ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาลฎีกาฯ จำคุก “อติคม ธนบัตร” รองนายก อบจ.ระนอง 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.

ศาลฎีกาฯ จำคุก “อติคม ธนบัตร” รองนายก อบจ.ระนอง 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.

18 ธันวาคม 2015


นายอธิคม ธนบัตร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ที่มาภาพ : http://ranongpao.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=78
(ล่างซ้าย) นายอติคม ธนบัตร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ภายในระยะเวลาที่กำหนด ที่มาภาพ : http://ranongpao.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=78

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการุทจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ อ้างคำพูดของนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดนายอติคม ธนบัตร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระนอง กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง และได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด เพื่อฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น

ศาลฎีกาฯ ได้รับฟ้องคดีดำ อม.63/2558 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 และวินิจฉัยกรณีดังกล่าวคดีแดง อม.88/2558 วันที่ 14 ธันวาคม 2558 พิพากษาลงโทษให้

  1. นายอติคม ธนบัตร รองนายก อบจ. ระนอง พ้นจากตำแหน่งรองนายก อบจ. ระนอง ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ศาลวินิจฉัย และ
  1. ห้ามมิให้นายอติคม ธนบัตร ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ศาลวินิจฉัย
  1. จำคุกนายอติคม ธนบัตร เป็นเวลา 2 เดือน

“โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว นายอติคม ธนบัตร เป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบให้ถูกต้องครบถ้วน อันเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐเพื่อป้องการการทุจริต ประกอบกับนายอติคม ธนบัตร ไม่สำนึกในการกระทำความผิดของตน พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรงและไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ” นายสรรเสริญกล่าว