ThaiPublica > คนในข่าว > คำต่อคำ”ศุภชัย ศรีศุภอักษร” รับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญา ฐานยักยอกเงิน

คำต่อคำ”ศุภชัย ศรีศุภอักษร” รับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญา ฐานยักยอกเงิน

26 กรกฎาคม 2013


นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

วันนี้(26 กรกฎาคม 2556)เวลาประมาณ 15.00 น. นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญา ฐานยักยอกเงิน ที่สำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยนายศุภชัยได้ตอบคำถามสื่อมวลชนดังต่อไปนี้

คำถาม – ตอนนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังไม่ส่งหนังสือแจ้งว่าจะปลดจากประธาน

คือเรื่องปลด ยังไม่มี แล้วถ้ามีก็จะต้องมาชี้ก่อนว่า ปลดด้วยเหตุอะไร ผมอยากเรียนพื้นฐานว่า จริงๆผมเป็นคนสร้างสหกรณ์แห่งนี้ขึ้นมา ขวัญและกำลังใจของสมาชิกอยู่ที่ผม อย่างที่เกิดเหตุการณ์ปิดสำนักงาน สมาชิกขอร้องเราให้ผมเข้ามาแก้ปัญหา

กรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์มีหน้าที่ตรวจ ถ้าตรวจพบเห็นอะไร ที่อาจจะบกพร่องบ้าง ก็แนะนำให้แก้ไข ส่วนกรมส่งเสริมฯมีหน้าที่กำกับ เขาขยันสร้างข่าว ตรงโน้นตรงนี้ แต่ในความเป็นจริง คงไม่ใช่

คำถาม – แล้วจะชี้แจงสมาชิกเรื่องการถอนเงินไม่ได้อย่างไร

เราบอกเขาแล้วว่าเดือนสิงหาคมคงเรียบร้อย เดิมที่กำหนดวันที่ 16 กรกฎาคม ก็ไม่ได้ เมื่อบอกว่าเป็นเดือนสิงหาคม ก็น่าจะเป็นต้นเดือน ก็น่าจะเป็นวันที่ 1 เพราะต้นเดือนสมาชิกจะมาสะสมหุ้น ปกติก็จะเป็นสัปดาห์ถัดไป เพราะการทำงาน พนักงานคนเดียวกัน สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะถอน ตั้งใจจะออก กลางเดือนสิงหาคมก็มาก็แล้วกัน

คำถาม – แล้วเงินฝากของสหกรณ์อื่นๆที่มาฝากมันเยอะมาก

คือสหกรณ์ วัตถุประสงค์ของสหกรณ์ที่ช่วยเหลือกันและกัน คือดอกเบี้ย

คำถาม – แต่เงินฝากเขาหลายร้อยล้านบาท

ร้อยล้าน พันล้าน ไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นเขาต้องการดอกผล

