ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย – “ชิโนไทย” พัวพันคดีสินบนข้ามชาติ 20 ล้าน แลกขอใช้ท่าเรือโรงไฟฟ้าขนอม ผู้บริหารชิโนไทยแจงทำธุรกิจยึดธรรมาภิบาล

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย – “ชิโนไทย” พัวพันคดีสินบนข้ามชาติ 20 ล้าน แลกขอใช้ท่าเรือโรงไฟฟ้าขนอม ผู้บริหารชิโนไทยแจงทำธุรกิจยึดธรรมาภิบาล

13 พฤศจิกายน 2019


นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย – บริษัทชิโนไทยฯ พัวพันคดีสินบน 20 ล้าน แลกขอใช้ท่าเรือโรงไฟฟ้าขนอม

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐ 4 ราย กรณีร่วมกันเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท จากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่รับว่าจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ใช้ท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้า ตลอดจนให้เรือลำเลียงเข้าเทียบท่าเพื่อขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยไม่ชอบ และชี้มูลความผิด บริษัท ซิโน – ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯอีก 2 ราย ในฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสี่รายในการกระทำความผิดดังกล่าว การไต่สวนคดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะในการ ไต่สวนข้อเท็จจริง และมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ และนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน

การไต่สวนข้อเท็จจริง มีการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ จากพยานหลักฐานข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2556 บริษัทค้าร่วม (Consortium) ประกอบด้วย บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับว่าจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นโรงไฟฟ้าของบริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด (KEGCO) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม EGCO Group ที่เป็นบริษัทเอกชนผู้ทำการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

ต่อมา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เรือลำเลียง 3 ลำ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบท่าได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่เกินกว่าท่าเทียบเรือที่จะรองรับได้ เจ้าหน้าที่ของรัฐ 4 ราย ประกอบด้วย

    1) นาวาโท สาธิต ชินวรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตรวจการขนส่งทางน้ำงานตรวจเรือ งานทะเบียนเรือและงานคนประจำเรือในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

    2) นายคณิน เมืองด้วง รองนายกเทศมนตรีตำบลท้องเนียน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการสั่ง หรือปฏิบัติราชการแทน ในด้านงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนความปลอดภัยของชุมชน รวมถึงการขนส่งทางน้ำหรือทางบกที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเดือดร้อนกับประชาชนในเขตเทศบาลตำบลท้องเนียน ดูแลรักษาทางน้ำ รวมทั้งการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    3) นายอภิชาติ สวัสดิรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลท้องเนียน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ช่วยเหลือนายอำเภอในการปฏิบัติหน้าที่และมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับประชาชนในหมู่บ้าน

    4) พันตำรวจโท สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สืบสวนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ติดต่อประสานงานกับองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ

ได้ร่วมกันเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท จากผู้แทนของบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด (Mitsubishi Hitachi Power Systems Ltd. : “MHPS”) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่มาปฏิบัติงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อแลกกับการอนุญาตให้เรือลำเลียงชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศสามารถเข้าเทียบท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้าได้ แม้ว่าเรือจะมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะเข้าเทียบท่าเทียบเรือชั่วคราวตามที่ขออนุญาตก่อสร้างไว้ ซึ่งผู้บริหารของบริษัท MHPS ตัดสินใจที่จะจ่ายเงินสินบนจำนวน 20 ล้านบาท เพราะหากการขนส่งชิ้นส่วนเครื่องจักรเกิดการหยุดชะงักจะทำให้การก่อสร้างไม่ทันกำหนดเวลาการส่งมอบงาน และบริษัท MHPS จะต้องเสียค่าปรับตามสัญญาถึงวันละ 40 ล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 11 ล้านบาท)

ทั้งนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัท ซิโน-ไทยฯ และผู้บริหารระดับสูงสองราย ได้แก่ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ และนายราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการ ได้ให้ความช่วยเหลือในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในการเรียกรับสินบนจากบริษัทญี่ปุ่น โดยมีการจัดทำสัญญาที่ไม่มีการจ้างงานจริง เพื่อให้บริษัท ซิโน-ไทยฯ จัดเตรียมสินบนเป็นเงินสด 20 ล้านบาท

ต่อมา มีการมอบเงินสินบนให้กับผู้แทนบริษัทญี่ปุ่นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทซิโน-ไทยฯ เพื่อให้ขนเงินไปยังพื้นที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสี่ราย ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่าในช่วงเวลาเดียวกันเรือลำเลียงก็สามารถเทียบท่า และขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ณ ท่าเทียบเรือชั่วคราวโรงไฟฟ้าขนอมได้ แม้ว่าจะไม่มีการแก้ไขเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมเจ้าท่าแต่อย่างใด

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิด ดังนี้

1. กลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นาวาโท สาธิต ชินวรณ์ นายคณิน เมืองด้วง นายอภิชาติ สวัสดิรัตน์ และพันตำรวจโท สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และสำหรับราย นายคณิน เมืองด้วง รองนายกเทศมนตรีตำบลท้องเนียน มีมูลเป็นความผิดอันเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งได้ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 และส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐอีก 3 ราย มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

2.กลุ่มผู้สนับสนุน ได้แก่ บริษัท ซิโน-ไทยฯ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ และ นายราเกส กาเลีย มีมูลความผิดทางอาญา ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงาน สํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สําเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคําวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดําเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 ราย ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับนาวาโท สาธิต ชินวรณ์ นายอภิชาติ สวัสดิรัตน์ และพันตำรวจโท สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน ไปยังผู้มีอํานาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อให้ดําเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายคณิน เมืองด้วง ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

หมายเหตุ : การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

ขณะที่บริษัทบริษัท ซิโน-ไทยฯได้ทำหนังสือชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังรายละเอียดด้านล่าง