ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์ รายงาน
การโหมรณรงค์ให้การชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆภายในประเทศลาวต้องใช้แต่เงินกีบ เพื่อหวังกระตุ้นค่าเงินกีบให้แข็งและมีเสถียรภาพขึ้น กลับกลายเป็นกระแสแบนสกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินบาทของไทย ของผู้ประกอบการลาวบางกลุ่ม
หลายวันมานี้ แฮชแท็ก “เซฟเงินกีบ” ถูกเผยแพร่ไปทั่วชุมชนออนไลน์ของลาว ร้านค้าหลายแห่งขึ้นป้ายไว้หน้าร้าน ปฏิเสธการรับเงินค่าสินค้าเป็นเงินสกุลบาท หรือดอลลาร์สหรัฐ ร้านค้าบางแห่งถึงกับประกาศว่าถ้าลูกค้าต้องการจ่ายค่าสินค้าเป็นเงินบาท จะคิดในอัตราที่ต่ำกว่าที่ธนาคารพาณิชย์ในลาวกำหนด
กระแสแบนเงินบาท ได้สร้างความไม่พอใจและไม่เข้าใจให้กับคนไทยบางส่วน มีการสร้างกระแสตอบโต้กลับในชุมชนออนไลน์ของไทย รณรงค์ให้แบนการเดินทางเข้าไปเที่ยวในลาว
ล่าสุด ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้ออกมาแสดงท่าทีและจุดยืนต่อความความเคลื่อนไหวเหล่านี้…
วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.52 น. เพจทางการของธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้เผยแพร่คลิปคำแถลงชี้แจงของ “พานุสัก แก่นวงพะจัน” หัวหน้าสำนักงาน ธนาคารแห่ง สปป.ลาว มีเนื้อหาตามคำถอดความโดยละเอียดดังนี้…
“…ในฐานะตัวแทนธนาคารแห่ง สปป.ลาว ขอถือเป็นเกียรติแจ้งต่อท่านทั้งหลายได้ทราบอย่างทั่วถึงกันว่า
จากความตื่นตัวของสังคมที่พ่อค้า แม่ค้า ได้มีการผลักดันการใช้เงินกีบกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นการกระทำที่น่ายกย่อง สรรเสริญ และได้รับการตอบรับจากสังคมเป็นอย่างดี
ถึงอย่างไรก็ตาม ได้มีบางทัศนะผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่นำเสนอว่า การผลักดันดังกล่าวเป็นการเอาเปรียบลูกค้า นักท่องเที่ยว โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนต่ำกว่าความเป็นจริง ห้ามหรือว่าแบนเงินตราต่างประเทศ และอื่นๆ
ต่อทัศนะดังกล่าว ในนามธนาคารแห่ง สปป.ลาว ที่มีหน้าที่ควบคุมเงินตราต่างประเทศ ขอชี้แจงเพิ่มเติมให้กับท่านทั้งหลายได้รับรู้และเข้าใจให้ถูกต้องว่า
อิงตามกฏหมายว่าด้วยการควบคุมเงินตราต่างประเทศฉบับปรับปรุง เลขที่ 15/สพซ. ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ได้กำหนดไว้ดังนี้
1.เงินกีบเท่านั้นที่เป็นสื่อกลางในการชำระ รับชำระ ที่ถูกต้องตามกฏหมาย ทุกการติดประกาศราคาสินค้า ชำระ รับชำระค่าสินค้า และบริการภายใน สปป.ลาว จะต้องเป็นเงินกีบ
2.การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ต้องทำผ่านธนาคารพาณิชย์ และหน่วยบริการของธนาคารพาณิชย์ ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
3.การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน ต้องให้ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้กำหนดแต่เพียงผู้เดียว การกำหนดราคาสินค้า และบริการ ต้องอ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารพาณิชย์กำหนด จึงจะถือว่าถูกต้องตามกฏหมาย
4.บุคคล นิติบุคคล องค์กรที่ถูกจัดตั้ง สามารถครอบครองเงินตราต่างประเทศ มีบัญชีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศ และดำเนินธุรกรรมเป็นเงินตราต่างประเทศ ให้ถูกต้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ตามที่ระเบียบการได้กำหนดไว้
สำหรับการตื่นตัวของสังคมในการส่งเสริมการใช้เงินกีบในระยะที่ผ่านมา ข้าพเจ้าขอให้ท่านทั้งหลายมีความเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นที่จะสร้างความสับสนและเข้าใจผิด
ที่ผ่านมานั้น เป็นเพียงการแสดงออกโดยสมัครใจของสังคมที่อยากช่วยกันใช้แต่เงินกีบในการชำระค่าสินค้าและบริการอยู่ภายในประเทศ ลดผ่อนความต้องการเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเคยเป็นความคุ้นชินต่อการใช้มาอย่างแพร่หลาย เพื่อลดผ่อนผลกระทบต่อการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยน เงินเฟ้อ และต้องการให้ผู้มีเงินตราต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคนลาวและชาวต่างชาติ นำเงินตราต่างประเทศไปแลกเปลี่ยนกับธนาคารพาณิชย์เป็นเงินกีบมาก่อนจะใช้จ่ายภายในประเทศให้ถูกต้องตามกฏหมาย เหมือนกับที่ได้มีการปฏิบัติกันในประเทศอื่นๆ
ทุกสกุลเงินตราของแต่ละประเทศ ก็ล้วนแล้วแต่มีความหมาย มีคุณค่า และมีการใช้อย่างถูกต้องกับจุดประสงค์และเป้าหมาย ตามกฏหมายและระเบียบการที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้
ในอนาคตอันใกล้นี้ ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ของพวกเรา จะออกข้อตกลง คำแนะนำโดยละเอียด ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ และชำระหนี้สิน อยู่ภายใน สปป.ลาว ว่าจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร จึงจะสอดคล้อง เหมาะสม ต่อไป
ดังนั้น ธนาคารแห่ง สปป.ลาว จึงขอเรียกร้องมายังบรรดาท่านทั้งหลาย จงให้ความร่วมมือ ส่งเสริมการใช้เงินกีบในการชำระค่าสินค้าและบริการภายในลาว ให้สอดคล้องกับ คำขวัญที่ว่า”อยู่เมืองลาว ใช้แต่เงินกีบ” การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน จะต้องทำให้ถูกต้อง และ แลกเปลี่ยนเงินตรากับธนาคารพาณิชย์ก่อนจะใช้จ่าย เพื่อปฏิบัติตามนิติกรรมควบคุมเงินตราต่างประเทศอย่างเข้มงวด
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านทั้งหลายจะได้รับรู้และเข้าใจอย่างเป็นเอกฉันท์ รวมทั้งให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามระเบียบ กฏหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเงินตราต่างประเทศอย่างเข้มงวดด้วย ขอขอบคุณ
คลิปการแถลงชี้แจงของหัวหน้าสำนักงาน ธนาคารแห่ง สปป.ลาว
https://www.facebook.com/watch/?v=504776351949981&rdid=M0QagzUs5D0ROVQM
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
