ThaiPublica > เกาะกระแส > รัฐบาล แก้ระเบียบสำนักนายกฯ ตั้งกองทุนพัฒนาสตรี เพิ่มอำนาจ “นลินี ทวีสิน”

รัฐบาล แก้ระเบียบสำนักนายกฯ ตั้งกองทุนพัฒนาสตรี เพิ่มอำนาจ “นลินี ทวีสิน”

21 มิถุนายน 2012


ที่มา: http://www.suthichaiyoon.com

การจัดตั้ง “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” โดยออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 และมีผลบังคับใช้ในวันถัดมานั้น ถูกคัดค้านจากคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ว่าไม่เหมาะสม โดยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 คปก. ได้ส่งหนังสือถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอแนะให้ปรับแก้จากระเบียบสำนักนายกฯ เป็นพระราชบัญญัติ เพื่อความรอบคอบในการใช้เงินงบประมาณ (อ่าน “คณิต ณ นคร” เสนอ “ยิ่งลักษณ์” ทบทวนระเบียบสำนักนายกฯ ใช้งบ 7,700 ล้าน ตั้งกองทุนสตรีไม่เหมาะสม)

โดยเรื่องที่ คปก. ส่งไป จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาตามข้อเสนอของ คปก. แต่มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ราชกิจจานุเบกษาลงประกาศระเบียบสำนักนายกว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555

เหตุผลของการแก้ไขระเบียบสำนักนายกฯ ระบุว่า เพื่อให้การบริหารและการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความต่อเนื่อง ในระหว่างที่ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารกองทุน และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ

โดยสาระสำคัญที่แก้ไขคือ ให้ยกเลิกความในข้อ 51 ใน “บทเฉพาะกาล” ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ. 2555 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ ๕๑ ในระหว่างที่ยังมิได้แต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะกรรมการบริหารกองทุนตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งแต่งตั้งตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๔๐/๒๕๕๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ทำหน้าที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการบริหารกองทุนตามระเบียบนี้ จนกว่าคณะกรรมการหรือคณะกรรมการบริหารกองทุนที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นใหม่เข้ารับหน้าที่ในการประชุมครั้งแรก ซึ่งต้องไม่เกินสามร้อยวันนับแต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ”

เนื้อความใหม่ในข้อ 51 ที่แตกต่างไปจากข้อความเดิมคือ ระบุให้คณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี “ทำหน้าที่คณะกรรมการและคณะกรรมการบริหารกองทุนตามระเบียบนี้” เปลี่ยนจากข้อความเดิมที่ระบุให้คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ “ทำหน้าที่คณะกรรมการตามระเบียบนี้” เท่านั้น

การแก้ไขเพิ่มเติมข้อความดังกล่าว มีข้อสังเกตว่า เป็นการเพิ่มอำนาจให้กับคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ที่มี “นางนลินี ทวีสิน” เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ มีบทบาทหน้าที่มากขึ้น คือคุมตั้งแต่ระดับนโยบายภาพใหญ่จนถึงระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะอำนาจในการจัดสรรเงินตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไปถึงการจัดสรรเงินกองทุนในระดับต่างๆ

นางนลินี ทวีสิน
นางนลินี ทวีสิน ที่มา: http://images.voicetv.co.th

อนึ่ง ตามระเบียบสำนักนายกฯ คณะกรรมการกองทุนจะเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุน

นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลอีกข้อเป็นข้อ 53 ระบุว่า “ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้อำนวยการตามระเบียบนี้ ให้อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนทำหน้าที่ผู้อำนวยการจนกว่าจะมีผู้อำนวยการตามระเบียบนี้ ซึ่งต้องไม่เกินสามร้อยวันนับแต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ”

เพราะฉะนั้น จากนี้ไปอีก 8-9 เดือน หากยังแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะกรรมการบริหารตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกฯ คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ จะทำหน้าที่แทน ในกรณีตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” สำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ โดยให้อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนทำหน้าที่แทน

ทั้งนี้ กระบวนการรับสมัครสมาชิก กระบวนการทำประชาคม กระบวนการคัดเลือกกรรมการกองทุนสตรีจังหวัด ก็ถูกคัดค้านจากกลุ่ม “เครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย”

โดยส่งเรื่องร้องเรียนให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2555 และผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมาให้พิจารณาข้อเท็จจริงในการขับเคลื่อนนโยบายเรื่องจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่เป็นการลิดรอนสิทธิประชากรหญิงกว่า 23 ล้านคน ที่มิได้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและการดำเนินการตามแนวนโยบายด้านการบริหารแผ่นดิน ที่มิได้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนของนายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)

ดร.สุธาดา เมฆรุ่งเรืองกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย กล่าวว่า ข้อร้องเรียนของเครือข่ายฯ เน้นเรื่องการ “ลิดรอนสิทธิ์” โดยต้องการให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาว่า กระบวนการขับเคลื่อนของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของผู้ที่ไม่เป็นสมาชิก หรือยังไม่พร้อมเป็นสมาชิกหรือไม่

ขณะที่ทางสำนักนายกรัฐมนตรี โดย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงกรณีข้อเรียกร้องของเครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย และมีการนำเสนอเป็นข่าวดังนี้ แจง “กองทุนสตรี” ส่งเสริมคุณภาพชีวิต-ปัดรอนสิทธิ์ และ รองโฆษกรัฐบาลยันกองทุนสตรีไม่รอนสิทธิผู้หญิง เป็นต้น

ข้อมูลเพิ่มเติม
1. ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ. 2555
2. ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2555
3. หนังสือร้องเรียนของเครือข่ายผู้หญิงผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทยถึงกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