ThaiPublica > Native Ad > “LearnDi” แพลตฟอร์ม EdTech เครื่องมือ HR ยกระดับองค์กร-สังคมยั่งยืน ด้วยทักษะแห่งอนาคต

“LearnDi” แพลตฟอร์ม EdTech เครื่องมือ HR ยกระดับองค์กร-สังคมยั่งยืน ด้วยทักษะแห่งอนาคต

5 พฤษภาคม 2021


นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ กลุ่มอินทัช,กรรมการ บริษัท เลิร์นดิ จำกัด

รู้จัก “LearnDi” แพลตฟอร์ม EdTech โดย AIS Academy เครื่องมือ HR ยกระดับองค์กร-สังคมไทย เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยทักษะแห่งอนาคต รับมือยุคหลังโควิด-19

หลังจากความสำเร็จของ AIS Academy ที่มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพ พนักงานภายในองค์กร และขยายผลมาสู่คนไทยในยุค Digital Disruption ทั้งในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อการแก้ปัญหาสังคม ด้านการสร้างอาชีพ ตลอดจนด้านการศึกษา ทำให้เอไอเอสเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้าง ‘การเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด’

เนื่องด้วยยุคโควิด-19 ที่ปลุกกระแสดิจิทัลดิสรัปชั่นให้เกิดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ EdTech (Education + Technology) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ AIS Academy มุ่งหวังให้เป็นบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรกว่า 13,000 คน และต่อมาแนวคิดนี้ได้ต่อยอดเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะพลิกโฉมวงการ Edtech และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ในขณะเดียวกันปลายเดือนมีนาคม 2564 เอไอเอสจึงได้สร้างพันธกิจใหม่ ที่เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์การเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลเทคโนโลยี นั่นคือการก่อตั้ง “บริษัท เลิร์นดิ จำกัด” หรือ LearnDi by AIS Academy มีเป้าหมายสู่การเป็น Hub ด้านองค์ความรู้ ให้กับองค์กรต่างๆ ในรูปแบบ EdTech เพื่อยกระดับศักยภาพของบุคลากร องค์กร สังคม และประเทศชาติ

บริษัท เลิร์นดิ จำกัด (LearnDi) จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS อีกทั้งยังมีพันธมิตรชั้นนำในวงการ EdTech ที่ทำงานร่วมกัน

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ กลุ่มอินทัช, กรรมการ บริษัท เลิร์นดิ จำกัด กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาสังคมไทยต้องการหาความรู้และทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่การเข้าถึงหลักสูตร หรือคอนเทนต์ที่ดียังมีข้อจำกัด ทำให้เอไอเอสและพันธมิตรลุกขึ้นมามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศผ่านการสร้างองค์ความรู้ให้เท่าทัน ดึงศักยภาพ จุดแข็งและประสบการณ์ที่มีขับเคลื่อนผ่านบริษัท เลิร์นดิ จำกัด พร้อมกับพันธมิตรในวงการ EdTech ร่วมสร้างมิติใหม่ในการพัฒนาบุคลากรติดอาวุธทางปัญญาพร้อมนำศักยภาพความแข็งแกร่งสู่ผู้ประกอบการไทย

“เอไอเอสยังเล็งเห็นว่า การส่งมอบความรู้และทักษะต่างๆ จะต้องขยับไปถึงระดับ ‘องค์กร’ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้บริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่หยุดยั้ง การเสริมสร้างศักยภาพ ‘บุคลากร’ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จขององค์กร เพราะเมื่อบริบทของการศึกษาเปลี่ยนไป องค์กรต้องมีความพร้อมในการมีส่วนร่วมในการสร้างองค์ความรู้อย่างหลากหลาย เพื่อเสริมศักยภาพขององค์กรไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง” นางสาวกานติมากล่าว

การเข้ามาของ LearnDi นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในองค์กร เพราะเป็นการใช้เทคโนโลยี EdTech เข้ามาตอบโจทย์การเรียนรู้ให้กับพนักงานให้ปรับตัวทันกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่

นางสาวกานติมากล่าวต่อว่า การเปิดตัว “LearnDi” นับว่าเป็นการขยับตัวครั้งสำคัญของเอไอเอสในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม และผู้ให้บริการดิจิทัลอันดับ 1 ของไทย ผ่านศักยภาพของ AIS Academy และพันธมิตร สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรม “EdTech” ให้คนไทยได้มีทางเลือกใช้เครื่องมือในการพัฒนาตนเอง

“ยิ่งโลกยุค Digital Disruption ประกอบกับโควิด-19 ที่พลิกโฉมการทำงานแทบทุกมิติ ยิ่งทำให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องพัฒนาทักษะให้กับพนักงานภายในองค์กรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น LearnDi ได้เข้ามาเติมเต็มในจุดนี้”

กลุ่มเป้าหมายของ LearnDi คือธุรกิจองค์กรและผู้ประกอบการ SMEs รวมไปถึงฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพื่อที่ต้องการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านขององค์กร (Organization Transformation) โดยค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 2,000 – 3,000 บาทต่อคนต่อปี และเมื่อเรียนจบครบหลักสูตรก็จะได้รับ E-Certificate ที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการเรียนรู้รูปแบบใหม่

