ThaiPublica > เกาะกระแส > สมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่นร้อง คสช. หลังถอนเงินไม่ได้มานกว่า 1 ปี – เร่งเอาผิดอดีตผู้บริหาร – ทวงเงินวัดธรรมกาย

สมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่นร้อง คสช. หลังถอนเงินไม่ได้มานกว่า 1 ปี – เร่งเอาผิดอดีตผู้บริหาร – ทวงเงินวัดธรรมกาย

1 กรกฎาคม 2014


สมาชิกสหกรณ์เครดิตคลองจั่น ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ 30  มิถุนายน 2557
สมาชิกสหกรณ์เครดิตคลองจั่น ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557

สืบเนื่องจากกรณีวิกฤติขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยอดีตคณะกรรมการผู้บริหารซึ่งมาจากการเลือกตั้งซึ่งนำโดย นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ หลายสมัย ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ายักยอกทรัพย์สินสหกรณ์กว่า 15,000 ล้านบาท และต่อมาถูกกรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียนปลดจากตำแหน่ง จนกระทั่งมีการเลือกตั้งได้คณะกรรมการชุดใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกกล่าวหา นำโดยนายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานคณะกรรมการดำเนินการ ซึ่งเข้ามาบริหารตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 (อ่านเพิ่มเติม)

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการชุดใหม่ได้ดำเนินการในหลายๆ เรื่อง อาทิ จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการยื่นให้ศาลล้มละลายกลางมีคำวินิจฉัยบังคับแผน ล่าสุดยื่นแผนต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557 ดำเนินการเร่งรัดติดตามหนี้ในส่วนของลูกหนี้ที่มีปัญหา พบปะชี้แจงและทำความเข้าใจกับกับเจ้าหนี้ทุกประเภท

ผลจากความเดือดร้อนดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557 กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่นประมาณห้าสิบคน ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าหลังร้องเรียนขอความอนุเคราะห์ทางการเงินเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) และส่งหนังสือต่อให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อ

นายชรินทร์ ล้วนเครือ แกนนำสมาชิกกลุ่มที่เดือดร้อนจากปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกล่าวว่า พวกตนได้มายื่นหนังสือเพื่อแจ้งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทราบถึงเหตุการณ์ทุจริตครั้งใหญ่ในวงการสหกรณ์ สร้างความเดือดร้อนอย่างสาหัสให้กับสมาชิกสหกรณ์กว่า 5 หมื่นคน โดยมีสาเหตุจากอดีตคณะกรรมการที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ อนุมัติให้สหกรณ์ปล่อยกู้แก่บริษัทที่ไม่มีการดำเนินกิจการจริงหลายแห่ง อีกทั้งแสดงบัญชีสหกรณ์ว่ามีกำไรติดต่อกันหลายปีทั้งที่ขาดทุน ประกอบกับสาเหตุคือหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการยับยั้งการทุจริตทั้งที่พบความผิดปกติก่อนหน้าหลายปี

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา สหกรณ์ฯ คลองจั่นแสดงผลกำไรในรายงานประจำปีมาตลอด อีกทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ยังมอบรางวัลสหกรณ์ดีเลิศประจำปี 2554 และนายศุภชัย อดีตประธาน ถึงกับได้รับรางวัลนักสหกรณ์แห่งชาติประจำปี 2550 ทั้งหมดนี้เหมือนสร้างภาพลักษณ์ลวงตา สมาชิกจึงชักชวนกันนำเงินมาฝากโดยไม่เคยรับรู้สถานะที่แท้จริงของสหกรณ์มาโดยตลอด ซึ่งกว่าจะรู้ความจริงจากสื่อต่างๆ ก็สายเกินกว่าจะถอนเงินตัวเองแล้ว” นายชรินทร์กล่าว

นายชรินทร์กล่าวต่อว่า ตนเห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการที่คณะกรรมการชุดปัจจุบันและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันทำอยู่ แต่แผนดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาแก้ปัญหายาวนานไม่ต่ำกว่า 4-8 ปี ระหว่างนี้สมาชิกจะถอนเงินได้เพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกจำนวนมากเป็นผู้เกษียณอายุ ไม่มีรายได้ เงินก้อนใหญ่ก็นำมาฝากที่นี่ ที่ผ่านมา 1 ปีตั้งแต่ถอนเงินไม่ได้ทำให้สมาชิกหลายคนเสียชีวิตเพราะไม่มีเงินรักษาพยาบาล และเมื่อสิ้นสุดแผนสมาชิกก็อาจไม่ได้เงินตนเองครบทั้งจำนวน

