ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > กบข.เพิ่มทางเลือกลงทุนให้สมาชิก วางแผนสร้าง Retirement Complex

กบข.เพิ่มทางเลือกลงทุนให้สมาชิก วางแผนสร้าง Retirement Complex

23 พฤษภาคม 2024


นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

เลขาธิการ กบข. พร้อมขับเคลื่อนกองทุนให้มั่นคง หวังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้สมาชิก เพื่อให้สมาชิกมี “Freedom for Living” เกษียณมีสุข ไร้ความกังวล ภารกิจแรกทบทวนความเพียงพอของเงินเกษียณ และศึกษาทางเลือกรับผลตอบแทน วางรากฐานการบริหารกองทุนให้มั่นคง

วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)ได้จัดแถลงข่าว เผยวิสัยทัศน์ โดยนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 สามารถบริหารเงินลงทุนได้ผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 3% เนื่องจากการลงทุนในต่างประเทศที่เต็มสัดส่วน 60% นั้นส่วนใหญ่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง คือ ตราสารหนี้ และลงทุนในสินทรัพย์โภคภัณฑ์มากขึ้น คือ น้ำมัน และ ทองคำ ซึ่งช่วยรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนจากสถานการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือสงครามได้ดี ขณะที่การลงทุนในประเทศ 40% ในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ นอกจากนี้กบข.ยังได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยโรงแรมในภูเก็ตบริษัทไทยที่อยู่นอกตลาด และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ยังให้ผลตอบแทนที่ดี

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 กบข. สามารถสร้างผลตอบแทนแผนหลักได้ 1.46% (หลังหักค่าใช้จ่าย) โดยได้รับผลดีจากการลงทุนทั้งในและต่างประเทศในตราสารหลากหลายประเภท และการจัดการติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด

“ผลตอบแทนในปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา และไม่น่าจะต่ำกว่า 1.46% แต่ก็ไม่ได้ขยายตัวสูงมาก เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงอีก 2-3 เรื่องที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2569 เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นได้ทันการณ์ ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งผลจากการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐต่อการค้า อัตราดอกเบี้ย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” นายทรงพลกล่าว

กบข. ได้กำหนดแผนงานวางรากฐานการบริหารกองทุน ในการขับเคลื่อน กบข. ให้เป็นกองทุนที่มีความมั่นคง สร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว มากกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี บวก 2% ต่อปี และเพิ่มระดับความไว้วางใจของสมาชิกที่มีต่อ กบข. เพื่อให้สมาชิกมุ่งสู่การมี “Freedom for Living เกษียณมีสุข”

“การสร้างอัตราผลตอบแทนบนจากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี บวก 2% ต่อปี เป็นอัตราอ้างอิง(benchmark) เพื่อให้สมาชิกกบข.มีเงินเพียงพอในการใช้จ่ายยามเกษียณ แต่จะเป็นเม็ดเงินเท่าไรขึ้นอยู่กับแผนลงทุนของสมาชิกแต่ละราย รวมทั้งไลฟ์สไตล์”

โดยภารกิจแรกที่จะดำเนินงาน คือ การทบทวนความเพียงพอของเงิน ณ วันเกษียณ โดยเพิ่มตัวแปรหนี้สิน การมีอายุยืนยาวของคนไทย และระดับความเพียงพอของสมาชิกแต่ละกลุ่มอาชีพเข้ามาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้ระดับความเพียงพอมีค่าเป็นปัจจุบันมากที่สุด และนำผลศึกษามาปรับปรุงแผนการจัดสรรการลงทุนของ กบข.

ทั้งนี้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ได้จากการสำรวจในปี 2565 จากสมาชิกกบข. ที่เกษียณอายุ 60-70 ปีพบว่า ค่าใช้จ่ายรายเดือนหลังเกษียณในระดับพอเพียงอยู่ที่ 17,815-22,615 บาท

ภารกิจที่สอง คือ การศึกษาเพิ่มทางเลือกในการรับผลตอบแทนรูปแบบอื่นให้กับสมาชิก โดยทางเลือกในการรับผลตอบแทนรูปแบบอื่นออกแบบสำหรับส่วนเพิ่มเงินออมที่สมาชิกเพิ่มเติมจากภาคบังคับ เนื่องจากความต้องการของสมาชิกในการออมเพิ่มนั้นอาจมีลักษณะผลตอบแทน อาทิ ต้องการรับเงินปันผลระหว่างทาง ต้องการทางเลือกในการออมเพิ่มเติม และอาจรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น สิทธิ์ในการใช้บริการ Retirement Home & Care เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ และอาจต้องมีการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ นอกจากนี้ เนื่องด้วยการเพิ่มขึ้นของกลุ่มประชากรสูงวัย (Aging Society) จะมีส่วนในการปรับปรุงการลงทุนในอนาคตด้วย

ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 กบข.มีสมาชิกจำนวน 1.2 ล้านคนและบริหารเงินลงทุนรวม 1.35 ล้านบาท รัฐบาลจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน 3% เท่ากับสมาชิกที่ออมในอัตรา 3% ส่วนสมาชิกที่ออมเพิ่มด้วยตัวเองยังมีน้อย

นายทรงพล กล่าวว่า กบข.จะมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเพื่อตอบโจทย์สมาชิกและสังคมสูงวัย เช่น การสร้างที่อยู่อาศัยรองรับข้าราชการวัยเกษียณ (Retirement Complex) ซึ่งกบข.เองได้ลงทุนในอาคารสำนักงาน และโรงแรมอยู่แล้ว คาดว่าในปีนี้จะสามารถสรุปแผนลงทุนที่ได้ลงนามร่วมลงทุนกับองค์กรการลงทุนเพื่อบริหารทุนสำรองของบรูไนดรุสซาลาม (Brunei Investment Agency : BIA)ไปแล้ว รวมไปถึงการลงทุนในภาคเกษตรอุตสาหกรรม ธุรกิจเพื่อสุขภาพ ธุรกิจพลังงานสีเขียว และ ธุรกิจดาวน์สตรีมปิโตรเคมี และยังเปิดรับนักลงทุนรายใหม่ๆ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวงเงิน Retirement Complex เนื่องจากอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบและแนวทางการลงทุน” แต่อาจจะเป็นทางเลือกใหม่ให้สมาชิกกบข.ร่วมลงทุนแบบสมัครใจ เช่น ลงทุนคนละ 500 บาทต่อเดือน ถ้ามีคนสนใจ 1 ล้านคน 1 ปีก็จะเป็นเงิน 6,000 ล้านบาท และเปิดรับนักลงทุนที่สนใจด้วย

นายทรงพล กล่าวว่า ปีนี้จะมีการทบทวนพอร์ตการลงทุนใหม่ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นการทบทวนตามรอบการลงทุนด้วยกลยุทธ์แบบ SAA (Strategic Asset Allocation)ทุก 3 ปี ซึ่งใีปนี้จะครบกำหนดในช่วงปลายปี เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะต้องขออนุมัติจากกระทรวงการคลัง นอกจากนี้จะศึกษาหาแนวทางในการเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่ายให้กับสมาชิก ควบคู่กับการเพิ่มทางเลือกการลงทุนใหม่ๆ ให้สมาชิกมากขึ้น

กบข. หรือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการ กบข. เป็นผู้กำหนดนโยบาย