คำถาม – เขาต้องการเงินคืนจะทำอย่างไร

เขาต้องการเงินคืน ก็คืนให้เขา

คำถาม- แล้วจะคืนอย่างไร

มันธรรมดา เขาส่งมาอย่างไร ก็ส่งไปอย่างนั้น

คำถาม – ถ้าสหกรณ์ต่างๆมาเบิกเงิน จะเอาเงินที่ไหนให้เขา

มี.. มี

คำถาม – ตอนนี้สหกรณ์มีเงินหมุนเวียนอยู่ไหม

สหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นมีเงินหมุนอยู่

คำถาม- พร้อมที่จะคืนเงินให้สมาชิก สหกรณ์ต่างๆเต็มจำนวน

คืน แต่จะทยอยผ่อน

คำถาม- กรณีปล่อยกู้บริษัทตัวเอง 20 บริษัท

ปล่อยกู้บริษัทตัวเอง… อย่างไร ผมไม่เข้าใจ

นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

คำถาม – บริษัทที่คุณศุภชัยมีชื่อเป็นกรรมการ

ผม ใครๆ ก็ยืมกันเยอะแยะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติและเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด เพียงแต่มีการเอามาเปิดเผย เป็นเรื่องความขัดแย้งกัน หากถอยหลังไปดู เราให้สินเชื่อแก่สมาชิกสมทบมาตั้งแต่ ปี 2544 2545 2546 ให้มาเรื่อยๆ ไม่ใช่เพิ่งมาให้ เพราะว่าการสหกรณ์มีความจำเป็นต้องหารายได้ มารับภาระรายจ่าย เรามีรายจ่ายหลักๆคือดอกเบี้ยจ่าย เงินปันผล และค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะฉะนั้นการสหกรณ์หากไม่สามารถสร้างรายได้ ก็ไม่สามารถรับผิดชอบตรงนี้ได้ ก็เป็นเรื่องปกติ

คำถาม- ทำไมคุณศุภชัยใช้บริษัทตัวเองมากู้เงินสหกรณ์

ไม่ใช่ครับ ประเด็นคำถามอย่างนี้ผมถือว่าไม่เข้าใจ

คำถาม – กรมพัฒนาธุรกิจระบุว่าคุณศุภชัยเป็นกรรมการ

รายชื่อ ใครเป็นกรรมการ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้ดำเนินการ

คำถาม –แต่มันไม่ปกติ เพราะรายชื่อปรากฏอยู่ว่าเป็นกรรมการ

แต่ใน”การสหกรณ์” ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

คำถาม – ไม่ถือว่า conflict of interest

ก็แล้วแต่ท่าน แต่สำหรับสหกรณ์ที่ทำมาเป็นเรื่องปกติ ผู้สื่อข่าวอาจจะบอกว่าไม่ปกติ คือต้องเข้าใจว่าสถาบันการเงินของสหกรณ์ ต่างจากธนาคาร เราใช้กฎหมายคนละฉบับ การสหกรณ์ต้องระดมมาเอง หาเงินมาเอง สร้างรายได้เอง ต่างกันครับ

คำถาม – ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งคุณศุภชัยปล่อยกู้ให้บริษัทตนเองหรือไม่

ไม่ พวกเรา(นักข่าว)ก็ถามว่าของตนเอง ของตนเองๆ (พูดเน้นเสียงย้ำ 3 ครั้ง) รู้ได้อย่างไร

คำถาม – ก็มีรายชื่อเป็นกรรมการอยู่

ไม่ใช่ ๆๆ อย่างผมบริหาร ผมเป็นประธาน แต่เป็นอาสาสมัคร ต้องดูว่าตำแหน่งเป็นอาสาสมัครอยู่ ก็ต้องเข้าใจตรงนี้ว่าระบบของสหกรณ์มันเป็นงานอาสา แล้วทำอย่างไรที่จะต้องสร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อหมู่สมาชิกเป็นหลัก มันเป็นสถาบันแบบปิด ถ้าอยากเข้าใจจริงๆ เชิญไปป็นสมาชิก เข้าไปดูว่าเราทำอะไร อย่างไรบ้าง เป็น(สมาชิก)สัก 2-3 ปี จะได้รู้ว่าขบวนการเป็นอย่างไร สมาชิกถือหุ้น ก็ต้องจ่ายเงินปันผล ต้องรายได้เข้ามาใช่ไหม ถามว่าจะหารายได้จากไหน ก็ต้องถามว่า ถ้าผู้สื่อข่าวไปเป็นผู้บริหาร ทำอย่างไรให้สหกรณ์มีรายรับมากกว่ารายจ่าย

นายศุภชัย ศรีศุภอักษร

คำถาม – สรุปว่าคุณศุภชัยไม่ลาออกจากประธาน

ไม่ใช่ เรามาจากการเลือกตั้ง หากเราบกพร่อง เราจะแก้ปัญหา คือครั้งนี้ จริงๆผมเข้ามาเพื่อจะแก้ปัญหานะ เพราะมันมีปัญหาก่อนที่จะเข้ามา

คำถาม – บริษัทที่มีชื่อคุณศุภชัยเป็นกรรมการ แล้วจะสร้างรายได้ให้กับสหกรณ์ได้อย่างไร

