การขยายการเติบโตไปยังต่างประเทศ เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักในแผนธุรกิจที่ “โออาร์” บริษัทเรือธงของกลุ่ม ปตท. ในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีก ตั้งเป้าจะไปให้ถึง โดยใช้การต่อยอดความสำเร็จจากรูปแบบทางธุรกิจ (Business Model) ของ โออาร์ ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศไทย ภายใต้โมเดลธุรกิจที่เกิดจากการผสมผสานธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีกและบริการอื่น ๆ และธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างลงตัว ทำให้วันนี้ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station กลายเป็นที่ 1 ในธุรกิจน้ำมันที่มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันมากที่สุดกว่า 2,200 แห่ง ขณะที่ในฝั่งธุรกิจค้าปลีก โออาร์ มีแบรนด์กาแฟไทย Café Amazon ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันและมีจำนวนสาขามากกว่า 3,200 แห่ง
โมเดลความสำเร็จดังกล่าวยังได้รับการพิสูจน์แล้วจากการเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ปัจจุบัน โออาร์ มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในต่างประเทศ รวมแล้วกว่า 300 สาขา ร้านกาแฟ Café Amazon รวมกว่า 230 สาขา ร้านค้าสะดวกซื้อ Jiffy กว่า 80 สาขา ร้านชานมไข่มุก Pearly Tea จำนวน 1 สาขา และศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto จำนวน 4 สาขา ที่ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทเครือ โออาร์ ในต่างประเทศ 10 บริษัท ใน 7 ประเทศ โดยการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของ โออาร์ มีทั้งในรูปแบบที่ โออาร์ ดำเนินการเองและดำเนินการผ่านบริษัทในเครือ ซึ่งมีทั้ง บริษัทในเครือที่ โออาร์ เป็นผู้ลงทุนทั้งหมด และเป็นการร่วมลงทุนกับ คู่ค้า นักลงทุนที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ โออาร์ ยังคงมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั่งในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และนำแบรนด์ไทยไปสู่สากล
ย้อนดูความสำเร็จของ “โออาร์” ความภาคภูมิใจของคนไทยในอาเซียน
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ที่บริษัทบุกตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรก ปัจจุบัน “โออาร์” กลายเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจน้ำมันอย่างครบวงจรภายใต้กลุ่ม PTT Philippines ในประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่การนำเข้า จัดเก็บน้ำมัน ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ธุรกิจน้ำมันอากาศยาน ธุรกิจค้าตลาดอุตสาหกรรม ธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น และมีคลังน้ำมัน จำนวน 3 แห่ง ส่วนธุรกิจค้าปลีกยังมีร้านกาแฟ Café Amazon อีกด้วย
รวมไปถึงบริษัทที่มียอดขายแบรนด์ Café Amazon สูงสุดในตลาดต่างประเทศของ โออาร์ อย่าง PTT Cambodia Limited (PTTCL) ในประเทศกัมพูชา ที่หลังจากเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2543 ดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีก ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station การจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ Café Amazon ปัจจุบัน PTTCL ได้สิทธิ์เป็น Master Franchise ของแบรนด์ Café Amazon นอกจากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อ Jiffy ศูนย์บริการ ยานยนต์ FIT Auto ในกัมพูชา เพื่อให้นักลงทุนที่มีศักยภาพร่วมลงทุน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการตอบรับของชาวกัมพูชา สร้างยอดขายสูงที่สุดจากทุกประเทศ และยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หรือในประเทศลาว ที่เข้าไปลงทุนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ภายใต้ชื่อ บริษัท PTT (LAO) Company Limited (PTTLAO) ที่ดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกครบวงจร ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station น้ำมันภาคอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricants ร้านกาแฟ Café Amazon ร้านสะดวกซื้อ JIFFY ศูนย์บริการยานยนต์ FIT AUTO ร้านชานมไข่มุก Pearly Tea และธุรกิจร้านอาหารที่ร่วมมือกับ SMEs ท้องถิ่นคือ ร้านข้าวเปียกปูปากเซ นอกจากนี้ยังดำเนินการบริการคลังน้ำมัน สปป.ลาว จำนวน 7 แห่ง
การขยายตลาดต่างประเทศ การต่อยอดความสำเร็จของรูปแบบทางธุรกิจ (Business Model) ในต่างประเทศจะเป็นการผสมผสานธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีกและบริการอื่น ๆ และธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างลงตัว โดยธุรกิจหลักในต่างประเทศ ประกอบด้วยธุรกิจน้ำมัน (Oil) ได้แก่ ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ตลาดพาณิชย์น้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricants และเชื้อเพลิงอื่น ๆ รวมไปถึงธุรกิจค้าปลีก (Non-Oil) อาทิ ร้านกาแฟ Café Amazon ร้านชานมไข่มุก Pearly Tea ร้านค้าสะดวกซื้อ Jiffy และศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto
โออาร์ ทำงานเป็นทีมอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยเป้าหมายยิ่งใหญ่มากกว่าแค่การขยายธุรกิจ แต่ยังหมายถึงการเดินไปข้างหน้าเพื่อปักธงไทยในเวทีโลก ผ่านแบรนด์ของ โออาร์ เพื่อความภาคภูมิใจของคนไทย
เปิดเกมรุกครั้งใหม่มุ่งหน้าสู่แบรนด์ระดับโลก
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โออาร์ มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเมียนมา โออาร์ ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจ ผ่านบริษัท Brighter PTT Oil and Retail Business Company Limited (BOR) และ บริษัท Brighter Energy Company Limited (BE) ซึ่งเป็นบริษัทที่ โออาร์ ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจ The Kanbawza (KBZ) ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 มีเป้าหมายในการดำเนินการจัดหาและขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคลังน้ำมัน ขณะที่ BOR จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 มีวัตถุประสงค์หลักในการดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ Café Amazon
นอกจากธุรกิจน้ำมัน ภายใต้ทิศทางใหม่มุ่งสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก โออาร์ ยังมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ของธุรกิจในกลุ่มค้าปลีก (Non-Oil) โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ “Café Amazon” เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวในปี 2561 บริษัทได้เข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศสิงค์โปร์ ภายใต้ชื่อ บริษัท PTTOR SINGAPORE PTE LTD มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ Café Amazon ในฐานะที่สิงคโปร์เป็นประเทศเป็นศูนย์กลางการค้าของโลกซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในระดับสากล ด้วยการที่สิงคโปร์ถือเป็นจุดเขื่อมโยงผู้คนและธุรกิจจากทั่วโลก ปัจจุบันร้านกาแฟ Café Amazon มีทั้งสิ้น 3 สาขา ในแลนมาร์คและจุดสำคัญของสิงคโปร์ ได้แก่ 1.Jewel at Changi Airport (The New Landmark of Singapore) 2. Jurong Point (Department Store in Residential area) และ 3. Republic Plaza (Office Building in City Center)
และในปีเดียวกันได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดจีน โดยบริษัทในเครือ PTTOR CHINA (Shanghai) Company Limited มีเป้าหมายในการขยายธุรกิจ ร้านกาแฟ Café Amazon และเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricants เพื่อขยายตลาดในจีน และล่าสุดในปี 2563 โออาร์ ได้เริ่มต้นธุรกิจในประเทศเวียดนาม โดยบริษัท ORC Coffee Passion Group Joint Stock Company (ORCG) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โฮจิมินห์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Central Restaurants Group (CRG) และ โออาร์ การรุกตลาดครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลัง ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายที่แข็งแรงของกลุ่มเซ็นทรัล และความเชี่ยวชาญในการขยายธุรกิจกาแฟในต่างประเทศของแบรนด์ Café Amazon และเป็นการตอกย้ำเป้าหมายการสู่แบรนด์ระดับโลกในอนาคต
ไม่ว่าไปที่ไหน “เราหวังให้ชุมชนและสังคมเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ”
ในการดำเนินธุรกิจทุกที่ที่เราเข้าไปลงทุน โออาร์ จะยึดหลักการดำเนินธุรกิจคู่สังคมชุมชนให้เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ เช่นเดียวกับหลักที่เรายึดถือในประเทศไทย บริษัทในเครือในต่างประเทศยังให้ความสำคัญการดูแลสังคมชุมชนในประเทศที่เราไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานที่สร้างคุณค่าร่วมกับสังคมชุมชน การสนับสนุนสังคมชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามความต้องการของชุมชนในพื้นที่และการสนับสนุนเยาวชน สถาบันการศึกษาในประเทศในอาเซียนผ่านโครงการ ต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา อุปกรณ์ จำเป็นอื่น ๆ ให้กับเยาวชน และสถาบันการศึกษา และโครงการ OR Seeding the FUTURE ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชน สร้างการยอมรับและเป็นที่รู้จักจากเยาวชน ซึ่งเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนมาถึงปัจจุบัน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการได้ช่วยพัฒนา ได้ให้โอกาส และสนับสนุนเยาวชนให้เติบโตเป็นบุคลกรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นอกเหนือการดำเนินธุรกิจเพื่อขยายการเติบโตอย่างกำลังในต่างประเทศ สร้างแบรนด์ธุรกิจภายใต้การดำเนินงานของ โออาร์ ให้เป็นที่ยอมรับ บริษัทในเครือในต่างประเทศยังได้รับรางวัลความสำเร็จต่าง ๆ มากมาย จึงถือเป็นอีกหนึ่งในการยืนยันถึงความสำเร็จ ศักยภาพในการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ และการไม่หยุดที่จะมุ่งพัฒนา ขยายเครือข่ายสินค้าและการบริการที่ได้มาตรฐาน เพื่อไปสู่เป้าหมายในการเป็นบริษัทไทยชั้นนำระดับสากลที่สร้างคุณค่าร่วมให้เกิดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล นำความภาคภูมิใจมาสู่คนไทย
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
