันเสาร์หยุดราชการ ไม่ได้ทำในเวลาราชการ แต่ส่วนตัวมองดูแล้วแม้ว่านายธนาวุธจะมีเจตนาบริสุทธิ์ แต่ทำแบบนี้ค่อนข้างจะเกินเลยไปหน่อย

    ส่วนนายกฤษฎา บุญราช อธิบกรมการปกครอง กล่าวว่า ได้รับรายงานพฤติกรรมปลัดอำเภอนายนี้จากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีแล้ว ได้สั่งการต่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจึงใช้เครื่องมือของราชการไปทำเรื่องส่วนตัว แม้จะไปทำในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการก็ตาม แต่ทำให้เกิดภาพพจน์ไม่ดี สร้างความเข้าใจผิดกับสาธารณชนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่แอบเอาอุปกรณ์เสพยาไปซ่อนไว้ในรถของว่าที่เจ้าสาวเป็นการสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมายได้ จึงต้องให้ตั้งกรรมการสอบวินัยตามระเบียบราชการ หากผิดวินัยร้ายแรงก็มีโทษตามลำดับ แต่ถ้าไม่ผิดร้ายแรงก็ให้ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้สอบอย่างตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่มีการช่วยเหลือ

    อธิบดีกรมการปกครองกล่าวอีกว่า ขอโทษประชาชนที่ผู้ใต้บังคับบัญชามีพฤติกรรมเช่นนี้และพยายามกำชับไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก โดยมอบให้ผู้ตรวจราชการกรมการปกครองทั้ง 12 เขต ลงพื้นที่กำชับปลัดจังหวัดและนายอำเภอให้สอดส่องดูแลเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการกระทำไม่เหมาะสมในเรื่องทุกเรื่อง รวมถึงการกระทำผิดตามมาตรา 112 ถือว่าขอปัดกวาดบ้านของกรมการปกครองให้เป็นตัวอย่างของส่วนราชการอื่นต่อไป

    สโมสรทหารบกขายข้าวกะเพราจานละ 100 ผจก.ยันไม่แพง ใช้มาตรฐานโรงแรม

    basil
    ที่มาภาพ: http://www.thairath.co.th/content/479342

    หลังจากมีการแชร์ข่าวสโมสรทหารบก วิภาวดี ขายข้าวกะเพราจานละ 100 บาท ซึ่งมีกระแสว่าแพงเกินไปนั้น ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พ.อ. สมภพ ศรีศิริ ผู้จัดการสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ขอยืนยันว่าไม่ได้แพงอะไรมากมาย เพราะตามปกติแล้วหากจะเปรียบเทียบกับร้านอาหารทั่วไปยอมรับว่าแพง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับโรงแรมอื่นๆ ถือว่าไม่แพง เพราะสโมสรทหารบกถือว่าเป็นร้านค้าสวัสดิการที่มีต้นทุน ทั้งบุคลากรที่เป็นลูกจ้าง โดยไม่ใช้กำลังพลที่เป็นทหาร ไม่ได้ใช้เงินหลวงแม้แต่บาทเดียว

    นอกจากนี้ ยังมีค่าบริการและค่าแอร์ เป็นกิจการสวัสดิการของทหารที่มาใช้บริการทางสโมสรก็จะลดให้ 20 เปอร์เซ็นต์ ทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีพลเรือนมาใช้บริการ เมื่อมารับบริการก็อาจจะดูว่าแพงกว่าร้านค้าทั่วไป แต่ขอยืนยันว่าเราไม่ใช่ร้านค้า เราเป็นภัตตาคาร มีสถานที่สะอาด โอ่โถง มีที่จอดรถไว้บริการ ไม่เสียค่าจอดรถ เราบริการอาหารไทย จีน ฝรั่ง และมีดนตรีไว้บริการ เพราะฉะนั้นถือว่ารายการอาหารสมควรแก่ราคาโดยทั่วไปที่สามารถรับได้

    “ถ้าอยากทานอาหารถูกๆ ก็ต้องไปนั่งร้านค้าข้างถนนทั่วไป ซึ่งไม่มีพนักงานบริการ ไม่มีแอร์ เพราะเขาไม่มีต้นทุนอะไรมากนัก ซึ่งสโมสรทหารบกเรามีไว้บริการกำลังพลที่เป็นทหารส่วนใหญ่ ทั้งงานเลี้ยงสังสรรค์ งานรื่นเริงต่างๆ แม้กระทั่งจัดการสัมมนา โดยให้บริการกับบริษัท ห้างร้านใหญ่ๆ ทั่วไป และที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เมื่อเห็นว่าทางเรามีราคาแพงก็จะปรับลดลงตามสมควร แต่ทั้งนี้ก็ต้องเห็นใจด้วยว่า ปัจจุบันต้นทุนอาหารแพงขึ้นตามสภาวะทางเศรษฐกิจ รวมถึงต้นทุนค่าบริการก็ต้องมี เพราะถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น” พ.อ. สมภพกล่าว

    ขณะเดียวกัน วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนี้ว่า สำหรับสโมสรทหารบก (วิภาวดี) นั้น มีมาตรฐานเทียบเท่าภัตตาคารและโรงแรมมาตรฐาน ซึ่งอัตราค่าบริการคงเป็นไปตามต้นทุนสินค้าและการบริการ ที่ใกล้เคียงกับสถานประกอบการในลักษณะเดียวกัน อีกทั้งสโมสรกองทัพบกมีวัตถุประสงค์การใช้งาน การให้บริการ และมีต้นทุนหลายอย่างที่ต่างจากร้านค้าในหน่วยทหาร หรือร้านทั่วไปอื่นๆ แต่ผู้บัญชาการทหารบกก็ได้มีแนวทางให้มีการปรับอัตราการบริการและราคาให้เป็นกรณีพิเศษ ถึงแม้ว่าอาจไม่สอดรับกับในมุมการบริหารเชิงพาณิชย์ หรือหากเปรียบเทียบกับสถานบริการในระดับเดียวกันก็ตาม