ThaiPublica > เกาะกระแส > กกต. ชง “พ.ร.ป.ส.ว.” ยึด หลักรธน. ออกแบบเฟ้นคนดีนั่งสภาสูง แจงเลือกจากตัวแทน 20 กลุ่มอาชีพ

กกต. ชง “พ.ร.ป.ส.ว.” ยึด หลักรธน. ออกแบบเฟ้นคนดีนั่งสภาสูง แจงเลือกจากตัวแทน 20 กลุ่มอาชีพ

26 กันยายน 2016


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. และได้ให้คณะทำงานไปปรับแก้ตามแนวทางที่กกต.มีมติ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จและส่งให้คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ในวันที่ 30 กันยายนนี้

ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นหลักการเลือกส.ว.ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน การยกร่างยากที่สุดในบรรดากฎหมายที่กับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ซึ่งการยกร่างกกต.ยึดตามรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้ได้คนดีมาเป็นส.ว. มีที่มาหลากหลายอาชีพในสังคม จึงได้มีการกำหนดเป็น 20 กลุ่มอาชีพ และเพื่อให้ไม่เกิดการบล็อกโหวตหรือจ้างลงสมัคร ไม่เป็นภาระทางการเงินแก่ผู้สมัคร กำหนดค่าสมัครคนละ 500 บาท ส่วนวิธีการเลือกนั้นตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ว่าต้องมาจากตัวแทนอำเภอ จังหวัด ประเทศ นั้นกกต.กำหนดการเลือกเป็น 3 ระดับ โดยการสมัครจะเริ่มที่ระดับอำเภอ หนึ่งคนรับรองคุณสมบัติตนเอง และลงได้เพียงกลุ่มอาชีพเดียว การเลือกจะทำ 2 ขั้นตอน ขั้นแรกจะให้เลือกกันเองในกลุ่ม ๆ ละ 5 คนต่ออำเภอซึ่งก็จะได้ผู้สมัครส.ว.ใน 928 อำเภอ จาก 20 กลุ่ม รวม 92,800 คน จากนั้นจะให้ 5 คนแต่ละกลุ่มไปเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่น 19 กลุ่มให้เหลือกลุ่มละ 3 คน ก็จะเหลือผู้สมัครส.ว.ในระดับอำเภอ 55,680 คน

การรับสมัครเลือกส.ว.

จากนั้นเป็นการเลือกในระดับจังหวัด จะนำผู้สมัครในระดับอำเภอที่เหลือ 55,680 คน จาก 20 กลุ่ม มาเลือกไขว้เช่นเดิม ให้เหลือกลุ่มอาชีพละ 1 คน เป็นผู้สมัครส.ว.ระดับจังหวัด ซึ่ง 77 จังหวัดก็จะได้ผู้สมัครส.ว.ระดับจังหวัด รวม 1,540 คน จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกในระดับประเทศซึ่งจะมีการจัดประชุมผู้สมัครส.ว.ทั้ง 1,540 คนจาก 20 กลุ่ม แล้วให้มีการเลือกไขว้ให้เหลือกลุ่มละ 10 คน ก็จะได้ส.ว จาก 20 กลุ่ม รวม 200 คน เพื่อที่จะส่งให้คสช. คัดเลือกตามบทเฉพาะกาลมาตรา 269 เหลือ 50 คน และสำรองรายชื่ออีก 50 คน

นายสมชัย กล่าวว่า วิธีการที่กกต.ออกแบบอยู่ในวิสัยที่กกต.ประเมินแล้วว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ รวมทั้งสามารถป้องกันการบล็อคโหวต และการทุจริตได้ เพราะในร่างกฎหมายมีบทลงโทษรุนแรงไม่น้อยไปกว่ากฎหมายเลือกตั้งส.ส. คนที่ซื้อเสียง หรือทำเพื่อประโยชน์ให้ตนได้รับการเลือกเป็นส.ว. มีสิทธิที่จะถูกตัดสิทธิการสมัคร ถูกเพิกถอนสิทธิการสมัคร และถูกเพิกถอนเลือกตั้งได้ ดังนั้นคนที่คิดจะทำไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ ตนเชื่อว่าไม่คุ้ม

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร

นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีสปท.ด้านปฏิรูปการเมือง เสนอเซ็ตซีโร่กกต. ว่าตนเห็นว่าหลายเรื่องเป็นจินตนาการบอกว่ากกต.ทำงานไม่เป็นทีม อยากถามกลับว่า กกต.ทำงานไม่เป็นทีมตรงไหน ถ้าไม่เป็นทีม จะออกกฎหมายลูก 4 ฉบับตามเวลาที่กำหนดภายใน 1 เดือนได้อย่างไร ตรงนี้คิดว่าเป็นผลงาน และสะท้อนว่าเราได้ทำงานกันอย่างจริงจังเป็นเอกภาพ

“ผมไม่เห็นความแตกแยกหรือขัดแย้ง มีแต่ช่วยกันทำงานให้เกิดผลดีที่สุด การมาบอกว่าทำงานไม่เป็นทีม ผมไม่รู้ว่าท่านมาแอบอยู่ใต้โต๊ะในห้องประชุมกกต.หรืออย่างไร ถ้ามาแอบจริง ก็จะเห็นการทำงานที่มีความสามัคคี จริงจัง ดังนั้นที่ท่านว่าผมเห็นว่าท่านจินตนาการเกินไป” นายสมชัยกล่าว

เมื่อถามว่า ประธานกรธ.ระบุว่าที่มาของกกต. 2 คน ยังไม่ชัดเจนว่าจะมาจากคณะกรรมการสรรหา หรือที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา นายสมชัย กล่าวว่า เอาไว้ค่อยคุยกันตอนที่กกต.ไปพบหารือกับกรธ.ในเรื่องพ.ร.ป.กกต.วันที่ 29 ก.ย. ส่วนในวันที่ 28 ก.ย.ที่กรธ.จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพ.ร.ป.พรรคการเมือง และพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.นั้น กกต.อยากได้ข้อเสนอใน 2 เรื่อง คือ ทำอย่างไรให้พรรคการเมืองเข้มแข็งเป็นสถาบัน มีฐานมาจากประชาชนอย่างแท้จริง มีกลไกสรรหาคนดีเข้าสู่การเมือง และทำอย่างไรให้การเลือกตั้งส.ส. ปลอดการทุจริต ซึ่งกกต.ยังคงยืนยันว่าบุคคลที่กกต.ส่งไปชี้แจงซึ่งเป็นระดับผู้ทรงคุณวุฒิ และผอ.สำนักของกกต.นั้น รู้เรื่องดังกล่าวดีสุด กกต.ไม่ต้องไปเอง