ก็มันสร้าง(รายได้) มาหลายปี ตั้งแต่ปี 2552 มันนานไหม ปี 2553 2554 2555 มีการสอบบัญชีมาทุกปี ถ้าสมมติว่า หากมีอะไรไม่ถูกต้องจริงๆ ตามที่กล่าวหาจริง การสอบบัญชีมันต้องไม่ผ่าน เข้าใจหลักนี้ไหม หากเข้าใจ และสถาบันเราเป็นสถาบันแบบปิด แล้วสมาชิกที่เป็นเจ้าของ…

คำถาม – กรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ระบุว่ามีความผิดปกติ

เอกสารภายในของผู้ตรวจสอบบัญชี แนะนำให้คณะกรรมการปรับปรุง แก้ไขในหัวข้อดังนี้ๆๆ…(ย้ำ)….เป็นเอกสารภายในซึ่งปกติภายนอกจะไม่รู้ เป็นการทำภายในเพื่อให้แก้ไข เรื่องนี้บังเอิญมันความขัดแย้ง อยากจะบริหารต่อ บริหารไม่เป็นหรือะไรก็แล้วแต่ และไปพลาดจนปิดสำนักงาน(สหกรณ์) จึงเอาเรื่องนี้มายันเพื่อลดความผิดของตัวเอง ถ้าการประชุมต่อเนื่องไป ผมก็ไม่ได้เข้ามา ทีมเดิมเขาก็บริหารไป พอมีความขัดแย้ง ไปร้องที่กองปราบและไปแถลงข่าว นั่นคือจุดเหตุของการปิดสำนักงานก่อนที่ผมจะเข้ามา

คำถาม – ตกลงว่าไม่ออกจากประธานใช่ไหม

ถ้าถามตอนนี้ ผมต้องแก้ปัญหาก่อน ผมขอเวลา 3 เดือน ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ผมจะไป

คำถาม – ไม่มีใครอยากให้คุณศุภชัยแก้ปัญหา

ใครบอก…

คำถาม – ดีเอสไอบอก

ดีเอสไอ ไม่ใช่หน่วยกำกับ ถ้าให้ผมออกแล้ว ใครจะแก้ปัญหา ถามกลับตรงนี้ ใครรู้ปัญหา ใครจะกลับมาแก้ อยากให้สหกรณ์นี้เลิกไป หรือยังมีอยู่หรือเปล่า เราต้องถามกัน ประโยคนี้ ดีเอสไอไม่ใช่หน่วยกำกับสหกรณ์ เขาทำหน้าที่ เมื่อมีคนร้องก็ทำหน้าที่ตรวจสอบไปตามอำนาจเขาก็ถูกต้องแล้ว

คำถาม – 27 บริษัท ที่มีชื่อคุณศุภชัยเป็นคนกู้ และมีชื่อคุณศุภชัยเป็นคนให้กู้ จริงไหม

คือมันทำคนละฐานะ การให้กู้เป็นเรื่องคณะกรรมการ การอนุมัติเป็นเรื่องคณะกรรมการ 15 คน แต่ตราสารที่เซ็นต์มันว่าตามบริคณสนธิ

คำถาม – แสงดว่าคณะกรรมการ 15 คนอนุมัติให้คุณศุภชัยกู้ไปให้คุณศุภชัย

อย่าพูดอย่างนั้นซิครับ ต้องพูดว่าคณะกรรมการอนุมัติให้ตัวแทนที่เป็นผู้กู้ ส่วนใครจะลงนามก็อีกเรื่องหนึ่ง

นายศุภชัย ศรีศุภอักษร

คำถาม – แต่เอกสารเงินกู้ไม่ครบถ้วน แต่ปล่อยเงินกู้

คือถ้าถามผม ผมว่ามันก็ครบหมด คือผมอยากจะเรียนผู้สื่อข่าวว่า ในขบวนการสหกรณ์มันมีวิธีพิเศษกันอยู่ ยกตัวอย่างเช่น สหกรณ์ทั้งหลายเอาเงินมาให้สหกรณ์คลองจั่นยืม หรือสหกรณ์คลองจั่นไปยืมใคร หรือเขายืมกันเอง เขามีตั๋วใบเดียว คือตั๋วพีเอ็น จะกี่ร้อย จะเป็นพัน ก็มีตั๋วพีเอ็นใบเดียว เพราะขบวนการเราทำงานกันแบบนี้อยู่ หากไปเทียบกับสถาบันอื่น มันคนละเรื่องกัน อยากให้ผู้สื่อข่าวเข้าใจว่า”การสหกรณ์” เป็นเรื่องการพัฒนาและมีกฎหมายเฉพาะของ”การสหกรณ์”อยู่

