ThaiPublica > เกาะกระแส > มติ ก.ศป. ให้ “หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล” ออกจากตำแหน่ง ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ชี้รู้เห็นจดหมายน้อยฝากตำรวจ

มติ ก.ศป. ให้ “หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล” ออกจากตำแหน่ง ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ชี้รู้เห็นจดหมายน้อยฝากตำรวจ

24 กันยายน 2015


580924หัสวุฒิ1
นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล อดีตประธานศาลปกครอง ที่มาภาพ : http://www.posttoday.com/politic/387151

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2558 สำนักงานศาลปกครอง ได้ส่งเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ หัวข้อ มติคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เรื่อง ผลการสอบสวนประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองและประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ (คดีจดหมายน้อย) มีสาระสำคัญ ดังนี้

ตามที่ ก.ศป. เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ได้พิจารณาเรื่อง รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองและประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นพ้องด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฝ่ายข้างมาก โดยเห็นว่า กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองและประธานศาลปกครองสูงสุด กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เป็นกรณีมีมูลที่อาจเข้าข่ายตามที่กำหนดในข้อ 3 (1) แห่งระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ.2544 และถึงขั้นที่จะให้ตุลาการ

ศาลปกครองผู้นั้นพ้นจากตำแหน่ง และให้ดำเนินการตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ประกอบข้อ 5 วรรคสอง และข้อ 6 วรรคหนึ่ง (1) แห่งระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ.2544 โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าว

“ก.ศป. ได้มีคำสั่ง ก.ศป. ลับ ที่ 7/2558 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2558 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าว ซึ่งระหว่างการสอบสวน ก.ศป.  ได้เห็นชอบและอนุมัติให้คณะกรรมการสอบสวนขยายระยะเวลาการสอบสวนตามระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครอง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ.2544”

ก.ศป. ในการประชุม วันที่ 23 กันยายน 2558 ได้พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่ง ก.ศป. ลับ ที่ 7/2558 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2558 กรณีนายหัสวุฒิ  วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ถูกกล่าวหาว่า มีกรณีตามข้อ 3 ของระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ.2554 แล้ว มีมติว่า

“แม้ไม่ปรากฏชัดว่า นายหัสวุฒิ  วิฑิตวิริยกุล ได้มีการมอบหมายให้นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง มีหนังสือสองฉบับแจ้งความประสงค์ของนายหัสวุฒิ  วิฑิตวิริยกุล ว่าจะสนับสนุน พ.ต.ท.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงกุล รอง ผกก.ป.สน.หัวหมาก ให้ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้กำกับการต่อรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ ผบ.ตร. ตามลำดับ ปรากฏตามหนังสือของนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2556 และวันที่ 7 มกราคม 2557

“แต่พยานหลักฐานก็รับฟังได้ว่า นายหัสวุฒิ  วิฑิตวิริยกุล มีส่วนรู้เห็นเป็นใจและรับทราบในกรณีที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม กระทำการดังกล่าว อันเป็นการกระทำผิดวินัย ฐานไม่รักษาชื่อเสียงของตน และไม่รักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ซึ่งถือว่าเป็นการประพฤติตนไม่สมควร ตามข้อ 5 และข้อ 11 วรรคหนึ่ง ของประกาศ ก.ศป. เรื่อง วินัยแห่งการเป็นตุลาการศาลปกครอง ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2544

“ก.ศป. จึงมีมติโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 วรรคสอง (1) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ประกอบกับข้อ 20 ของประกาศ ก.ศป. เรื่อง วินัยแห่งการเป็นตุลาการศาลปกครอง ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2544 และข้อ 24 วรรคหนึ่ง (1) ของระเบียบ ก.ศป. ว่าด้วยวิธีการสอบสวนและสิทธิของตุลาการศาลปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง พ.ศ.2544 ให้นายหัสวุฒิ  วิฑิตวิริยกุล ออกจากราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ก.ศป. มีมติ” เอกสารข่าวดังกล่าวระบุ