ทางสมาชิกที่ยื่นหนังสือ ได้ร้องขอความธรรมจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินเป็นการด่วน 3 ข้อ 1. จัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาสมาชิก ทั้งประเภทที่ออมกับสหกรณ์ในรูปแบบหุ้นมูลค่า 4,700 ล้าน และสมาชิกบุคคลที่ฝากเงินมูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท โดยระดมเงินจากสหกรณ์ 8,000 แห่งทั่วประเทศรวมกับงบประมาณจากรัฐเสริม 2. ต้องการให้สอบสวนและลงโทษข้าราชการที่ร่วมทุจริตหรือละเลย เอื้อให้เกิดการฉ้อโกงต่อเนื่องหลายปี 3. ปฏิรูปโครงสร้างการควบคุมสถาบันการเงินประเภทสหกรณ์ ย้ายจากเดิมที่ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแล ซึ่งขาดความรู้ทางการเงินการธนาคาร ให้กระทรวงการคลังหรือธนาคารแห่งประเทศไทยควบคุมแทน 4. ดำเนินการเอาผิดนายศุภชัย ศรีศุภอักษร และพรรคพวก ประกอบด้วย ข้าราชการ นักการเมือง เจ้าอาวาสวัดชื่อดัง หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง

ผู้ฝากเงินสหกรณ์เครดิตคลองจั่น ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ 30  มิถุนายน 2557
ผู้ฝากเงินสหกรณ์เครดิตคลองจั่น ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557

ด้านนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าคณะเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สอบถามความคืบหน้าและสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการแก้ปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ภายใน 1 เดือน เพราะปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงของสหกรณ์ฯ คลองจั่นส่งผลกระทบต่อสมาชิกผู้ฝากเงินมากกว่า 5 หมื่นราย

ปลัดกระทรวงเกษตรกล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวมีความล่าช้ามานานตั้งแต่กลางปีที่แล้ว อีกทั้งกลุ่มสมาชิกเข้าร้องเรียนและยื่นหนังสือให้ คสช. ช่วยเร่งติดตามการดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งด้านดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับอดีตคณะกรรมการสหกรณ์ที่ร่วมทุจริต และการติดตามเงินที่อดีตประธานใช้เงินสหกรณ์บริจาคกับวัดพระธรรมกาย

นายชวลิตกล่าวต่อว่า แนวทางการการแก้ไขปัญหาสหกรณ์ฯ คลองจั่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับคณะกรรมการสหกรณ์ฯ คลองจั่นทำแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผนฟื้นฟูกิจการ หากทั้งสองหน่วยงานรับรอง กระทรวงเกษตรฯ จะประสานกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้กิจการสหกรณ์เป็นหน่วยงานที่สามารถบังคับใช้แผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางได้ จากเดิมมีระบุเพียงบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนเท่านั้น หากแผนฟื้นฟูมีการบังคับใช้ ภาคราชการสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือหรือค้ำประกันเงินกู้ได้ ส่วนคดีแพ่งและอาญาอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมสืบสวนคดีพิเศษและอัยการ

ส่วนนายจุมพล สงวนศิลป์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่าจำนวนเงินที่จะใช้สำหรับเสริมสภาพคล่องให้กับสหกรณ์ฯ คลองจั่นประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งหากแผนฟื้นฟูผ่านการพิจารณาของ สศค. และ ธปท. แล้ว คาดว่าจะมีสถาบันการเงินของรัฐและสหกรณ์ต่างๆ ยินดีปล่อยกู้เพราะมั่นใจว่าเงินที่ปล่อยไปมีหลักประกัน

ทั้งนี้ ที่มาของเงิน 5 พันล้านนั้นคาดว่าจะมาจาก 1. ทรัพย์สินของสหกรณ์ เช่น อาคาร U-Tower ถ.ศรีนครินทร์ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านบาท และทรัพย์สินที่ดีเอสไอยึดคืนจากนายศุภชัยและพวกมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท 2. เงินกู้จากสหกรณ์อื่นๆ ที่มีทั่วประเทศกว่า 8,000 แห่ง ร่วมปล่อยสินเชื่อตามความสมัครใจ ภายใต้ชื่อโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ล่าสุดมีสหกรณ์แสดงเจตจำนงปล่อยกู้ให้สหกรณ์ฯ คลองจั่นแล้วประมาณ 116 ล้านบาท และ 3. การสนับสนุนของรัฐบาล โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ขอใช้เงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) วงเงิน 1 พันล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้สหกรณ์ที่ยอมปล่อยกู้ให้กับสหกรณ์ฯ คลองจั่น หากเป็นไปตามแผนจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-8 ปี น่าจะคืนเงินให้สมาชิกได้หมด