ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสเศรษฐกิจ > สถาบันการเงินขอ soft loan แบงก์ชาติ สูงถึง 366,399 ล้านบาท มาจากลูกค้าบุคคลขอกู้กว่า 2 แสนล้าน

สถาบันการเงินขอ soft loan แบงก์ชาติ สูงถึง 366,399 ล้านบาท มาจากลูกค้าบุคคลขอกู้กว่า 2 แสนล้าน

12 มีนาคม 2012


โครงการเงินกู้แบบผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ หรือ “soft loan” วงเงิน 300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสบทบเงินระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) 70% หรือเป็นวงเงิน 210,000 ล้านบาท และอีก 30% เป็นส่วนของสถาบันการเงิน หรือเป็นวงเงิน 90,000 ล้านบาท โดยธปท.จะคิดอัตราดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเพียง 0.01% ต่อปี และสถาบันการเงินต้องคิดอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมกับลูกค้าไม่เกิน 3% ต่อปี เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ปี 2554

ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการนี้ นางสุธาศินี นิมิตกุล ผู้อํานวยการ ฝ่ายนโยบายและกํากับการแลกเปลี่ยนเงิน สายตลาดการเงิน ธปท. รายงานว่า หลังจากให้สถาบันการเงินยื่นขอรับวงเงินจัดสรรจากธปท. ภายในวันที่ 5 มีนาคม 2555 ปรากฏว่า มีสถาบันการเงิน 21 แห่ง ยื่นขอรับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น 366,399 ล้านบาท มากกว่าวงเงินที่ธปท.เตรียมจัดสรรไว้ 210,000 ล้านบาท หรือสูงเกินวงเงินที่ธปท.กำหนดไว้ถึง 156,399 ล้านบาท

โดยการยื่นขอรับวงเงินจัดสรร ธนาคารพาณิชย์ไทย 13 แห่ง ยื่นขอมากที่สุด 270,509 ล้านบาท รองลงมาคือ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง จำนวน 95,464 ล้านบาท และสาขาธนาคารต่างประเทศ 426 ล้านบาท

ทั้งนี้วงเงินที่สถาบันการเงินทั้ง 21 แห่งขอรับจัดสรร 366,399 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขอรับจัดสรรวงเงินเพื่อไปปล่อยกู้ให้กับลูกค้าบุคคลธรรมดาจำนวน 201,152 ล้านบาท และลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ( SMEs) จำนวน 165,247 ล้านบาท

แต่เนื่องจากวงเงินที่ขอรับจัดสรรสูงกว่าที่ธปท. กำหนด 156,399 ล้านบาท ทำให้ธปท.ต้องปรับลดวงเงินที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งยื่นขอมา และเพื่อกระจายให้ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 ทั้งเอสเอ็มอี และบุคคลธรรมดา ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและเหมาะสม รวมทั้งการจัดสรรวงเงินให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งอย่างเป็นธรรม

ธปท. จึงพิจารณาจัดสรรวงเงิน 210,000 ล้านบาท ในรอบแรกโดยแยกเป็นให้กลุ่มเอสเอ็มอีในสัดส่วน 45% ของวงเงินรับจัดสรร และบุคคลธรรมดา 55% ของวงเงินจัดสรร ดังนี้

1.ธนาคารพาณิชย์ไทย ได้รับจัดสรรวงเงินลดลงเหลือ 152,800 ล้านบาท คิดเป็น 72.76% ของวงเงินจัดสรร

2.สาขาธนาคารต่างประเทศ ได้รับจัดสรรวงเงินลดลงเหลือ 240 ล้านบาท คิดเป็น 0.12% ของวงเงินจัดสรร

3.สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้รับจัดสรรวงเงินลดลงเหลือ 56,960 ล้านบาท คิดเป็น 27.12% ของวงเงินจัดสรร

ทั้งนี้ ธปท. ระบุว่าได้แจ้งผลการจัดสรรวงเงินให้สถาบันการเงินทราบแล้ว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2555 โดยสถาบันการเงินสามารถเบิกเงินกู้ที่ ธปท. ได้ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป และ ธปท. จะมีการทบทวนการจัดสรรวงเงินให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งใหม่ ในกรณีที่สถาบันการเงินเบิกใช้วงเงินที่ได้รับจัดสรรไม่เต็มจํานวน และ/หรือสถาบันการเงินส่งคืนเงินที่เบิกใช้ให้ ธปท. แล้ว และมีสถาบันการเงินแจ้งความต้องการขอใช้วงเงินเพิ่ม โดยธปท.จะทบทวนเป็นรายไตรมาส ซึ่งกําหนดทบทวนวงเงินในครั้งถัดไปภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2555

อ่านข้อมูลเพิ่มได้ที่ ข่าวธปท. เรื่องการจัดสรรวงเงินให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 กับ ประกาศธปท. เรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี พ.ศ. 2554

อ่านข่าวเพิ่มเติม จากไทยพับลิก้า ซอฟต์โลน 3 แสนล้าน คาดแบงก์พาณิชย์เร่ิมได้ 8 มี.ค.นี้ – ธปท.แบกดอกเบี้ยปีละ 60,000 ล้านบาท กับ 55 ปีบทบาทธปท.ช่วยภาคเศรษฐกิจจริง : soft loan 3 แสนล้าน สูงเป็นประวัติการณ์