ThaiPublica > เกาะกระแส > “หู จิ่นเทา” อดีตประธานาธิบดี ถูกเชิญตัวออกจากพิธีปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20

“หู จิ่นเทา” อดีตประธานาธิบดี ถูกเชิญตัวออกจากพิธีปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20

23 ตุลาคม 2022


ที่มาภาพ: https://www.reuters.com/world/china/former-chinese-president-hu-jintao-escorted-out-party-congress-2022-10-22/

อดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ถูกนำตัวออกจากเวทีในระหว่างพิธีปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 อย่างคาดไม่ถึง

เมื่อวานนี้ (22 ต.ค. 2565) ในระหว่างพิธีปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 อดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ซึ่งนั่งถัดจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถูกนำตัวออกจากเวที โดยที่ไม่มีการคาดคิดมาก่อน

หู จิ่นเทา ในวัย 79 ปี ดูอ่อนระโหย นั่งถัดจากสี จิ้นผิง ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวออกจากที่ประชุม แต่ไม่มีแถลงการณ์จากรัฐบาลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่สื่อของจีนรายงานว่า หู จิ่นเทาไม่ค่อยสบาย

หู จิ่นเทา ซึ่งรับตำแหน่งประธานาธิบดีในระหว่างปี 2549 และ2556 กำลังอยู่บนเวที ในขณะที่เจ้าหน้าที่สองรายเข้ามาเชิญตัว ซึ่งหู จิ่นเทาดูเหมือนไม่ยอมลุกจากที่นั่ง แต่เจ้าหน้าที่ได้จับแขนเขาไว้ก่อนที่จะถูกสลัดออก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามพยุงหู จิ่นเทา ให้ลุกขึ้นด้วยการใช้มือทั้งสองข้างสอดใต้ราวแขน

หู จิ่นเทา ได้พูดอะไรสั้นๆ บางอย่างกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่พยักหน้ารับ และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง จากนั้นหู จิ่นเทา ก็ถูกประกบตัวออกไปจากศาลามหาชนประชาชน ในขณะที่หู จิ่นเทา ถูกนำตัวออกไปได้พยายามจะจับตัวประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กำลังนั่งอยู่และจับกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ หู จิ่นเทา ได้ตบไหล่ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เบาๆ ก่อนที่จะจากไป โดยที่ผู้เข้าร่วมประชุมมองตามไป

ภาพที่หู จิ่นเทา ถูกเชิญตัวออกจากเวทีการประชุมได้รับความสนใจจากทั่วโลก และพยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น

สตีเฟน แมคโดเนลล์ ผู้สื่อขาวของบีบีซีในจีน รายงานว่า จนถึงขณะนี้ก็มีคำถามมากมายและยังไม่มีคำตอบจากรัฐบาลจีน

สำนักข่าวซินหัว สื่อของรัฐ รายงานว่า หู จิ่นเทา ไม่ค่อยสบายในระหว่างการประชุม และเจ้าหน้าที่จึงได้ดูแลนำตัวออกจากที่ประชุมเพื่อไปพัก แต่ล่าสุดรายงานว่า หู จิ่นเทา ดีขึ้นมากแล้ว

ที่มาภาพ: https://www.reuters.com/world/china/former-chinese-president-hu-jintao-escorted-out-party-congress-2022-10-22/

สื่อของรัฐ รายงานโดยอ้างหลิว เจียเหวิน ผู้สื่อข่าว ซินหัวเน็ต ระบุว่าหู จิ่นเทา ยืนยันจะเข้าร่วมพิธีปิดการประชุม แม้ว่าได้ใช้เวลาพักฟื้นมาในไม่นานนี้

ซินหัวทวีตข้อความว่า “พอรู้สึกไม่ค่อยสบายในระหว่างการประชุม ทีมงานที่ดูแลสุขภาพของเขา ได้นำตัวออกไปห้องข้างๆ ห้องประชุมเพื่อพักผ่อน และเขาก็ดีขึ้นมากแล้วตอนนี้

การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ส่วนใหญ่เป็นการประชุมปิด แต่การเชิญตัวหู จิ่นเทา ออกไปเกิดขึ้นหลังจากผู้สื่อข่าวได้รับอนุญาตให้เข้าห้องประชุมเพื่อรายงานพิธีปิดการประชุม

ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ มีการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรค 205 คนเป็นคณะกรรมการกลาง และผู้เข้าร่วมประชุมได้ลงมติยอมรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค รับรองอุดมการณ์สี จิ้นผิง เพื่อเป็นแนวทางสำหรับอนาคตของจีน

