ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 3-9 ส.ค. 2562
โฆษกรัฐบาลแจง ถ้อยคำนายกฯ “ผมขอเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” ไม่ได้หมายถึงเรื่องกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ
ที่มาวิดีโอ: ยูทูบ ThaiPBS
จากกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท (เข้าเฝ้าฯ) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทำการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ (ถวายสัตย์) แต่ พล.อ. ประยุทธ์ กลับกล่าวถ้อยคำที่ใช้ในการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน กล่าวคือ
ในขณะที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 มาตรา 61 ได้กำหนดไว้ว่า “ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรี ‘ต้อง’ กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้”
“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
แต่ในการเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ฯ พล.อ. ประยุทธ์ กลับกล่าวถวายสัตย์ฯ ถึงเพียงวรรคที่ว่า “เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน” โดยไม่ได้กล่าวถ้อยคำในวรรคสุดท้ายที่ว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” แต่อย่างใด
กรณีดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายออกมาออกมาตั้งคำถามถึงความเหมาะสม และบางกรณีก็มีการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการวินิฉัย เช่น กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อส่งศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญให่้ตรวจสอบในกรณีดังกล่าว บ้างก็เรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง ไปจนถึงกระทั่งเสนอให้ขอพระราชทานอภัยโทษ
ขณะที่ทางฝั่งของรัฐบาลนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ปรกติแล้วสามารถให้คำตอบแค่ข้อกังขาต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นทางกฎหมายที่เชื่อมโยงไปถึงความเหมาะสมได้ทุกประเด็น เมื่อได้รับคำถามในประเด็นนี้หนักเข้าก็ยังไม่ขอตอบเรื่องนี้ ทั้งยังทิ้งท้ายว่า “แล้ววันหนึ่งจะรู้เองว่าทำไมไม่ควรพูด”
ท่ามกลางเสียงกดดันจากทุกฝ่าย วันที่ 8 ส.ค. 2562 พล.อ. ประยุทธ์ ที่เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูง ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ก็ได้กล่าวในช่วงหนึ่งว่า
“เรื่องแรกที่เป็นประเด็นสำคัญ ผมขอเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวเรื่องประเด็นรัฐธรรมนูญ ผมเป็นห่วงกังวลอยู่อย่างเดียวว่าทำอย่างไรจะทำงานได้ ก็ขอให้ทุกคนได้ทำงานต่อไป เพราะอย่างไรก็ต้องไปศึกษาในรัฐธรรมนูญดูว่าเขียนไว้ว่าอย่างไร แต่ยังคงมีรัฐบาลอยู่”
ถ้อยคำดังกล่าว ทำให้เกิดการตีความกันไปว่า นายกฯ กล่าวถึงเรื่องการกล่าวถ้อยคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วน และคาดเดาไปต่างๆ นานาว่า “ผมขอเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” ที่ว่านั้นหมายถึงนายกฯ จะทำอะไร
อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกัน ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงถ้อยคำดังกล่าวของนายกฯ ว่า พล.อ. ประยุทธ์ไม่ได้หมายถึงประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ พร้อมทั้งยืนยันว่านายกฯ จะไม่ลาออก
ศักดิ์สยามแจง ยังไม่อนุมัติขึ้นค่าแท็กซี่ แค่รับไว้พิจารณา คาดทราบผลในหนึ่งเดือน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้หารือกับกลุ่มแท็กซี่แล้วได้ข้อสรุปเป็นการอนุมัติให้ขึ้นค่าโดยสารทุกระยะในอัตราต่างๆ ดังนี้
มิเตอร์จะเริ่มต้นที่ 35 บาทเท่าเดิม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมาว่า ขณะนี้ยังไม่ได้อนุมัติให้แท็กซี่ปรับขึ้นราคา เป็นการรับข้อเสนอของแท็กซี่มาพิจารณาเท่านั้น โดยมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปพิจารณาความเหมาะสมรายละเอียดข้อเสนอว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งคาดว่าภายใน 1 เดือนจะทราบผลว่าจะอนุมัติมให้ปรับขึ้นราคาตามข้อเสนอหรือไม่
สุเทพยัน ไม่เกี่ยวโรงพักไม่เสร็จ
วันที่ 8 ส.ค. 2562 เว็บไซต์เนชั่นรายงานว่า ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงกรณี ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) แถลงมีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายสุเทพ กรณีอนุมัติโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หรือโรงพักทดแทน 396 แห่งว่า หลังจากที่ ป.ป.ช.ได้ตั้งข้อกล่าวหาแล้วได้ไปชี้แจงหลายครั้งหลายหนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในที่สุด ป.ป.ช.ก็ได้สรุปและมีมติชี้มูล ทำให้ได้มีโอกาสไปพิสูจน์ความจริงในศาล เรื่องราวจะได้จบ เพราะว่าเสียหายและเสียชื่อเสียงมาเยอะแล้ว ในฐานะคนที่ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ เรื่องที่เกิดขึ้นขอเรียนกับประชาชนว่า กรณีไม่มีความซับซ้อนอะไรเลย แต่เดิม ป.ป.ช.พยายามกล่าวหาว่าตนกระทำผิดมติ ครม. แต่ในที่สุดก็ไม่มีความผิด เพราะว่ามติ ครม.เกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่มีอยู่จริง
“เพราะฉะนั้นฟังจากการแถลงของ ป.ป.ช.เมื่อวานนี้ กลายเป็นว่าผมเสนอเรื่องขออนุมัติ ครม. (คณะรัฐมนตรี) เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวิธีจัดซื้อจัดจ้างใหม่ กลับไม่เสนอขอมติที่ประชุม ครม.อีกครั้ง คล้ายกับว่าผมใช้อำนาจโดยมิชอบ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าการใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีดังกล่าว จะทำให้การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเห็นว่าอาจจะผิดจากข้อเท็จจริง เพราะข้อเท็จจริงคือว่า ครม.มีมติครั้งเดียวเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ให้สร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง ในวงเงิน 6,000 ล้านบาท
โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปกติ แล้วก็ผูกพันงบประมาณเป็นเวลา 5 ปี ซึ่ง ครม.อนุมัติเพียงครั้งเดียว เรียกว่า ครม.อนุมัติโดยหลักการ ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างไม่ใช่อำนาจของ ครม.ในการอนุมัติ ไม่มีการอนุมัติในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการใด ที่จะต้องไปขออนุมัติจากมติ ครม. เพราะมีกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างว่าด้วยระเบียบพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วว่าเป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงาน คืออธิบดี หรือถ้าเกินอำนาจของอธิบดี ก็เป็นอำนาจของรัฐมนตรีที่คุมกระทรวงนั้น”
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ดังนั้นที่กล่าวหาว่าเสนอ ครม.ครั้งหนึ่งแล้ว แต่พอจะเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดซื้อจัดจ้างกลับไม่เสนอขอมติ ครม.นั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งประเด็นนี้จะนำไปพิสูจน์ให้ศาลได้เห็น และขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจ เพราะทั้งหมดนี้ที่ ป.ป.ช.กล่าวหาตนเอง ไม่เกี่ยวกับการทุจริตเลย เป็นเพียงประเด็นว่าใช้อำนาจหน้าที่ชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น เรื่องการทุจริตนั้นเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.แจ้งมติชี้มูล ตำรวจ ข้าราชการ หรือพ่อค้าคนอื่นในวันเดียวกัน ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าไปสมคบทุจริตกับเขาด้วย ประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่อยากจะชี้ให้ประชาชนได้เห็นก็คือว่า กรณีนี้มีการประมูลกันโดยวิธีอี-อ็อกชั่น (e-Auction) ก็มีผู้เข้าประมูลหลายรายและแข่งขันกัน 70 กว่าครั้งในการประกวดราคา ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดนั้น ได้เสนอต่ำกว่าราคากลางประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริง
“การก่อสร้างที่ไม่แล้วเสร็จ ไม่ได้เกี่ยวกับการอนุมัติสั่งการของผม เกี่ยวกับการบริหารสัญญาคือการกำกับควบคุมดูแลการก่อสร้าง น่าสังเกตว่าระหว่างการก่อสร้างกว่าจะทำสัญญาได้ก็นาน และเวลาก่อสร้างมีการขยายสัญญาให้หลายครั้ง โดยผู้บัญชาการตำรวจหลายคน ซึ่งผมจะไม่พูดว่าใครถูกใครผิดอย่างไร เพราะเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องไปพิสูจน์ความจริงกันในศาล ด้วยพยานหลักฐานที่มี” นายสุเทพชี้แจง
บอร์ดค่าจ้างเร่งเคาะตัวเลขปรับค่าจ้างขั้นต่ำภายใน 2 เดือน
เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า ที่กระทรวงแรงงาน วันที่ 9 ส.ค. 2562 นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง กล่าวหลังประชุมบอร์ดค่าจ้างไตรภาคี ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ โดยให้ดูสภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ การว่างงาน ในขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง มีข้อมูลจากทั้งฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง ฝ่ายตัวแทนรัฐจากธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน ที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ส่วนจะปรับขึ้น หรือไม่ปรับ จะปรับแค่ไหน ได้มีการตกลงเป็นมติว่าจะต้องทำอย่างรอบคอบที่สุด ต้องมีตัวเลขที่เหมาะสม และไม่กระทบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยจะใช้สูตรการคำนวณที่เหมาะสมในแต่ละจังหวัดในเชิงคุณภาพ
“จะมีการพิจารณาทั้งจากตัวเลขเดิมที่อนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดเสนอตัวเลข 2-10 บาท ส่วนตัวเลขที่พรรคพลังประชารัฐแกนนำรัฐบาล เคยเสนอไว้ที่ 425 บาท ก็มีการนำมาคุยกัน แต่ทุกอย่างขึ้นกับบอร์ดไตรภาคี จะมีการประชุมทุกเดือน และจะให้มีมติออกมาเร็วที่สุดไม่ให้ยืดยาวออกไปอีก คาดว่าภายใน 1-2 เดือน น่าจะมีการนำข้อมูลต่างๆ มาพิจารณาเพื่อเคาะตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำได้ โดยจะให้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายมากที่สุด” นายสุทธิกล่าว
สหรัฐฯ ห้ามหน่วยงานรัฐทำธุรกิจกับหลายบริษัทเทคโนโลยีในจีน
เว็บไซต์เนชั่นรายงานว่า สำนักงบประมาณและการจัดการของทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามหน่วยงานของรัฐ ทำธุรกิจกับหัวเหว่ยและบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ของจีน โดยอ้างความวิตกด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
บริษัทเทคโนโลยีที่ตกเป็นเป้าหมายของสำนักงบประมาณและการจัดการของทำเนียบขาว นอกจากหัวเหว่ยแล้ว ยังมี ZTE, ไฮเทรา, ฮิควิชั่น และต้าหัว โดยอ้างความวิตกว่า บริษัทเหล่านี้ อาจเอาความลับทางการค้าและข้อมูลอื่นๆ ไปเผยต่อรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นการขานรับประกาศของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธ (7 ส.ค. 2562) ที่ห้ามหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ซื้อเครื่องมือโทรคมนาคมสื่อสาร กล้องวงจรปิด ผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีอื่นๆ และบริการจากบริษัทจีน เช่น หัวเหว่ย เทคโนโลยีส์ กับคู่แข่งคือ ZTE, ผู้ให้บริการระบบวิทยุสื่อสาร ไฮเทรา, ผู้ผลิตกล้อง หังโจว ฮิควิชั่น ดิจิตัล เทคโนโลยี และผู้ผลิตกล้องบันทึกวิดีโอวงจรปิด ต้าหัว เทคโนโลยี การประกาศนี้เป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสส์ โดยจะมีผลบังคับในวันที่ 13 สิงหาคม กฎหมายฉบับนี้ ยังกำหนดเส้นตายในเดือนสิงหาคม ปี 2563 ให้ผู้รับช่วงสัญญาของรัฐบาลกลาง ทำธุรกิจกับหัวเหว่ยด้วย