ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช. เล็งออกประกาศ รับกฎเหล็กปรับนิติบุคคลเอี่ยวจ่ายสินบน “2 เท่า” จากประโยชน์ที่ได้รับ

ป.ป.ช. เล็งออกประกาศ รับกฎเหล็กปรับนิติบุคคลเอี่ยวจ่ายสินบน “2 เท่า” จากประโยชน์ที่ได้รับ

20 ตุลาคม 2015


นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ที่มาภาพ : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/517701
นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ที่มาภาพ: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/517701

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2558 นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ตามที่กฎหมาย ป.ป.ช. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ปี 2558 มาตรา 123/5 วรรคสอง กำหนดว่า นิติบุคคลใดที่มีผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารหรือพนักงานไปให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องโดนโทษปรับ 1-2 เท่าของค่าเสียหายหรือประโยชน์ที่ได้รับจากสินบนนั้นหากพบว่าไม่มีมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมเพียงพอ บทบัญญัตินี้ทำให้ภาคเอกชนตื่นตัวเป็นอย่างมาก โดยทราบว่าในการประชุมสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (ไอโอดี) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการหยิบเรื่องนี้ไปคุยในที่ประชุม ป.ป.ช. จึงเห็นว่าควรจะกำหนดแนวทางในการปฏิบัติตามบทบัญญัติให้มีความชัดเจนมากยิ่ง จึงมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อศึกษาว่าจะวางหลักเกณฑ์ในการบังคับใช้อย่างไร โดยจะออกมาเป็นประกาศ ป.ป.ช. ต่อไป

แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ทาง ป.ป.ช. ได้หารือเบื้องต้นกับตัวแทนภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นไอโอดี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ฯลฯ ถึงการวางหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 123/5 วรรคสอง คาดว่าจะมีการจัดทำโฟกัสกรุ๊ปผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2558 จากนั้นจะประชุมสรุปเนื้อหาของร่างประกาศ ป.ป.ช. ที่น่าจะออกมาบังคับใช้ได้ภายในเดือนธันวาคม 2558

“มาตรา 123/5 จะมีส่วนช่วยในการป้องกันการทุจริต เพราะจะบังคับให้แต่ละบริษัทต้องมีมาตรการป้องกันคนของตัวเองไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐของไทยหรือต่างชาติ เพราะไม่เพียงผู้ให้สินบนจะถูกจำคุกไม่เกิน 5 ปี บริษัทยังจะถูกปรับในอัตรา 1-2 เท่าของผลประโยชน์ที่ได้รับ เช่น โครงการที่ได้จากการจ่ายสินบนมีมูลค่าเท่าใด ก็อาจจะถูกปรับ 2 เท่าของมูลค่าโครงการนั้น เป็นต้น” แหล่งข่าวระบุ

ทั้งนี้ กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 123/5 มีเนื้อหาระบุว่า

“ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลใดและกระทำไปเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคลนั้น โดยนิติบุคคลดังกล่าวไม่มีมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำความผิดนั้น นิติบุคคลนั้นมีความผิดตามมาตรานี้ และต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งเท่าแต่ไม่เกินสองเท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับ

“บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลตามวรรคสอง ให้หมายความถึง ลูกจ้าง ตัวแทน บริษัทในเครือ หรือบุคคลใดซึ่งกระทำการเพื่อหรือในนามของนิติบุคคลนั้น ไม่ว่าจะมีอำนาจหน้าที่ในการนั้นหรือไม่ก็ตาม”