ไทยพับลิก้าสำรวจพบ “โรงเรียนสอนดนตรี” รวม 356 แห่ง ที่เป็นโรงเรียนนอกระบบที่อยู่นอกกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา นั่นคือเป็นโรงเรียนที่ได้รับการยกเว้นภาษี
ในขณะที่มีโรงเรียนสอนดนตรีที่อยู่ในกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา ที่จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี เพียง 8 แห่งเท่านั้น
โดยโรงเรียนดนตรีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทยคือ โรงเรียนดนตรียามาฮ่าหรือสยามกลการ ที่มีจำนวน 85 สาขาทั่วประเทศ และสถาบันดนตรีเคพีเอ็น ที่มีจำนวน 60 สาขาทั่วประเทศ
หลังจากไทยพับลิก้าสำรวจ “โรงเรียนสอนภาษา” ที่อยู่นอกกลุ่ม “โรงเรียนกวดวิชา” ได้แก่ กลุ่มโรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนวิชาชีพ และโรงเรียนเสริมสร้างทักษะชีวิต ว่ามีโรงเรียนหรือสถาบันเหล่านั้นใดบ้างที่เปิดประกอบการในเชิงธุรกิจ โดยใช้จำนวนสาขาของสถาบันหรือโรงเรียนนั้นๆ เป็นตัวชี้วัด พบว่า ในกลุ่มโรงเรียนวิชาชีพ มีโรงเรียนสอนภาษาทั้งหมด 915 แห่ง กลุ่มโรงเรียนศิลปะและกีฬามีโรงเรียนสอนภาษาทั้งหมด 15 แห่ง และกลุ่มโรงเรียนเสริมสร้างทักษะชีวิตมีโรงเรียนสอนภาษาทั้งหมด 21 แห่ง ซึ่งสถาบันที่มีจำนวนสาขาสูงสุด 7 อันดับแรก คือ ภาษาและกวดวิชา อี ซี ซี, ภาษาต่างประเทศ อิน ลิง กัว, สยามคอมพิวเตอร์และภาษา, ภาษาและภูมิปัญญาตะวันออก (OKLS), สถานสอนภาษาสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา (AUA), วอลล์สตรีท และภาษาจีนศึกษา (มา-เอ็ด) นั้น
ครั้งนี้ไทยพับลิก้าได้สำรวจ “โรงเรียนสอนดนตรี” ซึ่งเป็นโรงเรียนนอกระบบแบบหนึ่งที่ประกอบการในเชิงธุรกิจ และมีโรงเรียนดนตรีหลายแห่งที่อยู่นอกกลุ่มของโรงเรียนกวดวิชา โดยจากสำรวจโรงเรียนนอกระบบในกลุ่มกวดวิชาพบโรงเรียนสอนดนตรีเพียง 8 แห่งเท่านั้น คือ เคพีเอ็นหาดใหญ่, บัณฑิตศิลปะการดนตรีและกวดวิชา, เลิศประสิทธิ์กวดวิชาและดนตรี, ดนตรีเลกาโต้, สอนภาษาและดนตรีบ้านฟ้า, ดนตรีวิทยามหาสารคาม, เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดนตรีและภาษาสแควร์พลัส และเสริมศึกษาแม่กลอง กวดวิชา ศิลปะและดนตรี ซึ่งโรงเรียนในกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนสอนดนตรีได้ขึ้นทะเบียนเป็นโรงเรียนนอกระบบในกลุ่มอื่นๆ ด้วย ซึ่งจากสำรวจของไทยพับลิก้าพบใน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มศิลปะและกีฬา และ กลุ่มวิชาชีพ
สำหรับ “กลุ่มวิชาชีพ” สำรวจพบโรงเรียนสอนดนตรี 9 แห่ง คือ บัณฑิตศิลปะการดนตรีและกวดวิชา, ภาษาและดนตรีกรุงเทพ, บางกอกศิลป์การดนตรีและภาษา, ภาษาและดนตรีจีนบางนา, ภาษาและดนตรีรับขวัญ, ดนตรีเอลิสท์, ดนตรีและภาษาตะลันท์ และดนตรีสยามกลการเทสโก้โลตัส ศาลายา