คำถาม – ตอนนี้มีความไม่เชื่อมั่นอยู่ เพราะปล่อยเงินกู้ไปหมื่นกว่าล้านบาท

เอาอย่างนี้ …ทุกอย่างต้องใช้เวลา ผมบอกแล้วว่า 3 เดือน ท่านรอดูสิ อีก 3 เดือน ผมยังไม่ไปไหน ถ้าหากผมทำไม่ได้ ทำไม่เสร็จ ก็มาบอกว่าใครจะเป็นผู้ดู ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

คำถาม – ที่เลื่อนการจ่ายเงินจาก 16 กรกฎาคม มาเป็น 1 สิงหาคม

คืออย่างนี้นะ ไม่ใช่วันที่ 1 สิงหาคม เขากำหนดวันที่กันเองนะ

คำถาม –ใครกำหนดวันที่กันเอง

แต่เดิมผมเป็นคนกำหนดว่าประมาณกลางเดือนกรกฎาคม แต่เมื่อ เหตุการณ์ช็อคโลกเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ทุกอย่างชะงักไปหมด ผมก็บอกว่าเอางั้น ..เป็นเดือนหน้าแล้วกัน เขาก็ตีเลยว่าเป็นวันที่ 1 เป็นต้นไป

คำถาม – ใครคือเขา

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน มันเยอะไปหมด(เจ้าหน้าที่บอกว่าขอเป็นคำถามสุดท้าย)

ปกติการสหกรณ์ ต้นเดือนสมาชิกเขามาส่งหุ้น มาชำระต่างๆ สัปดาห์ที่สอง ที่สามทำอีกเรื่องหนึ่ง

คำถาม – เงินทดรองจ่าย 3,000 ล้านบาท

ก็ใช้จ่ายในงานสหกรณ์ตั้งแต่ปี 2541 ไม่ใช่เพิ่งเกิด จริงๆเริ่มจั้งแต่ปี 2540 ในการเริ่มหาสถานที่ทำสำนักงาน รวมถึงภารกิจต่างๆที่มีอยู่ ดังนั้น ทุกอย่างผ่านคณะกรรมการ ทุกอย่างผ่านคณะผู้ตรวจสอบ ทุกอย่างผ่านคณะผู้กำกับดูแล ไม่ใช่ไม่ผ่าน

เพียงแต่ว่าตอนที่ก่อนจะหมดวาระ ผู้ตรวจสอบบัญชีบอกว่าให้เซ็นต์เป็นลูกหนี้หน่อย เราเป็นประธานบริหาร ไม่ใช่เราไม่กล้ารับผิดรับชอบ เราก็เซ็นต์ไว้ แต่ถามว่าเราบริหารกันเป็นคณะ ใครคนใดคนหนึ่งจะบริหารได้ตามอำเภอใจหรือไม่ มันไม่ใช่ แค่เซ็นต์ยังไม่ผ่านเลย คนเดียว จริงไหม ..ต้องถามกันตรงนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมผมด้วยสิ ผมเป็นอาสาสมัคร ก่อร่างสร้างสหกรณ์ขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่มีอะไร แล้วถามว่าผลงานในอดีตที่ทำให้สหกรณ์ใหญ่โตมาขนาดนี้ ไม่มองกันเลยหรือ แล้วฝ่ายตรงข้ามที่ทำผิดพลาด ไม่มีใครไปถามเลยว่า ปิดสำนักงาน พวกที่เอาเอกสารออกไป เอาข้อมูลออกไป ไม่มีใครถามเลย แล้วมาป้ายความผิดว่าผมคนเดียว หากผมคนเดียวทำทุกอย่างได้ ไม่เห็นหน้าผมหรอก

