วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมกราคม 2568 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม 2568 มีทั้งสิ้น 107,103 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 24.63 เพราะผลิตขายในประเทศลดลงร้อยละ 31.78 ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 21.10 ตามยอดส่งออกที่ลดลง
รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 35,714 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 31.98 โดยแบ่งเป็น
-
-รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 15,970 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 51.09
-รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 1,665 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 155.37
-รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 2,165 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 439.90
-รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 15,914 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 15.36
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมกราคม 2568 ไม่มีการผลิต
รถยนต์บรรทุก เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 71,389 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 20.31
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 70,604 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 18.65 โดยแบ่งเป็น
-
-รถกระบะบรรทุก 10,273 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 36.14
-รถกระบะดับเบิลแค็บ 45,580 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 17.81
-รถกระบะ PPV 14,751 คันลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 3.26
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 785 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 71.91
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 75,044 คัน เท่ากับร้อยละ 70.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 21.10
-รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2568 ผลิตเพื่อการส่งออก 13,954 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 49.42
-รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2568 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 61,090 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 9.52 โดยแบ่งเป็น
-
-รถกระบะบรรทุก 5,244 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 18
-รถกระบะดับเบิลแค็บ 42,668 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 11.6
-รถกระบะ PPV 13,178 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 2.84
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 32,059 คัน เท่ากับร้อยละ 29.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 31.78
-รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 21,760 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 12.68
-รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2568 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9,514 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 50.62 ซึ่งแบ่งเป็น
-
-รถกระบะบรรทุก 5,029 คันลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 48.11
-รถกระบะดับเบิลแค็บ 2,912 คันลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 59.23
-รถกระบะ PPV 1,573 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 35.37
-รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมกราคม 2568 ไม่มีการผลิต
-รถบรรทุก เดือนมกราคม 2568 ผลิตได้ 785 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 71.91
รถจักรยานยนต์
เดือนมกราคม 2568 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 214,071 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 4.68 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 175,856 คัน ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 1.11 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 38,215 คัน ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 18.29
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมกราคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,092 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 12.26 เพราะสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศปี 2567 ขยายตัวในอัตราต่ำที่ร้อยละ 2.5 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงโดยเฉพาะผลผลิตยานยนต์ที่มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากลดลง แรงงานจำนวนมากมีรายได้ลดลง ทำให้ใช้จ่ายลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่ำ จึงขอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อซื้อรถกระบะให้เร็วขึ้นจากสี่เดือนเป็นสองเดือนเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตมากขึ้น จ้างงานมากขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้น เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราสูงขึ้นซึ่งจะสร้างบรรยากาศการลงทุนให้เร็วขึ้นตามความประสงค์ของนายกรัฐมนตรี
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมกราคม 2568 ส่งออกได้ 62,321 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 28.13 จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการตอบโต้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งการส่งออกของรถยนต์ไฟฟ้าจีนราคาถูกมาแข่งขันมากขึ้นในประเทศคู่ค้า และรถยนต์ส่งออกบางรุ่นกำลังจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ และจากเดือนธันวาคมมีวันหยุดมาก บางบริษัทเปิดทำการช้าในเดือนมกราคม จึงผลิตได้น้อย ทำให้เดือนมกราคมมีรถส่งออกได้น้อยตลาดออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนมกราคม 2568 แบ่งเป็น ดังนี้
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 41,445.30 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 31.57
เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,914.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 38.11
ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 14,998.50 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 0.26
อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,183.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 13.84
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 61,541.96 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 22.72
รถจักรยานยนต์
เดือนมกราคม 2568 มีจำนวนส่งออก 72,893 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 12.02 โดยมีมูลค่า 6,147.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 6.78
ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 177.56 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 19.39
อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 202.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 37.21
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมกราคม 2568 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,527.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2567 ร้อยละ 6.57
เดือนมกราคม 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 68,069.18 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ20.63
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมกราคม 2568
เดือนมกราคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 14,711 คัน ลดลงจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 7.73 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งจำนวน 12,335 คัน
-รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 53 คัน
-รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 2 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 7 คัน
-
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 2,262 คัน
-รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 1 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมกราคม 2568
เดือนมกราคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 13,545 คัน ลดลงจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 4.23 โดยแบ่งเป็น
-
-รถยนต์นั่งจำนวน 13,453 คัน
-รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 1 คัน
-รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 3 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 10 คัน
-
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน78 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมกราคม 2568
เดือนมกราคม 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,074 คัน ลดลงจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 14.26 โดยแบ่งเป็น
-
-รถยนต์นั่งจำนวน 1,071 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจร 3 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2568
ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 242,076 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 63.85 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
-
-รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 171,617 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 66.15
-รถยนต์นั่งมีจำนวน 168,318 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 64.77
-รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 2,541 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 211.02
-รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 82 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 60.78
-รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 167 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 178.33
-รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน
-รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 506 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 143.27
-รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 900 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 146.58
-รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,017 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 12.62
-รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 113 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 37.80
-รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 904 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 10.11
-รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 64,837 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 60.35
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 64,717 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 60.59
-รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 120 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ11.11
อื่นๆ
-
-รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,791 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 14.39
-รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 914 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 194.84
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2568
ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 482,899 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 35.02 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
-
-รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 473,503 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 35.86
-รถยนต์นั่งมีจำนวน 472,373 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 35.87
-รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 497 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 3.76
-รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 75 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 31.58
-รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 225 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 32.35
-รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 150
-รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 328 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 121.62
-รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
-รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,393 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 3.13
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,393 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 3.13
อื่นๆ
รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2568
ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 64,246 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.01 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
-
-รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 64,246 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.01
-รถยนต์นั่งมีจำนวน 64,171 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 17.02
-รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 43 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 4.88
-รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 21 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
-รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 66.67
-รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 6 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 50