“อนุทิน” เตรียมแผนฉีด “ซิโนแวค” ลอตแรก 2 แสนโดส 18 จังหวัด เริ่มมี.ค.นี้

• Facebook
• Twitter
• Line

วัคซีน “ซิโนแวค” ลอตแรก 2 แสนโดสถึงไทยแล้ว “อนุทิน” เตรียมแผนฉีด 18 จังหวัด เริ่ม มี.ค.-พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.17 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นประธานในงาน “วัคซีนโควิด-19 คืนรอยยิ้ม ประเทศไทย” โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง , นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และนายหยาง ซิน (Mr. Yang Xin) อุปทูตรักษาราชการ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าร่วมในพิธีรับมอบวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ลอตแรก จำนวน 200,000 โดส จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ได้รับวัคซีนลอตแรก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้บริหารจัดการวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง แต่รัฐบาลก็พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะจัดหาวัคซีนมาให้ได้ตามกำหนดเวลา แม้ว่าในขณะนี้วัคซีนโควิด-19 กำลังเป็นที่ต้องการของคนทั้งโลก และหลายประเทศ การจัดหาวัคซีนจึงมีปัญหาอยู่บ้าง วันนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีที่ปประเทศไทยได้วัคซีน ลอตแรก ส่วนวัคซีนในลอตต่อไปนั้น ผมก็ได้รับคำยืนยันจากท่านอุปทูตจีน และกระทรวงสาธารณสุขว่าจะส่งวัคซีนลอตต่อไปตามกำหนดระยะเวลา

“วัคซีนที่จะนำเข้ามาไม่ว่าจะลอตไหนก็ตาม เป็นวัคซีนของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเราก็ต้องพยายามจัดหาลอตต่อไปมาให้ได้ เพราะขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนของเรายังมีข้อจำกัดอยู่ จึงต้องจัดหาเพิ่มเติมให้เพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนในประเทศของเราได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการวัคซีนลอตแรกที่เข้ามาในวันนี้ คงต้องใช้เวลาเตรียมการสำหรับการฉีดอีกสักระยะหนึ่ง ส่วนใครจะได้ฉีดก่อน ฉีดหลัง เป็นเรื่องที่คณะกรรมการ ฯ ต้องพิจารณา และต้องผ่านความเห็นชอบจาก ศบค.ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เราจะต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง , กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง และการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในระยะที่ 2 เป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ยืนยันว่า วัคซีนที่นำเข้ามาได้ผ่านการทดสอบคุณภาพมาเรียบร้อยแล้ว

“ผมไม่อยากสังคมมีความขัดแย้งกันอีกในเรื่องของวัคซีน เราต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันในการแก้ไขปัญหาประเทศ ผมขอขอบคุณอุปทูตฯ และนายกรัฐมนตรีของสาธารรัฐประชาชนจีน ที่ช่วยดูแลการจัดหาวัคซีนให้กับประเทศไทย ตามที่รัฐบาลได้ประสานงานไป”นายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้านนายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่าวันนี้ ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมในงาน “วัคซีนโควิด-19 คืนรอยยิ้ม ประเทศไทย” เป็นวันที่วัคซีนโควิดฯ ลอตแรก จำนวน 2 แสนโดสส่งมาถึงประเทศไทย ส่วนลอตที่ 2 และลอตที่ 3 ก็จะทยอยจัดส่งมาให้ วันนี้ประเทศจีนก็ถือเป็นรายแรกที่จัดส่งวัคซีนโควิดฯ มาช่วยประเทศไทย และประเทศไทยก็ถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้รับวัคซีนจากประเทศจีนผ่านช่องทางพาณิชย์ เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนทั่วไป สะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายจีนได้ปฏิบัติอย่างจริงจัง ตามคำมั่นสัญญาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของประเทศจีนที่เคยกล่าวไว้ว่า “วัคซีนจีนต้องเป็นสินค้าสาธารณะของคนทั่วโลก”

