ThaiPublica > ThaiPublica Channel > ThaiPublica Podcast > Thaipublica Channel “สุวิทย์ เมษินทรีย์” ชี้ประเทศไทยถ้า “มักง่าย-ไม่คิดพลิกฟื้น” อาจจะง่อยถอยสู่โลกที่ 3

Thaipublica Channel “สุวิทย์ เมษินทรีย์” ชี้ประเทศไทยถ้า “มักง่าย-ไม่คิดพลิกฟื้น” อาจจะง่อยถอยสู่โลกที่ 3

17 สิงหาคม 2024


ศักยภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน มีแนวโน้มถดถอยลงอย่างน่าใจหาย ทั้งจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ปัญหากำลังการผลิต ขีดความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่รุมเร้าเศรษฐกิจต่อเนื่องนานนับ 20 ปี

ยิ่งเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เคยอยู่ในระดับกำลังพัฒนาด้วยกัน ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะตามหลังห่างไกลออกไปทุกที ทั้งในแง่อัตราการเติบโต รายได้ต่อหัว และตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ด้านการแข่งขัน

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ประธานกรรมการแพลตฟอร์ม Youth in Charge อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้สัมภาษณ์ไทยพับลิก้า โดยฉายภาพว่า เวลามองตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ คงจะต้องมองใน 2 มิติสำคัญ คือมิติทางด้านเศรษฐกิจ กับมิติทางด้านการเมืองควบคู่กัน

ปัจจุบัน ประเทศที่ใกล้ตัวเราในอาเซียนหรือเอเชีย อาทิเช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ขึ้นไปอยู่โลกที่หนึ่งหมดแล้ว คือการเมืองดี แข็งแรง เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เศรษฐกิจไม่ต้องพูด ส่วนจีนกับอินเดีย ที่แต่เดิมค่อนข้างยากจน มีประชากรเยอะ เมื่อก่อนอยู่โลกที่สอง วันนี้ก็หนีขึ้นไปโลกที่หนึ่งหมดแล้ว แม้แต่เวียดนามเอง ก็ทะยานออกมาจากโลกที่ 3 สู่โลกที่ 2 และมีศักยภาพที่จะก้าวสู่โลกที่1 หากไม่มีอะไรสะดุด
ประเทศไทยยังอยู่ที่เก่า ยังย่ำอยู่โลกที่สอง เราอาจจะหลุดจากโลกที่สามมาอยู่โลกที่สองได้ แต่ไม่สามารถขึ้นชั้นสู่โลกที่หนึ่ง เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่าห้วงเวลาที่ผ่านมา หลายประเทศก้าวขึ้นไปอยู่โลกที่หนึ่ง เรายังอยู่โลกที่สองอยู่เลย

ประเด็นสำคัญก็คือ ปัญหาของเรา เป็นปัญหาทั้งเศรษฐกิจด้วย ทั้งการเมืองด้วย เมื่อก่อนเราจะมองการเมืองมีปัญหา แต่เศรษฐกิจเราแข็งแรง แต่ตอนนี้มันเริ่มไม่ใช่ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ก่อให้เกิดความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ นี่คือตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ของไทย ณ เวลานี้

ระหว่างที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ มีการแข่งขันในเรื่องการดึงดูดการลงทุน เรากลับไม่เคยคิดจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างอุตสาหกรรมเลย ไทยยังเอนจอยอยู่กับการเป็นผู้ผลิต OEM

นอกจากนี้ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรงและเรื้อรัง ตั้งแต่เสื้อเหลือง เสื้อแดง พัฒนามาสู่การทะเลาะกันระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ มาสู่การมีแนวคิดจัดตั้งนีโอคอนเซอร์เวทีฟ เพื่อจะมาต่อสู้กับเสรีประชาธิปไตย คือเราง่วนอยู่กับเรื่องตบตีกัน การเอาชนะคะคานกัน เรื่องของความขัดแย้งที่รุนแรง เป็นระยะเวลาที่นานเกินไปโดยไม่รู้จบ

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเผชิญกับภาวะที่ถูกบีบบนบีบล่างที่เรียกว่า “nutcracker” นั่นคือ เราไม่สามารถแข่งขันกับประเทศที่ใช้แรงงานราคาถูก หรือใช้ทรัพยากรเยอะๆ ได้อีกแล้ว เราต้องไต่เพดานการแข่งขันไปสู้เรื่องดีไซน์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี ทิศทางมันชี้ชัดอยู่แล้วว่าเราต้องไปที่ตรงนั้น

ดร.สุวิทย์สรุปว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ แต่เราทำลายศักยภาพ เมื่อเราสูญเสียศักยภาพ บ้านเมืองก็อ่อนแอลง เราก็มีขีดความสามารถในการช่วงชิงโอกาสที่มาจากข้างนอกต่ำลง โอกาสไม่รอคอย มันลดระดับลงไปเรื่อยๆตามเวลา เรากำลังอยู่ที่จุดนั้นต่างหาก
โอกาสมีมาเสมอ แต่ศักยภาพเรามาถึงจุดหนึ่ง ถ้าไม่คิดที่จะพลิกฟื้น เราก็จะเป็นง่อย ถึงจุดนั้นอาจจะลำบากแล้ว เพราะว่าศักยภาพมันเตี้ยติดดินไปแล้ว

อ่านบทความฉบับเต็ม สุวิทย์ เมษินทรีย์” ชี้ประเทศไทยมี ‘โอกาส’ เสมอ แต่ถ้า “มักง่าย-ไม่คิดพลิกฟื้น” อาจจะง่อยถอยสู่โลกที่ 3 “ได้ที่เว็บไซต์ไทยพับลิก้า