คำถาม – ที่ชี้แจงอะไรทำไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานอยู่

ไม่อยู่ ผมกลับมายังไม่เจออะไรเลย

ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา”ศุภชัย ศรีศุภอักษร” คดีอาญา ฐานยักยอกเงิน

นายกิตติก้อง คณาจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่าวันนี้นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เดินทางมาที่ดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาความผิดอาญา ฐานยักยอกเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยปล่อยกู้ให้กับสมาชิกสมทบ 27 บริษัท และดีเอสไอต้องเร่งสอบพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ คือผู้ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเงินกู้ทั้งหมด โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเป็นผู้กู้ และต้องประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ว่ามีการตรวจพบความผิดปกติของเส้นทางเดินเงินอะไรบ้าง

“เราต้องเรียกลูกหนี้สหกรณ์ฯทั้ง 27 รายมาสอบ ดีเอสไอก็ต้องไปตรวจสอบก่อนว่าที่ เป็นลูกหนี้ของสหกรณ์ มีใครเป็นกรรมการบ้าง และดีเอสไอก็ยังไม่รู้ว่ากรรมการที่มีชื่ออยู่ใน 27 บริษัท มีส่วนเกี่ยวกับการยักยอกเงินหรือเปล่า ต้องตรวจสอบกับกระทรวงพาณิชย์ก่อน ถึงแม้จะมีชื่อนายก. นายข.เป็นกรรมการบริษัท เราก็ยังเชื่อไม่ได้หรอกว่าเป็นกรรมการจริงหรือเปล่า แต่นายก. นายข.ก็ต้องถูกเรียกมาสอบปากคำอยู่แล้ว เพราะบางกรณีคนที่มีชื่อเป็กรรมการในบริษัทอาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถูกแอบอ้างชื่อ ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน”

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ฝากเงินมีโอกาสได้รับเงินคืนหรือไม่ นายกิตติก้องกล่าวว่า “ผมพูดเสมอนะครับ สหกรณ์ยังไม่ได้ปิดกิจการ หรือเลิกกิจการ และก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ล้ม เพราะมีสหกรณ์ และส่วนราชการอีกหลายแห่ง นำเงินมาฝากที่นี่เกือบ 4,000 ล้านบาท อย่างสหกรณ์ตำรวจมีสมาชิกเป็นตำรวจเกือบหมื่นราย ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ผมคิดว่าไม่ปล่อยให้ล้มหรอก คิดว่าถ้ามีการปรับเปลี่ยนบริหารจัดการสภาพคล่องให้ดี ก็น่าจะเดินหน้าต่อไปได้อยู่”

ผู้สื่อข่าวถามถามต่อว่าจะเรียกลูกหนี้ 27 บริษัทมาสอบปากคำได้เมื่อไหร่ นายกิตติก้องกล่าวว่า ยังระบุวันไม่ได้ขอตั้งหลักก่อน ไม่ต้องห่วงคดีนี้เป็นคดีเศรษฐกิจ ขอดูข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนก่อน แล้วทยอยเรียกมาให้ปากกคำ ต้องตรวจดูก่อนว่าบริษัทนี้มีใครบ้างแล้วทยอยเรียกลูกหนี้มาพบ ซึ่งต้องให้เวลาผู้ถูกกสอบปากคำเตรียมหลักฐาน เตรียมตัวมาให้ปากคำด้วย

“ผมคุยกับคุณศุภชัยนอกรอบ ได้ยืนยันว่าจะหาเงินมาคืนผู้ฝากเงินได้ และเชื่อว่าที่ทำ มันเป็นวิธีการบริหารเงินของสหกรณ์รูปแบบหนึ่งอะไรประมาณนี้ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นสิทธิของคุณศุภชัย เขายืนยันว่าภายใน 3 เดือนจะหาเงินมาหมุนได้เหมือนเดิม อย่างที่คุณศุภชัยให้ข่าว ซึ่งให้ความร่วมมือดี” นายกิตติก้องกล่าว