ThaiPublica > Native Ad > จะดีแค่ไหน? ถ้าคุณผลิตและขายไฟฟ้าเองได้ ‘Peer-to-Peer Energy Trading’ แพลตฟอร์มซื้อขายไฟฟ้าแห่งอนาคต

จะดีแค่ไหน? ถ้าคุณผลิตและขายไฟฟ้าเองได้ ‘Peer-to-Peer Energy Trading’ แพลตฟอร์มซื้อขายไฟฟ้าแห่งอนาคต

23 กันยายน 2022


จะดีแค่ไหน? ถ้าคุณผลิตและขายไฟฟ้าเองได้ “Peer-to-Peer Energy Trading” แพลตฟอร์มซื้อขายพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต

ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมในปัจจุบันที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นทำให้เกิดการบัญญัติคำว่า “Prosumer” ขึ้น ซึ่งมาจากคำว่า Consumer ที่แปลว่าผู้บริโภครวมกับคำว่า Producer ที่แปลว่าผู้ผลิต Prosumer คือการที่ผู้บริโภคผันตัวเองจากการเป็นเพียงคนที่จ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการอยู่ฝ่ายเดียวมาเป็นทั้งผู้ที่ซื้อและผลิตสินค้าหรือบริการนั้น ๆ เช่นเดียวกันในอุตสาหกรรมพลังงานเองก็มีเทคโนโลยีล้ำ ๆ

ที่ส่งเสริมให้ Prosumer สามารถซื้อขายไฟฟ้าได้เองง่าย ๆ ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรือ กฟผ. ที่ชื่อว่า “Peer-to-Peer Energy Trading”

ทดสอบการซื้อขายจริงผ่าน 3 โครงการนำร่อง

สำหรับแพลตฟอร์ม ของ กฟผ. เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Prosumer หรือผู้ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด นำไฟฟ้าส่วนที่เกินจากความต้องการใช้งานมาเสนอซื้อ-ขายระหว่างกันได้โดยตรง (Peer-to-Peer) ซึ่งผ่านการทดลองใช้งานจริงแล้วในโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน ระยะที่ 1 (ERC Sandbox ระยะที่ 1) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยรองรับการตกลงซื้อขายพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบสัญญาทวิภาคี (Bilateral Trading) ระหว่างผู้ผลิตและผู้ซื้อไฟฟ้า ซึ่งแพลตฟอร์ม Peer-to-Peer Energy Trading ได้ทดสอบในสภาพแวดล้อมการใช้งานจริงจากผู้เข้าร่วมทดสอบใน 3 โครงการ ได้แก่ “โครงการ TU EGAT Energy” นำร่องทดสอบซื้อขายไฟฟ้าระหว่างอาคารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

โครงการ TU EGAT Energy มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

“โครงการศรีแสงธรรมโมเดล” ซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง 4 พื้นที่ของบ้านดงดิบ จ.อุบลราชธานี โรงเรียนศรีแสงธรรม วัดป่าศรีแสงธรรม โรงเรียนบ้านดงดิบ และศูนย์เด็กเล็กบ้านดงดิบ

โครงการศรีแสงธรรมโมเดล จ.อุบลราชธานี

“โครงการ ENGY Energy is Yours” ซึ่ง กฟผ. ร่วมกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ดำเนินการศึกษาทดสอบในพื้นที่นำร่องแล้ว 3 แห่ง คือ โครงการเวนิวโฟลว์ (Venue Flow) แจ้งวัฒนะ โครงการเพอเฟคพาร์ค (Perfect Park) และโครงการคาซ่า พรีเมี่ยม (Casa Premium) ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ

โครงการเวนิวโฟลว์ แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี

ทั้ง 3 โครงการมีการทดลองซื้อขายไฟระหว่างกันในพื้นที่ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบติดตามค่าการผลิตและใช้พลังงานไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน รวมทั้งดูประวัติย้อนหลังได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถบริหารจัดการการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการประหยัดพลังงานได้อย่างดีอีกด้วย

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเตรียมการออกแบบ กำหนดกฎกติกา มาตรการส่งเสริม หรือมาตรการป้องกันที่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อระบบไฟฟ้าอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้บริโภค รวมถึงระบบกิจการพลังงานโดยรวมของประเทศที่จะนำไปสู่การผลักดันให้เกิดรูปแบบธุรกิจด้านพลังงานใหม่ ๆ ต่อไปในอนาคต

ขยายการทดสอบ สร้างความมั่นใจในการซื้อขายจริง

กฟผ. เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มให้สามารถใช้งานได้ง่ายและเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น พร้อมเตรียมขยายผลสู่การใช้งานในเชิงพาณิชย์ ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ไฟฟ้าในยุคดิจิทัล โดย “Peer-to-Peer Energy Trading” ของ กฟผ. ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน ระยะที่ 2 (ERC Sandbox ระยะที่ 2) ซึ่งจะพัฒนาต่อยอดการดำเนินการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าจริงในพื้นที่โครงการนำร่องทั้ง 3 โครงการของ ERC Sandbox ระยะที่ 1 และ กฟผ. ได้เร่งมองหาพื้นที่ในการทดสอบใหม่ ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ Prosumer ที่ต้องการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด

นอกจากนี้ กฟผ. ได้จับมือกับ 4 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด นำแพลตฟอร์ม “Peer-to-Peer Energy Trading” มาเป็นศูนย์กลางซื้อขายแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าโดยตรงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ติดตั้ง Solar Rooftop ในโครงการ SolarPlus นำร่องที่หมู่บ้านศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2 จ.ปทุมธานี เพื่อใช้ในการบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสีเขียว มุ่งหวังเป็นต้นแบบของโครงการซื้อขายพลังงานแบบ Peer-to-Peer Energy Trading ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

โครงการ Solar Plus หมู่บ้านศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2 จ.ปทุมธานี

ความสำเร็จและความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า กฟผ. มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์เทรนด์การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การซื้อขายพลังงานไฟฟ้าระหว่างกันสามารถทำได้โดยสะดวกมากขึ้น พร้อมเดินหน้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ของ กฟผ. (EGAT Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศ (Net Zero Emissions) ในปี ค.ศ. 2065 ตลอดจนเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงาน Smart Energy Solutions แบบครบวงจรในอนาคตอย่างยั่งยืน