ThaiPublica > เกาะกระแส > กรมอุตุฯ ชี้ 28 ก.พ.นี้ เข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิไม่สูงเท่าปี2567 แต่มี 14 จังหวัดที่ทะลุ 42 องศาเซลเซียส

กรมอุตุฯ ชี้ 28 ก.พ.นี้ เข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิไม่สูงเท่าปี2567 แต่มี 14 จังหวัดที่ทะลุ 42 องศาเซลเซียส

21 กุมภาพันธ์ 2025


กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ และอุณหภูมิจะลดลง  พร้อมประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการวันที่ 28 ก.พ.2568  โดยปีนี้ ยู่ในช่วง “ลานีญา” กำลังอ่อน ทำให้อากาศไม่ร้อนเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่มี 14 จังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงทะลุ 42 องศาเซลเซียส  คาดปริมาณฝนจะมากกว่าปกติร้อยละ 10-20

ดร.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2568) ดร.สุกันยาณี  ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนในประเทศไทย ว่าตั้งแต่ช่วงสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ลักษณะอากาศประเทศไทยจะเริ่มมีความแปรปรวนมากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล ลมเริ่มเปลี่ยนทิศทาง เช้าอากาศเย็น กลางวันอากาศร้อน ต้องติดตามและเฝ้าระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและเตรียมพร้อมรับมือ โดยในช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่ามวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน

ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน จึงทำให้เกิดลักษณะอากาศที่แปรปรวนขึ้น โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังค่อนข้างแรง บริเวณทีมีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ดังนั้น ขอให้ชาวเรือระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

อย่างไรก็ตามนับจากวันที่ 28 ก.พ.เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ โดย ดร.สุกันยาณี บอกว่าตามเกณฑ์ทางอุตุนิยมวิทยา จะพิจารณา 2 องค์ประกอบคือ (1) อุณหภูมิสูงสุดบริเวณประเทศไทยตอนบน  คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาค ตะวันออก วัดได้ตั้งแต่ 35.0 องศาเซลเซียส ขึ้นไป มีมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และ (2) ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมหนาว) ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมฝ่ายใต้พัดปกคลุมแทน โดยเกณฑ์อากาศร้อนจะใช้อุณหภูมิสูงสุดประจำวันตั้งแต่ 35.0-39.9  องศาเซลเซียส และอากาศร้อนจัด อุณหภูมิตั้งแต่ 40.0 องศาเซลเซียส

“ปีนี้ฤดูร้อนของประเทศไทยจะเริ่มขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และจะสิ้นสุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35-36 องศาเซลเซียส หากเทียบกับค่าปกติและหากเทียบกับสถิติที่กรมอุตุนิยมวิทยารวบรวมตั้งแต่ปี 2494 พบว่า ฤดูร้อนปีนี้ อุณหภูมิจะไม่สูงเท่ากับปีที่แล้ว เนื่องจากเป็นปีที่มีปรากฏการณ์ลาณีญากำลังอ่อน”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนเมษายน จะมีบางพื้นที่มีอากาศร้อนที่สุดอุณหภูมิจะสูงกว่า 42 องศาเซลเวียส  จำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น และชัยภูมิ

“ในช่วงฤดูร้อนอาจจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้เป็นระยะ จึงขอให้ติดตามข่าวสารที่กรมฯ จะแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า สำหรับปริมาณฝนคาดว่ามากกว่าค่าปกติร้อยละ 10-20 แต่ฝนที่ตกในช่วงฤดูร้อนจะเป็นฝนที่ตกไม่นานและครอบคลุมพื้นที่ไม่กว้าง แนะนำให้สำรองน้ำและใช้อย่างประหยัด”

  • กรมอุตุนิยมย้ำ “โลกไม่เหมือนเดิม” ยกระดับการพยากรณ์เจาะลึก-เครื่องมือบริหารความเสี่ยง “ไม่ปรับ-เราไม่รอด”
  • ด้านนายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า “ลานีญา” เข้าสู่ระยะความเป็นกลางจะทำให้เดือน เมษายน อากาศไม่ร้อนเท่ากับปี 2567 และจะมีฝนตกสลับบ้าง ทำให้ในเดือนพฤษภาคมก็จะเข้าสู่ฤดูฝนตามปกติ โดยปีนี้จะคล้ายๆ ปี2565 คือถ้าลานีญาเปลี่ยนมาเป็นกลางในช่วงกลางปี 2568 จะทำให้ยังพอมีลม และมีความชื้นทำให้อากาศไม่ร้อนและมีฝนตกในช่วงเดือนเมษายน หรืออาจจะมีพายุฤดูร้อน และเดือนพฤษภาคมก็เข้าสู่หน้าฝนตามปกติ