“การที่ประเทศจีนส่งวัคซีนมาช่วยไทยวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันแนบแน่นระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยมายาวนาน ผมขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบุคลากรของทั้ง 2 ประเทศทุกคนที่ช่วยกัน เร่งการผลิตวัคซีนส่งมอบให้กับประเทศไทยทันตามกำหนดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไวรัส โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลก ซึ่งทุกประเทศยังมีภาระหน้าที่ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ฯ รวมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผมเชื่อมั่นว่าวัคซีนของประเทศจีนจะมีส่วนช่วยให้ประชาชนคนไทย รับมือการแพร่ระบาดของโควิดฯได้ และรัฐบาลจีนยินดีที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพื่อที่จะเอาชนะโควิด ฯและฟื้นฟูเศรษฐกิจ พยายามจะทำให้รอยยิ้มกลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว” นายหยาง กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราจะต้องช่วยกันสร้างรอยยิ้มให้กับประเทศไทย และรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งในอาเซียน ดังนั้น เราก็จำเป็นจะต้องดูแลประเทศอื่นไปด้วย ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราต้องการให้ประเทศของเราปลอดภัย อาเซียนปลอดภัย และทุกภูมิภาคในโลกปลอดภัย ขอย้ำว่า แม้วัคซีนจะเข้ามาแล้ว แต่ก็อย่าลืมสวมหน้าหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ทุกคนยังคงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดจนกว่าไวรัส โควิด -19 จะหายไปจากโลกนี้ หรือ สามารถควบคุมได้

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจัดหาวัคซีน โควิด -19 ลอตนี้ รัฐบาลได้มอบองค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนเร่งด่วนจำนวน 2 ล้านโดส เพื่อรองรับการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ระลอกใหม่ เพิ่มเติมจากแผนเดิมที่มอบหมายให้กรมควบคุมโรคสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัท Astra Zeneca จำนวน 61 ล้านโดส จากนั้นทางองค์การเภสัชกรรมจึงเจรจากับบริษัท ซิโนแวค ฯภายใต้การประสานงานของสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยจนได้ข้อยุติว่าทางบริษัท ซิโนแวค ฯสามารถจัดส่งวัคซีน ลอตแรก จำนวน 2 แสนโดส ให้กับองค์การเภสัชกรรมภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 , ลอตที่ 2 จำนวน 8 แสนโดส ภายในเดือนมีนาคม 2564 และ ลอตที่ 3 จำนวน 1 ล้านโดส ภายในเดือนเมษายน 2564 รวมทั้งสิ้น 2 ล้านโดส โดยนำไปฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย คนละ 2 โดส ห่างกัน 21 วัน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการฉีดวัดชีน โควิด -19 ระยะแรกจำนวน 2 ล้านโดสจะเริ่มในเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2564 นั้น โดยจะฉีดเริ่มฉีดให้กับให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด , พื้นที่ควบคุมสูงสุด, พื้นที่ควบคุม และพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมใน 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร , กรุงเทพมหานคร (ฝั่งตะวันตก) , ปทุมธานี , นนทบุรี , สมุทรปราการ , ตาก (อ.แม่สอด) , นครปฐม, สมุทรสงคราม , ราชบุรี , ชลบุรี , ภูเก็ต , สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) , เชียงใหม่ , กระบี่ , ระยอง , จันทบุรี , ตราด และเพชรบุรี โดยฉีดให้กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า อสม. , บุคลากรด่านหน้า , เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย , ประชาชนทั่วไป และแรงงานที่มีอายุ 18-59 ปี เน้นผู้มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง , โรคหัวใจและหลอดเลือด , โรคไตเรื้อรัง , โรคหลอดเลือดสมอง , มะเร็ง , เบาหวาน และโรคอ้วน โดยให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและคัดเลือกจากฐานข้อมูลการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสรารณสุข และประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า วัคซีนลอตแรกนี้ ผลิตโดยบริษัท ซิโนแวค ฯ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาและชีวเภสัชภัณฑ์สัญชาติจีน เชี่ยวชาญการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายวัคซีนป้องกันโรคระบาด ที่ผ่านมาบริษัท ซิโนแวค เคยผลิตวัคซีนมาแล้วหลายตัว เช่น วัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอ , วัดชีนไวรัสตับอักเสบ บี , วัคซีนไข้หวัดใหญ่ , วัคชีนป้องกันโรคมือเท้าปาก สำหรับวัคซีน โควิด-19 ของบริษัท ซิโนแวค ฯ เป็นวัคชีนเชื้อตายที่มีชื่อว่า “โคโรนาแวด” (Corona Vac) วัคซีนตัวนี้ทำงานโดยการเหนี่ยวนำระบบภูมิคุ้มกันร่างกายมนุษย์ให้สร้างแอนติบอดีต้านโควิด 19 โดยแอนติบอดีจะยึดติดกับโปรตีนบางส่วนของไวรัสไม่ให้เข้าสู่เชลล์ร่างกาย วัดชีนชื้อตายเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันโรค และสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8 องศเซลเซียสได้ วัคซีนดังกล่าวได้มีการศึกษาในคนระยะที่ 1, 2 และ 3 ในประเทศบราชิล , ตุรกี , อินโดนีเซีย และ ชิลีแล้ว มีการรายงานผลว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโควิด-19 ทำให้ในปัจจุบันวัคซีนชนิดนี้ได้รับการรับรองให้ใช้ในประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่วต่อว่า ในการฉีดวัดชีนโควิด-19 หรือ “Corona Vac” คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้มีข้อแนะนำว่า กระทรวงสาธารณสุขควรกำหนดให้ฉีดในประชาชนอายุ 18-59 ปี จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 2-4 สัปดาห์ และมีการติดตามเฝ้าระวังอาการภายหลังได้รับวัคชีนแต่ละเข็มเป็นระยะเวลา 30 วันหลังฉีด โดยในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงแนะนำให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์ ห้ามฉีดให้กับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่อยู่ในภาวะควบคุมไม่ได้ ผู้ที่มีภาวะทางระบบประสาทอย่างรุนแรง หญิงตั้งครรภ์ และควรระวังการฉีดในกลุ่มหญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง นอกจากนี้ สามารถให้วัดชีน โควิด- 19 ร่วมกับวัคซีนป้องกันโรคชนิดอื่นได้ โดยเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 14 วัน แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิดกัน ดังนั้น การฉีดวัดชีนทั้งสองเข็มควรเป็นวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน

ด้านนายจอห์น แคลร์ รองประธานฝ่ายบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ประเทศไทยและอินโดจีน (เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว) บริษัท ดีเคเอสเอช กล่าวว่า บริษัทดีเคเอสเอช หรือที่เคยเป็นที่รู้จักในนาม “ดีทแฮล์ม” มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในด้านการจัดเก็บ จัดบรรจุ และการขนส่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ได้คุณภาพ โดย ดีเคเอสเอช รักษามาตรฐานสูงสุดตลอดการขนส่ง และมีประสบการณ์ด้านการกระจายวัคซีนให้แก่คนไทยอย่างต่อเนื่องภายใต้ความร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรมในหลายๆ โครงการมากว่า 10 ปี ดีเคเอสเอช พร้อมที่จะสนับสนุนการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด 19 จำนวน 2 ล้านโดสนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

โดยวัคซีนจะขนส่งในบรรจุภัณฑ์พิเศษ “Brilliant Box” ที่ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการควบคุมอุณหภูมิของสินค้าในกล่อง เหมาะอย่างยิ่งกับการบรรจุและขนส่งยาเย็น เช่น วัคซีนโควิด 19 ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิไว้ไม่เกิน 2 – 8 องศาเซลเซียส ตลอดการขนส่งเพื่อรักษาคุณภาพ และบรรจุภัณฑ์ Brilliant Box ยังมีน้ำหนักเบา ทนทาน สามารถนำมาใช้ซ้ำได้เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ รถขนส่งปรับอากาศของบริษัทฯ ยังมีระบบเก็บความเย็นเพื่อควบคุมอุณหภูมิในรถที่เหมาะกับการขนส่งยาเย็นโดยเฉพาะ และมีการติดตั้ง Data Logger ที่สามารถตรวจวัดอุณหภูมิภายในรถได้ตลอดการขนส่ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานวิธีการที่ดีในการกระจายยา และมาตรฐานสูงสุดด้านการกำกับดูแลและการประกันคุณภาพ

สำหรับบรรยากาศในงาน “วัคซีน โควิด-19 คืนรอยยิ้ม ประเทศไทย” มีสื่อมวลชนประมาณ 300 คน ทยอยเดินทางมาลงทะเบียน และทำบัตรบริเวณโถงชั้น 1 อาคารสำนักงานเขตปลอดอากร (BFZ Building) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ก่อน 7 โมงเช้า เพื่อนั่งรถตู้ต่อไปยังที่จอดเครื่องบินที่อยู่บริเวณด้านของอาคารคลังสินค้าฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม