ThaiPublica > เกาะกระแส > ไทม์ไลน์เลือก ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่’ เคาะชื่อเสนอ ครม.อนุมัติ 2 ก.ค.นี้

ไทม์ไลน์เลือก ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่’ เคาะชื่อเสนอ ครม.อนุมัติ 2 ก.ค.นี้

8 พฤษภาคม 2025


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)

บอร์ดคัดเลือกฯแถลงไทมไลน์สรรหา ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่’ เปิดรับสมัคร 13 พ.ค.- 4 มิ.ย. ประกาศชื่อผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติ 20 มิ.ย. – สัมภาษณ์ – แสดงวิสัยทัศน์ 24 มิ.ย. – เคาะชื่อเสนอ ครม.อนุมัติ 2 ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวการเปิดรับสมัครบุคคล เพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่าในคราวการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการแห่งประเทศไทย (คณะกรรมการคัดเลือกฯ) ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้มีการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าการ ธปท.) โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร

    1.1 มีสัญชาติไทย
    1.2 มีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเสนอชื่อเพื่อทรงแต่งตั้ง
    1.3 มีความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ หรือ ด้านการเงินการธนาคาร รวมทั้งมีความรู้ความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ด้านอื่น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ผู้ว่าการ ธปท.
    1.4 สามารถทำงานให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เต็มเวลา
    1.5 สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) รับรอง

2.คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร

    2.1 มีความรู้ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และภาวะเศรษฐกิจของโลกเป็นอย่างดี
    2.2 มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนโยบายการเงิน นโยบายการกำกับดูแลสถาบันการเงิน และนโยบายเกี่ยวกับบระบบการชำระเงินเป็นอย่างดี
    2.3 มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กรตามกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
    2.3.1 ในกรณีที่เป็น หรือ เคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดี หรือ เทียบเท่า
    2.3.2 ในกรณีที่เป็น หรือ เคยเป็นผู้บริหารองค์กรเอกชน ต้องเป็นองค์กรที่มีขนาดสินทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท โดยต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหนึ่งระดับ ถัดจากผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้นในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง
    2.3.3 ในกรณีที่เป็น หรือ เคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือ องค์กรระหว่างประเทศ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหนึ่งระดับถัดจากผู้บริหารสูงสุดขององค์กร และ

3. ผู้สมัครต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้

    3.1 เป็นคนไร้ความสามารถ หรือ คนเสมือนไร้ความสามารถ
    3.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
    3.3 เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือ ความผิดลหุโทษ
    3.4 เป็นพนักงาน หรือ ลูกจ้างของธนาคารแห่งประเทศไทย
    3.5 เป็น หรือ เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเสนอชื่อเพื่อทรงแต่งตั้ง
    3.6 เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือ เจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเสนอชื่อเพื่อทรงแต่งตั้ง
    3.7 เป็นกรรมการ หรือ ดำรงตำแหน่งใดในสถาบันการเงิน หรือ นิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งเนื่องจากมีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ
    3.8 เป็นกรรมการ หรือ ผู้บริหาร หรือ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือ มีส่วนได้เสียอย่างมีนัยสำคัญในนิติบุคคล ซึ่งมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังเช่น

      (ก) นิติบุคคลที่เข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจ หรือ กำลังจะเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับธนาคารแห่งประเทศไทย อันมีลักษณะก่อให้เกิดประโยชน์ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
      (ข) นิติบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับหรือตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งเนื่องจากมีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ
      3.9 เป็นคู่สัญญา หรือ เป็นผู้มีส่วนได้เสียในสัญญา หรือ กิจการของธนาคารแห่งประเทศไทยอันมีลักษณะที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยให้ใช้บังคับกับคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้สมัครด้วย

ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้สมัครมีลักษณะต้องห้าม ตามข้อ 3.4 ข้อ 3.7 และข้อ 3.8 (ข) จะต้องมีคำรับรองของผู้สมัครว่า หากได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือก ให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะรัฐมนตรีมีมติเสนอชื่อเพื่อทรงแต่งตั้ง ข้าพเจ้าจะลาออกจากการเป็นบุคคลตามข้อ 3.4 ข้อ 3.7 และข้อ 3.8 (ข) ซึ่งจะต้องกระทำก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะดำเนินการเสนอชื่อเพื่อทรงแต่งตั้ง

4. การรับสมัคร ผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครด้วยตนเอง หรือ มอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นใบสมัครแทนได้ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครตามที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ กำหนด โดยปิดผนึก และจ่าหน้าซองถึงประธานกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งใบสมัครได้ที่กองนโยบายระบบการเงิน และ สถาบันการเงิน ชั้น 2 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ 10400 ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2568 ในวันและเวลาราชการ

5. การพิจารณาคัดเลือก คณะกรรมการคัดเลือกจะดำเนินการพิจารณาคิดเลือกจาก

    5.1 ข้อมูลใบสมัคร และเอกสารหลักฐานประกอบการรับสมัคร
    5.2 เอกสารแสดงแนวคิดการบริหารจัดการ ธปท. และ วิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และเศรษฐกิจการเงินโลก นโยบายการเงิน นโยบายการกำกับดูแลสถาบันการเงิน และนโยบายเกี่ยวกับระบบการชำระเงิน

นายพรชัย กล่าวต่อว่า “หลังจากปิดรับสมัคร ทางคณะกรรมการคัดเลือกฯก็จะมีการประชุมเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครในวันที่ 20 มิถุนายน 2568 จากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯก็จะเชิญผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมาสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 หลังจากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯก็จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่า ธปท. ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 และส่งชื่อผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอที่ประชุม ครม.อนุมัติในขั้นตอนต่อไป”

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดของประกาศคณะกรรมการคัดเลือกฯ และใบสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการ ธปท. ได้ที่ www.mof.go.th www.fpo.go.th และ www.bot.or.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2273-9020 ต่อ 3229 หรือ 3238 e-mail [email protected]

อ่าน ประกาศคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่นี่