“LearnDi by AIS Academy เกิดจากการพัฒนาภายในองค์กรในการทำ Transformation ทำให้เรารู้ว่าพนักงานต้องการอะไร ผู้ประกอบการและองค์กรต้องการอะไร โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรในวงการ ยึดหลักการเติบโตร่วมกันใช้จุดแข็งของแต่ละพันธมิตรทำให้ LearnDi เป็นเสมือนกับ Hub ด้านองค์ความรู้และทักษะใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Soft skill และ Hard skill ช่วยพัฒนาบุคลากรตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อการกำหนดเส้นทางความสำเร็จของตนเองผ่านการทำ Self-Development ขององค์กร เปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม มีความสอดคล้องเหมาะสมกับพนักงานในทุกระดับ” นางสาวกานติมากล่าว

ภายใน LearnDi ได้รวบรวมทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 เป็นองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงานและเหมาะกับการเรียนรู้ในยุค Digital Disruption เนื่องจากมีการผสมผสานความรู้หลากหลายแขนงเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยี การใช้เครื่องมือต่างๆ ที่องค์กรสามารถเลือกให้สอดคล้องกับสายงานของพนักงาน ยิ่งกว่านั้นยังเป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันด้วย

LearnDi มีมากกว่า 250 หลักสูตร แบ่งเป็น 10 หมวดหลัก ดังนี้

  • Information Technology หมวดรู้ทันเทคโนโลยี เช่น 5G, AI, AR พร้อมทั้งการรับมือกับภัยไซเบอร์ (Cyber Security)
  • Entrepreneur หมวดสร้างความพร้อมในการทำธุรกิจและเคล็ดลับที่หลากหลายในแง่มุมต่างๆ เช่น ด้านการตลาด การขาย การดูแลพนักงาน หรือแนวทางต่างๆ ในแง่มุมการทำธุรกิจที่ง่ายต่อความเข้าใจ เหมาะกับการบริหารจัดการกิจการภายใน
  • Communication หมวดการสื่อสาร ทั้งเครื่องมือ เทคนิค และวิธีการต่างๆ สำหรับการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง
  • Language หมวดการเรียนรู้ภาษา ตั้งแต่การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน จนถึงการนำภาษาไปใช้ในการเจรจาสื่อสารในการทำงาน หรือเทคนิคต่างๆ
  • General หมวดการพัฒนาตนเอง ทั้งด้านทักษะและจิตใจ
  • Health care and Wellness หมวดการดูแลสุขภาพ
  • Financial หมวดการเงิน ครอบคลุมทั้งการเงินส่วนบุคคลและการเงินเพื่อธุรกิจ
  • Marketing หมวดการตลาด กลยุทธ์ทางการตลาด จนถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน
  • Management หมวดทำงานดีมีประสิทธิภาพ เกี่ยวข้องกับธุรกิจและการจัดการทั้งหมด ทั้งในระดับการจัดการบุคคล การจัดการองค์กร และการวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ ในองค์กร
  • Lifestyle เช่น การดำเนินชีวิต อาชีพ งานอดิเรก เป็นต้น

โดยผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลได้ที่ https://www.aisacademy.com

ส่วนพันธมิตรทางธุรกิจ เลิร์นดิได้รวบรวมคนในแวดวง EdTech ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาระบบและแพลตฟอร์ม พันธมิตรด้านเนื้อหา และพันธมิตรด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร ได้แก่ Invent, SEAC, Humanica, Conicle, NEO Academy by CMMU, Beyond Training, Doctor A to Z

อีกทั้งยังทำงานร่วมกับคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพัฒนาแบบวัดศักยภาพส่วนบุคคลสำหรับคนไทย (Self-Competency Assessment) รวมถึงแบบทดสอบวัดศักยภาพส่วนบุคคลด้านดิจิทัล (Self-Digital Competency Assessment) เพื่อทำให้ผู้เรียนเข้าใจศักยภาพตัวเองก่อนการนำเสนอหลักสูตรที่เหมาะสม

นางสาวกานติมา กล่าวต่อว่า “พันธมิตรทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันที่จะใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อช่วยกันพัฒนา ‘EdTech Ecosystem’ ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อเสมอว่าการเติบโตแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่การเติบโตอย่างแท้จริงและยั่งยืน การให้พันธมิตรทุกส่วนเติบโตไปด้วยกัน พร้อมๆ กัน เป็นจุดแข็งที่จะทำให้เกิด Ecosystem ที่แท้จริง และจะช่วยทำให้สังคมเข้มแข็งและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

LearnDi นับเป็นก้าวสำคัญของวงการการศึกษาและการเรียนรู้ที่จะยกระดับอุตสาหกรรม EdTech ให้ก้าวไปอีกขั้นด้วยพลังของการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำ ขณะเดียวกันยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กรและพนักงานจากการเรียนรู้องค์ความรู้ด้านต่างๆ ทำให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปพร้อมกัน

นี่เป็นแพลตฟอร์มที่วงการ HR จำเป็นต้องมีติดองค์กร เพื่อเป็นเครื่องมือยกระดับพนักงานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และนำความรู้ ทักษะ และศักยภาพใหม่ๆ ที่ได้รับจาก LearnDi มาใช้ขับเคลื่อนองค์กร สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่มุ่งหวังจะเป็น EdTech ชั้นนำของไทยที่จะพาองค์กรต่างๆ ที่แม้ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือต่างอุตสาหกรรมก็สามารถเติบโตไปพร้อมกัน

ทั้งหมดนี้เป็นการยกระดับองค์กรผ่านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สังคมไทยเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนก็คือ ‘ความรู้’ และ ‘ทักษะ’ ซึ่ง LearnDi จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับ HR ในการติดอาวุธให้พนักงานและองค์กร ในโลกยุค Digital Disruption

ป้ายคำ :