เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2558 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีนายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน มีนายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ร่วมเป็นกรรมการ (องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาฯ เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ 12/2558) เพื่อคัดเลือกกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่ จำนวน 5 คน จากรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาทั้งสิ้น 59 คน ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ
ก่อนจะมีมติเลือก 1. นายวิทยา อาคมพิทักษ์ อดีตกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) 2. นางสาวสุวณา สุวรรณจูฑะ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) 3. พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) 4. นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ และ 5. พล.อ. บุณยวัจน์ เครือหงส์ ประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ซูเปอร์บอร์ด กสทช.) เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนคณะกรรมการสรรหาฯ จะต้องส่งรายชื่อดังกล่าวไปให้ สนช. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบประวัติ ก่อนลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ หากให้ความเห็นชอบก็ส่งขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งต่อไป แต่หากไม่เห็นชอบก็ต้องไปเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ตั้งแต่ต้น

สำหรับประวัติผู้ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่ ทั้ง 5 คน มีดังนี้
– นายวิทยา อาคมพิทักษ์ (อายุ 60 ปี) ความเชี่ยวชาญ: การบริหารราชการ
เริ่มรับราชการในกระทรวงมหาดไทย ก่อนโอนย้ายมาอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในปี 2525 ตั้งแต่ยังใช้ชื่อว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ที่อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี เติบโตในตำแหน่งจนได้เป็นถึงรองเลขาธิการ ป.ป.ช. ก่อนลาออกไปเป็นกรรมการ คตง. หลังได้รับเลือกในปี 2557
– นางสาวสุวณา สุวรรณจูฑะ (อายุ 59 ปี) ความเชี่ยวชาญ: บัญชี, การบริหารราชการ
เริ่มรับราชการในกระทรวงยุติธรรมมาตลอด แม้จะจบการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือเป็นนักบัญชีไม่ใช่นักกฎหมาย เคยเป็นอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ก่อนได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมกับเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในสมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยังได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุม ครม. ให้เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน พล.ต.อ. ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา
– พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ (อายุ 61 ปี) ความเชี่ยวชาญ: กฎหมาย, การบริหารราชการ
จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 29 ก่อนไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา ชีวิตราชการในวงการสีกากีมีความก้าวหน้าตามลำดับ กระทั่งได้เป็นรอง ผบ.ตร. และติดยศพลตำรวจเอก เมื่อ คสช. เข้ามาควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน ในปี 2557 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิก สปช. ก่อนจะมีคำสั่ง คสช. ที่ 7/2557 ให้ปฏิบัติราชการแทน พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ที่ถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ จนเกษียณอายุราชการ
– นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร (อายุ 65 ปี) ความเชี่ยวชาญ: กฎหมาย
เป็นนักกฎหมายเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ชุดล่าสุด เคยเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 และอธิบดีศาลอาญากรุงเทพใต้
– พล.อ. บุณยวัจน์ เครือหงส์ (อายุ 63 ปี) ความเชี่ยวชาญ: บัญชี, ตรวจสอบภายใน
อดีตนักเรียนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 13 รับราชการในกระทรวงกลาโหมจนเกษียณอายุราชการ ส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายให้ทำงานด้านบัญชีและงบประมาณ เคยเป็นผู้ช่วยปลัดบัญชีทหารบก ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบภายในทหารบก และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม ได้รับเลือกให้เป็นซูเปอร์บอร์ด กสทช. เมื่อปี 2556
ทั้งนี้ กรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่จะมีวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี หรือจนถึงปี 2567 ยกเว้นกรณีที่เกษียณอายุเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์