ข่าวประชาสัมพันธ์
![](https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2022/04/บสย.-620x413.jpeg)
บสย. เผยผลดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อไตรมาส 1/2565 บรรลุเป้า อนุมัติค้ำ 48,149 ล้านบาท ภาคเกษตรมาแรง ยอดค้ำพุ่งขยายตัวกว่า 30% พร้อมร่วมขับเคลื่อนมาตรการการเงินหนุนกลุ่มธุรกิจสีเขียว BCG ภาคส่งออก ซัพพลายเชน และกลุ่มรายย่อย มั่นใจกลไกค้ำประกันสินเชื่อหนุนธุรกิจสู่ความยั่งยืน
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผย ผลดำเนินงาน บสย. ไตรมาส 1/2565 (1 ม.ค. – 31 มี.ค.) บรรลุเป้าหมายช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ได้กว่า 40,593 ราย อนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 48,149 ล้านบาท อนุมัติหนังสือค้ำประกัน จำนวน 41,223 ฉบับ โดยโครงการค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด 3 ลำดับ ได้แก่
-
1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อตาม พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟูระยะที่ 2 สัดส่วน 44%
2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. สร้างชาติ หรือ PGS 9 ดีแน่นอน สัดส่วน 40%
3.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ ไมโคร 4 รายเล็กเสริมทุน สัดส่วน 4%
บสย. มีสัดส่วนให้การค้ำประกันสินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 73% และสถาบันการเงินของรัฐอยู่ที่ 27% โดยประเภทธุรกิจที่ บสย. ค้ำประกันสูงสุด 5 ลำดับแรก คือ
-
1.ธุรกิจบริการ อาทิ รับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร 13,000 ล้านบาท (28%)
2.ธุรกิจการเกษตร อาทิ เกษตร ปศุสัตว์และประมง 5,500 ล้านบาท (11%)
3.ธุรกิจการผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ 5,300 ล้านบาท (11%)
4.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 4,400 ล้านบาท (9%)
5.ธุรกิจเหล็ก ผลิตภัณฑ์โลหะ และเครื่องจักร 3,000 ล้านบาท (6%)
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่มีความโดดเด่นด้านยอดค้ำประกันสินเชื่อ ในไตรมาส 1 คือ กลุ่มธุรกิจการเกษตร ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ ผักผลไม้ ยางพารา ข้าว มันสำปะหลังและอ้อย ซึ่งมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญขยายตัวถึง 30% เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2564 ก้าวจากลำดับ 3 ในปี 2564 มาเป็นลำดับ 2 ในปี 2565
นอกจากนี้ บสย. ยังได้ร่วมโครงการต่างๆ กับธนาคารและองค์กรพันธมิตร เพื่อร่วมกันสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านมาตรการทางการเงิน ช่วยการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ดังนี้
1.โครงการความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG (BIO-Economy เศรษฐกิจชีวภาพ Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน และ Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว) ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และธนาคารพันธมิตร เพื่อส่งเสริมสนับสนุนมาตรการทางการเงิน เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับธนาคารพันธมิตร สนับสนุนการดำเนินธุรกิจกลุ่มซัพพลายเชน ผู้ส่งออก
2.โครงการจับคู่ความร่วมมือสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จับคู่ กู้พร้อมค้ำ ในโครงการ “สินเชื่อ SMEs Re-start” เติมทุนเสริมสภาพคล่อง ธุรกิจท่องเที่ยว และ Supply Chain
3.โครงการความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อกลุ่มธุรกิจส่งออก ซัพพลายเชน โลจิสติกส์ และความร่วมมือค้ำประกันสินเชื่อแบบบุคคล เป็นต้น
สำหรับแผนดำเนินงานไตรมาส 2 บสย. พร้อมขับเคลื่อน กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ เติมทุนเสริมสภาพคล่อง ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อต่างๆ รองรับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม รวมวงเงิน 100,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
-
1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Soft Loan Extra วงเงิน 90,000 ล้านบาท สำหรับลูกหนี้เดิมตาม พ.ร.ก. Soft Loan
2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อเติมเต็มรายย่อย วงเงิน 8,000 ล้านบาท
3.โครงการค้ำประกันสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ วงเงิน 1,000 ล้านบาท
4.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Supply Chain Finance วงเงิน 1,000 ล้านบาท
โดยในไตรมาส 2 บสย. ได้เตรียมโครงการความร่วมมือกับธนาคารต่างๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ ในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการขับเคลื่อนและเปิดตัวโครงการ Digital Transform ก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างเต็มตัว ด้วยบริการค้ำประกันสินเชื่อรูปแบบใหม่ ที่จะเชื่อมโยงและเข้าถึงผู้ประกอบการ SMEs มากขึ้น