ปัจจุบันสี จิ้นผิง รวบตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีและประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (Central Military Commission) และยังจัดเป็นผู้นำสูงสุด

  • สี จิ้นผิง คุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทหาร
  • ในวันอาทิตย์ (23 ต.ค.) สี จิ้นผิง คาดว่าจะได้รับการลงมติอย่างเป็นทางการให้เป็นเลขาธิการพรรคสมัยที่สาม และจะเปิดเผยทีมผู้นำชุดใหม่ของเขา

    ในปี 2561 เขาได้ยกเลิกข้อบังคับการกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสองสมัย ปูทางให้อยู่ในอำนาจอย่างไม่มีกำหนด

    ด้านเว็บไซต์ Foreign Policy รายงานเหตุการณ์นี้ในหัวข้อ What the Hell Just Happened to Hu Jintao?

    โดยรายงานว่า การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ของจีนปิดฉากเมื่อวันเสาร์ด้วยภาพสดที่หาดูได้ยากและน่าตกใจ โดยหู จิ่นเทา ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนระหว่างปี 2545-2555 ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวออกจากการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผย และเห็นได้ชัดว่าสับสนและไม่พอใจ ก่อนการลงคะแนนเสียงในวาระสุดท้าย

    หู จิ่นเทา นั่งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นถัดจากผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์คนปัจจุบัน สี จิ้นผิง และเหตุการณ์ดังกล่าวถูกกล้องจับภาพได้ ดูเหมือนว่าเขาจะถามสี จิ้นผิง และหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งคู่พยักหน้า ในขณะที่สี จิ้นผิง ป้องกันไม่ให้เขาหยิบเอกสารโดยวางมือบนเอกสาร หลี่ จ้านซู (ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ) ผู้นำในพรรคที่โดดเด่นอีกคนลุกขึ้นเพื่อช่วยเหลือหู จิ่นเทา ขณะที่ออกไป แต่ถูก หวัง หูหนิง ที่นั่งอยู่ข้างๆ ดึงเสื้อให้กลับลงมานั่งที่

    หู จิ่นเทา ไม่เคยมีอำนาจเท่ากับสี จิ้นผิง ในตอนนี้ ช่วงเวลาที่อยู่ในอำนาจของเขายังอยู่ในยุคที่เรียกว่าผู้นำโดยรวม และเขาต้องต่อสู้กับอิทธิพลที่น่าเกรงขามของ เจียง เจ๋อหมิน ผู้นำคนก่อน

    ในระหว่างการดำรงตำแหน่งของหู จิ่นเทา การคอร์รัปชันเพิ่มขึ้น และที่อันตรายสำหรับพรรคมากกว่า การรายงานข่าวการคอร์รัปชันในที่สาธารณะก็เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเสรีภาพในการพูดทางออนไลน์ และในกลุ่มภาคประชาสังคมและเอ็นจีโอ ในระดับหนึ่ง

    นับตั้งแต่พ้นจากตำแหน่งในฐานะผู้นำพรรคในปี 2555 ซึ่งเป็นช่วงที่หู จิ่นเทา ได้รับการยกย่องจากสื่อของพรรคในการสละอำนาจ ตรงกันข้ามกับสี จิ้นผิง ส่วนใหญ่หู จิ่นเทา จะอยู่นอกวง อดีตพันธมิตรของเขาหลายคนถูกจับกุมในการกวาดล้างของสี จิ้นผิง โดยเฉพาะผู้ช่วยของเขาหลิง จี้ฮวา ในปี 2558 หู จิ่นเทา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอำนาจของอดีตผู้นำเช่นตัวเขาเองจากสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ ที่ดูเหมือนจะถูกกวาดล้างเรียบร้อย

    ที่มาภาพ: https://edition.cnn.com/2022/10/22/china/china-party-congress-close-hu-jintao-intl-hnk/index.html

    Foreign Policy ตั้งคำถามว่าแล้วเกิดอะไรขึ้น

    ชื่อของหู จิ่นเทา ปรากฎขึ้นในฐานะสมาชิกสมัชชา จากรายงานของซินหัว สื่อของรัฐในวันเสาร์ แต่ไม่มีการชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่น่าแปลกใจ การแสดงความเห็นบนระบบออนไลน์มักจะถูกเซ็นเซอร์ Foreign Policy ชี้ว่าการประชุมสมัชาใหญ่เป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ตั้งใจจัดขึ้น ขณะที่การเมืองจริงอาจจะเกิดขึ้นได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าการปลด หู จิ่นเทา โดยไม่มีการประกาศนั้นเป็นข้อผิดพลาดหรือการสมรู้ร่วมคิด

