รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
DSI แจงคดี “บิลลี่” คืบหน้ากว่า 70% คาดรู้ผลตรวจ DNA กระดูก 8 ชิ้นใน 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลังการประชุมประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตามที่ได้รับมอบหมายจากพันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษที่ 13/2562 กรณีนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง และ แกนนำกลุ่มกะเหรี่ยง บ้านโป่งลึก-บางกลอย หายตัวไป ภายหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จับกุมตัวพร้อมรถจักรยานยนต์ในความผิดเกี่ยวกับการนำน้ำผึ้งป่าออกจากเขตอุทยานแห่งชาติโดยผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557
โดยพันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีคดี “บิลลี่” ตามที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมครั้งที่แล้ว เพื่อเร่งรัดการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้จัดชุดปฏิบัติการประมาณ 5-6 ชุด ออกไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม อาทิ ชุดปฏิบัติการ ติดตามค้นหาทรัพย์สินของนายบิลลี่ที่หายไป ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ กล้องถ่ายรูป กระเป๋าสะพาย ,ชุดปฏิบัติการสอบสวนและรวบรวมพยานบุคคลและหลักฐานในที่เกิดเหตุ ,ชุดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัย เป็นต้น ซึ่งในวันนี้ชุดปฏิบัติการทุกชุดก็ได้มารายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปกว่า 70% แต่เนื่องจากพยานหลักฐานแต่ละชิ้นได้มาด้วยความยากลำบาก ดังนั้น แนวทางการสอบสวนจึงต้องทำอย่างละเอียดและรอบครอบมากที่สุด
“ขณะนี้คดียังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้ออกหมายเรียกพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ส่วนผลการตรวจสอบดีเอ็นเอกระดูกที่พบอีก 20 ชิ้นนั้น สามารถนำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอได้แค่ 8 ชิ้น แต่เศษกระดูกอีก 12 ชิ้นนั้น มีขนาดเล็กเกินไป ไม่สามารกนำไปตรวจพิสูจน์ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ใช่กระดูกมนุษย์ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าจะส่งผลการตรวจพิสูจน์อย่างเป็นทางการมาให้ดีเอไสไอได้ภายใน 2 สัปดาห์นับจากวันนี้ เหตุที่ต้องใช้เวลาตรวจนาน เพราะการตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอจากกระดูกยากกว่าเนื้อเยื่อ จึงต้องใช้เวลานานกว่าปกติ” พันตำรวจโท กรวัชร์
พันตำรวจโท กรวัชร์ กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตามหลักฐานที่ดีเอสไอมีอยู่ในตอนนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก แต่ก็ยังต้องรวบรวมและขยายผลการสอบสวนลงในรายละเอียดต่อไป รวมทั้งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องด้วย ส่วนการเร่งรัดสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จับกุมตัวนายพอละจีในความผิดตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติแล้ว ปล่อยตัวไป โดยไม่ดำเนินคดี ทางป.ป.ช. จะจัดส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษภายใน 2 สัปดาห์เช่นกัน ซึ่งดีเอสไอจะนำสำนวนการสอบสวนของป.ป.ช.ไปร่วมอยู่ในสำนวนคดีนี้ด้วย
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