ในขณะที่ “กลุ่มศิลปะและกีฬา” พบโรงเรียนสอนดนตรีรวม 357 แห่งจากโรงเรียนทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนในกลุ่มนี้รวม 573 แห่ง นั่นคือ ประมาณร้อยละ 62 ของโรงเรียนนอกระบบในกลุ่มนี้เป็นโรงเรียนสอนดนตรี ทั้งนี้ เมื่อสำรวจลึกลงไปพบว่า โรงเรียนสอนดนตรีกว่า 300 แห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นสาขาหรือเครือข่ายของโรงเรียนสอนดนตรีชื่อดังเพียง 2 แห่ง คือ สถาบันสอนดนตรีเคพีเอ็น และโรงเรียนสอนดนตรียามาฮ่าหรือสยามกลการ(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
ด้านสถาบันสอนดนตรีเคพีเอ็น จากการสำรวจจำนวนสาขาที่ปรากฏในทะเบียนโรงเรียนนอกระบบของกระทรวงศึกษาธิการ พบว่ามีทั้งหมด 30 สาขาทั่วประเทศ แต่จากการสำรวจบนเว็บไซต์ของเคพีเอ็น พบว่ามีทั้งหมด 60 สาขาทั่วประเทศ มากกว่าที่ปรากฏในทะเบียนถึง 30 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ รวม 41 สาขา ภาคเหนือ 2 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สาขา ภาคกลาง/ตะวันออก 2 สาขา และภาคใต้ 5 สาขา
ทั้งนี้ มี 6 สาขาของเคพีเอ็นที่ปรากฏสาขาในทะเบียนแต่ไม่ปรากฏบนเว็บไซต์ คือ เทสโก้โลตัส แจ้งวัฒนะ, สยาม, ศรีนครินทร์, เคพีเอ็นทาว์เวอร์, สัมมากร และนครปฐม สำหรับสาขาเมโทรอีสทาวน์เป็นสาขาที่กำลังจะเปิดใหม่เร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม สถาบันดนตรีเคพีเอ็นเป็นเพียงหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มบริษัทเคพีเอ็น ซึ่งในหมวดหมู่ของการศึกษานั้น นอกจากการมีสถาบันดนตรีเคพีเอ็นแล้ว ยังมีโรงเรียนกวดวิชาเคพีเอ็น, บริษัท สยาม วิลสัน เลิร์นนิ่ง จำกัด ซึ่งสอนด้านของการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร, KPN Chinese Academy Company Limited, Sport Society Company Limited และ Penta Systems Company Limited
ด้านโรงเรียนดนตรียามาฮ่าหรือสยามกลการจากการสำรวจจำนวนสาขาที่ปรากฏในทะเบียนโรงเรียนนอกระบบของกระทรวงศึกษาธิการ พบว่ามีทั้งหมด 65 สาขา แบ่งเป็นขึ้นทะเบียนในชื่อยามาฮ่าจำนวน 14 สาขา และขึ้นทะเบียนในชื่อสยามกลการ 54 สาขา แต่จากการสำรวจบนเว็บไซต์ พบว่ามีสาขาทั้งหมด 85 สาขา เพิ่มขึ้นจากที่ปรากฏในทะเบียน 20 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 50 สาขา ภาคเหนือ 4 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สาขา ภาคกลาง/ตะวันออก 15 สาขา และภาคใต้ 7 สาขา
ทั้งนี้ มี 13 สาขาของเคพีเอ็นที่ปรากฏสาขาในทะเบียนแต่ไม่ปรากฏบนเว็บไซต์ คือ สุขุมวิท 77, สามเสน, เมืองชลบุรี, เชียงใหม่, เชียงใหม่พระปกเกล้า, หัวหิน, มิวสิคเซอร์เคิล, เตาปูน, รัชโยธิน, อิมพีเรียลลาดพร้าว, เอกมัย, เทสโก้โลตัส บางใหญ่ และระยอง
จากจำนวนสาขาของโรงเรียนสอนดนตรีชื่อดังทั้งสองแห่งข้างต้นพบว่า มีจำนวนสาขาที่แสดงถึงการทำธุรกิจที่ไม่ต่างจากโรงเรียนกวดวิชา และอาจจะมีสาขามากกว่าโรงเรียนกวดวิชาด้วยซ้ำ ซึ่งจำนวนสาขาที่มาก ย่อมหมายถึงรายได้ที่มากตามไปด้วย
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