    ความเป็นไปได้อย่างแรกคือ วิกฤติสุขภาพ เห็นชัดเจนว่าหู จิ่นเทา อ่อนแรงในระหว่างการประชุม ผมขาวทั่ทั้งหัว ซึ่งในยุคก่อนนับว่าเป็นสัญญานว่าเขาเลี่ยงจากอำนาจอย่างเต็มที่ เนื่องจากว่าผู้นำจีนมักจะย้อมสีผม แต่ในยุคของสี จิ้นผิง มีสัญญาณยอมปล่อยให้ผมขาว แต่ก็ยากที่จะมองว่าเงื่อนไขอะไรที่อาจทำให้มีทั้งความจำเป็นเร่งด่วนในการนำตัวเขาออกโดยที่กล้องยังหมุนไปมาและดูลังเลใจอย่างมากที่จะออกไป และแม้ในบริบทของพรรคที่มีความลับและความระมัดระวังเป็นบรรทัดฐาน ทำไมคนอื่นถึงไม่ช่วยเหลืออดีตเพื่อนร่วมงานที่อ่อนแอ

    แต่ความเป็นไปได้อีกทางหนึ่งคือ มีการตรวจพบโควิด-19 โดยไม่คาดคิดและเขาก็ไม่รู้ แต่นั่นหมายถึงการตรวจด้วยวิธี PCR มีการประมวลผลในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม และได้ผลบวก ขณะที่การตรวจแบบรวดเร็ว (rapid test) ใช้กับทุกคนที่เข้าใกล้ความเป็นผู้นำ ไม่เจออะไรเลย

    ความเป็นไปได้ประการที่สองคือ จู่ๆ ข้อมูลก็ผุดขึ้นซึ่งทำให้สี จิ้นผิง ซึ่งต้องเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเองจะต้องอนุมัติการดำเนินการดังกล่าว เกรงว่าหู จิ่นเทา อาจงดออกเสียงหรือลงคะแนนเสียงต่อต้านเขาในรอบของการลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ในการปิดการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรค นั่นอาจเป็นคำพูดของหู จิ่นเทา ที่มีต่ออดีตเพื่อนร่วมงานของเขาหลังเวที หรือแม้กระทั่งสัญญาณของภาวะสมองเสื่อมที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีว่า มีบางอย่างผิดปกติ นั่นจะทำให้ความสับสนของหู จิ่เทา เป็นสิ่งที่เข้าใจได้

    แต่ความเป็นไปได้ประการที่สามและกวนใจที่สุด คือ มีการวางแผน และเราเพิ่งได้เห็นสี จิ้นผิง จงใจดูหมิ่นเหยียดหยามผู้นำคนก่อนเขาอย่างจงใจและเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งอาจใช้หู จิ่นเทา เป็นเครื่องมือในการสั่งสอนพรรค ตามด้วยการลงโทษทางศาล นี่อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดา แต่เป็นการตอกย้ำสารถึงอำนาจเด็ดขาดของสี จิ้นผิง ซึ่งเป็นสิ่งที่เสริมความแข็งแกร่งจากส่วนใหญ่ของสมัชชาใหญ่ของพรรค ที่เพิ่งทำให้สี จิ้นผิง เป็น “แกนกลาง” ของพรรคในรัฐธรรมนูญจีน และสถานะที่เป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลาง ในขณะที่ดำรงตำแหน่งสมัยที่สามอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

    สี จิ้นผิง ใช้ภาษาที่รุนแรงในรายงานงานเปิดของเขา เพื่อชี้แจงสถานการณ์ภายในพรรคเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งโดยพูดถึง “ความเป็นผู้นำที่อ่อนแอ, กลวงและจางลง” แม้ว่าจะไม่ได้กล่าวถึงหู จิ่นเทา หรือชื่อคนอื่นๆ ก็ตาม การทำให้หู จิ่นเทา ได้รับความอับอายในลักษณะนี้จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยัง “ผู้อาวุโสที่เกษียณอายุแล้ว” ซึ่งเคยเป็นผู้นำระดับสูงที่ยังคงอยู่มีอำนาจภายในพรรคมานา ที่อำนาจของสี จิ้นผิงเข้าไม่ถึง ถ้าเป็นกรณีนั้น ท่าทางของหลี่ จ้านซู ในการให้ความช่วยเหลือหู จิ่นเทา น่าจะเป็นเรื่องของสัญชาตญาณ แต่อันตราย จากความเมตตาต่ออดีตเพื่อนร่วมงาน