นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงข่าวภายหลังถูกคณะกรรมการป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน โดยยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะปกปิดบัญชีทรัพย์สิน แต่เป็นความบกพร่องของภรรยาที่เข้าใจคลาดเคลื่อนในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งกรรมสิทธิ์การถือครองห้องชุดที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษนั้น ภรรยาของตนถือครองกรรมสิทธิ์แทนบุคคลอื่นที่ทำธุรกิจร่วมกันและในภายหลังได้ยื่นเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการแล้ว นอกจากนี้การกล่าวหาว่ามีทรัพย์สินมากกว่า 200 ล้านบาทนั้นเป็นเท็จ เพราะตัวเองไม่เคยมีทรัพย์สินจำนวนมากขนาดนั้น เชื่อว่าการชี้มูลความผิดครั้งนี้เป็นการกลั่นแกล้ง เพราะที่ผ่านมาเคยเป็นแคนดิเดทชิงตำแหน่งเลขาธิการป.ป.ช.ร่วมกับนายวรวิทย์ สุขบุญมาก่อน และเมื่อมาเป็นรองเลขาธิการ ป.ป.ช.ตนได้ถูกลดบทบาทหลายอย่าง
นายประหยัด กล่าวด้วยว่า การชี้มูลความผิดครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบหลายอย่าง ไม่เคยเปิดโอกาสให้ตนได้ชี้แจงด้วยวาจา ตามที่ร้องขอความเป็นธรรมมาหลายครั้ง นอกจากนี้พยานเอกสารที่ใช้กล่าวหาเช่นหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจากต่างประเทศ ยังไม่มีการพิสูจน์ว่าได้มาโดยชอบและข้อเท็จจริงตามนั้นหรือไม่ ยังไม่รวมถึงการพิจารณาที่เร่งรัดอย่างผิดปกติ จึงได้ยื่นฟ้องนายวรวิทย์ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ฐานละเว้นปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ไปแล้ว และหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและภาคประชาชนต้องการที่จะถอดถอนคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งคณะให้แจ้งมาที่ตนได้ ซึ่งตนพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ส่วนที่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีเครือ ปตท. ลงทุนปลูกปาล์มที่อินโดนีเซียนั้น คดีนี้เกิดขึ้นมานานมาก และตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว และเคยไปอินโดนีเซียกับนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช.เพียงครั้งเดียว โดยไปศึกษาดูงาน ตัวเองและภรรยาไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ ปตท. แต่เห็นว่าเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน จึงมีการเชื่อมโยงกันไปเอง