ThaiPublica > เกาะกระแส > จีนออกคู่มือคุณธรรมภาคประชาชนยุคใหม่ เน้นปกป้องเกียรติของชาติ ชูแนวคิดประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

จีนออกคู่มือคุณธรรมภาคประชาชนยุคใหม่ เน้นปกป้องเกียรติของชาติ ชูแนวคิดประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

30 ตุลาคม 2019


ที่มาภาพ: https://www.scmp.com/comment/insight-opinion/article/2109045/national-anthem-law-need-not-face-hong-kong-political

พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออกคู่มือส่งเสริมคุณธรรมภาคประชาชนยุคใหม่ ที่จัดทำโดยคณะกรรมการกลางและคณะรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้สำนักพิมพ์ประชาชน (People’s Publishing House) เป็นผู้จัดพิมพ์ พร้อมจำหน่ายในร้านหนังสือซินหัวทั่วประเทศ

คู่มือฉบับใหม่นี้มีเนื้อหาครบถ้วน รวมทั้งคำถามและคำตอบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการกลาง

คู่มือส่งเสริมคุณธรรมประชาชนฉบับใหม่นี้ มุ่งหวังให้ประชาชน ปกป้องเกียรติของชาติ รวมทั้งให้รักษามารยาทที่ดีขณะร้องเพลงชาติหรือชักธงชาติ

คู่มือคุณธรรมนี้มีแนวทางปฏิบัติให้กับประชาชนในทุกด้าน ตั้งแต่การศึกษาประชาชน ไปจนถึงแนวทางสำหรับพ่อแม่ในการสอนลูกแยกขยะ ตลอดจนมารยาทที่เหมาะสมเมื่อยกธงชาติ

คู่มือส่งเสริมคุณธรรมประชาชนยุคใหม่นี้ เรียกร้องให้ประชาชนจีนมีความซื่อสัตย์ มีความสุภาพ มีความศิวิไลซ์ในการรับประทานอาหาร การเดินทาง หรือการชมการแข่งขันกีฬา และการปกป้องเกียรติประเทศขณะที่อยู่ในต่างประเทศ

คู่มือเน้นไปที่การส่งเสริมความรักชาติ รวมทั้งเน้นแนวการปฏิบัติมารยาทแห่งชาติในหลายด้าน เช่น การร้องเพลงชาติ การยกธงชาติ หรือพิธีการเมื่อร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เอกสารของคณะกรรมการกลางและคณะรัฐมนตรีระบุว่า มารยาทดังกล่าวจะยกระดับทัศนคติของประชาชนที่มีพรรคและประเทศ รวมทั้งก่อให้เกิดความรู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์ การเป็นเจ้าของ การมีส่วนร่วม

นอกจากนี้ คู่มือยังเรียกร้องให้ประชาชนสืบสานปณิธานเหลย เฟิง

เหลย เฟิง เป็นทหารในกองทัพสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มุ่งมั่นทำงานหนักจนเสียชีวิตในหน้าที่ขณะที่มีวัย 22 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็น แบบอย่างแก่เยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ

คาร์ล ไมนซ์เนอร์ ผู้เชี่ยวชาญจีนและศาตราจารย์ด้านกฎหมายแห่ง Fordham Law School ในนิวยอร์ก ให้ความเห็นว่า เป้าหมายทั่วไปของคู่มือคุณธรรมนี้เพื่อกำหนดความประพฤติที่ดีให้ชัดเจนและรวมทุกอย่างเกี่ยวกับบทเรียนด้านจริยธรรมที่พ่อแม่ต้องการให้ลูกได้ซึมซับ ตั้งแต่การอ่านหนังสืออ่านเล่นไปจนถึงแนวคิดเชิงการเมืองเกี่ยวกับคุณธรรมประชาชน เช่น ประชาชนควรคำนึงถึงความสัมพันธ์กับผู้นำด้วยความเคารพ

คู่มือคุณธรรมนี้มีการเผยแพร่ก่อนการประชุมคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 4 จะเริ่มขึ้น และเป็นการเน้นย้ำความมุ่งเน้นของประธานาธิบดี สี จิ้งผิงในการประชุมที่จะยกระดับความชอบธรรมทางการเมืองในช่วงเวลาที่จีนประสบกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกง เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

ในบทนำของคู่มือระบุว่า ภายใต้ภูมิหลังของการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของสถานการณ์ระหว่างประเทศและในประเทศ การเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน นโยบายรวมทั้งหลักเกณฑ์และธรรมาภิบาลของสังคมก็ยังคงไม่เพียงพอ ยังมีปัญหาอีกมาก

สิ่งที่สำคัญที่สุดของคู่มือประชาชนฉบับนี้คือ การยึดแนวคิดของประธานาธิบดี สี จิ้งผิง เป็นแกนหลักในการปฏิบัติตามเข็มทิศคุณธรรมพลเมือง ซึ่งแตกต่างจากคู่มือคุณธรรมฉบับก่อนที่ประกาศใช้ปี 2001 เพราะการกล่าวถึงผู้นำจีนหลายคน ตั้งแต่ประธานเหมา เจ๋อตุง ผู้นำสูงสุดเติ้ง เสี่ยวผิง ได้ถูกตัดออกไป

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า คู่มือฉบับนี้เป็นสัญญาณว่างานโฆษณาชวนเชื่อจะเข้มข้นขึ้น โดยเน้นไปที่ธรรมเนียมจีนในแบบพรรคคอมมิวนิสต์และจริยธรรมและวัฒนธรรม

คาร์ลกล่าวว่า ขณะที่มองจากภายนอกปักกิ่งยังยึดมั่นกับการปฏิวัติตามแนวคิดมาร์กซิสต์ แต่ก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่กลับไปสู่แนวทางของตัวเองตามที่เคยมีมาเพื่อแสวงหาพื้นฐานทางอุดมการณ์เพื่อวางรากฐานการปกครองและสร้างแรงบันดาลใจในหมู่ประชาชน

ห้ามรับประทานอาหารเครื่องดื่มในระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมากกระทรวงคมนาคมได้ประกาศห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน ยกเว้นทารกและประชาชนที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการแพทย์ โดยมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศในวันที่ 1 เมษายน 2563 รวมทั้งจะห้ามเปิดเพลงหรือดูวิดีโอเสียงดังด้วยการใช้ลำโพง ห้ามนอนบนพื้นหรือบนที่นั่ง แต่ก็ยังไม่ได้ระบุบทลงโทษ

การรับประทานอาหารในระบบรถไฟฟ้าใต้ดินได้สร้างความรำคาญแก่ผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินมาเป็นเวลานาน เพราะต้องทนกับกลิ่นและเศษอาหาร

ก่อนหน้านี้หลายเมือง เช่น ปักกิ่ง เสิ่นเจิ้น กวางตง และนานจิง เจียงซู ได้ประกาศห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายใต้ตัวรถไฟฟ้า

จีนได้พัฒนาระบบรถไฟฟ้าใต้ดินอย่างมากในช่วง 2-3 ปีนี้ โดย ณ สิ้นปี 2018 มี 35 เมืองที่มีรถไฟฟ้าใต้ดิน คิดเป็นระยะทางโดยสารรวมกัน 5,295 กิโลเมตร และมีการเดินรถไฟฟ้ารวมกัน 21.3 พันล้านเที่ยว