ThaiPublica > เกาะกระแส > ‘ศุภชัย ศรีศุภอักษร’ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ‘ฉ้อโกงประชาชน’ สหกรณ์ฯคลองจั่น 16,000 ล้าน

‘ศุภชัย ศรีศุภอักษร’ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ‘ฉ้อโกงประชาชน’ สหกรณ์ฯคลองจั่น 16,000 ล้าน

10 กันยายน 2015


เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 พ.ต.ท. สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่อัยการ เข้าแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินงาน สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และผู้ต้องหาคนสำคัญในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ฯ คลองจั่นไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันนายศุภชัยถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ระหว่างรอการพิพากษาคดียักยอกทรัพย์

พ.ต.ท. สมบูรณ์ เปิดเผยว่า คดีพิเศษของดีเอสไอที่ 63/2557 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน นอกจากนายศุภชัยแล้วยังออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่ม 12 รายเพื่อมารับฟังข้อกล่าวหา ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นอดีตกรรมการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหกรณ์ฯ คลองจั่น สำหรับพฤติการณ์ของคดีคือ นายศุภชัยซึ่งเป็นประธานสหกรณ์ฯ และพวกร่วมกันจัดทำรายงานประจำปี 2552-2555 ตกแต่งบัญชีว่าการดำเนินงานมีผลกำไร ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้ถึง 10% แต่ภายหลังดีเอสไอสอบสวนกลับพบว่ามีผลประกอบการขาดทุนมาตลอด ซึ่งทำให้ประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาฝากจำนวนมาเพราะเชื่อว่ามีผลประกอบการดี ขณะเดียวกันนายศุภชัยก็เปิดบัญชีธนาคารเชื่อมโยงกับบัญชีหลักของสหกรณ์ใช้ชื่อว่า “เพื่อความมั่นคง” และผ่องถ่ายเงินจากบัญชีนี้อีกทอดหนึ่ง

โดยภายหลังเข้าแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง นายศุภชัยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจากนี้จะสอบสวนผู้ต้องหารายอื่นเพิ่มเติม และหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะประสานกับ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดีต่อไป

5 คดีสหกรณ์คลองจั่น

สำหรับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่ดีเอสไอรับผิดชอบมีทั้งสิ้น 5 คดี ได้แก่

คดีพิเศษที่ 146/2556 ยักยอกทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท โดยการสั่งจ่ายเช็คแก่บุคคล 6 กลุ่มรวมทั้งสิ้น 878 ฉบับ แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายศุภชัยและพวกจำนวน 4 ราย ซึ่งคดีอยู่ในชั้นอัยการและอยู่ระหว่างให้ดีเอสไอสอบสวนเพิ่มเติมใน 8 ประเด็น ซึ่งดีเอสไอส่งผลการสอบสวนใน 7 ประเด็นแล้วแต่ยังเหลือประเด็นสุดท้ายเรื่องเส้นทางเช็คบางส่วนที่ไม่ได้รับหลักฐานจากทางธนาคาร หรือผู้รับเช็คบางรายไม่เข้ามาให้ปากคำ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะเข้าชี้แจงต่อพนักงานอัยการถึงข้อจำกัด ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้ โดยสำนวนที่ส่งไปใหม่จะรวมถึงเช็คสั่งจ่ายวัดพระธรรมกายที่เพิ่งพบเพิ่มเติม รวมแล้ว 1,216 ล้านบาทไปด้วย

คดีพิเศษที่ 63/2557 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มในวันที่ 14,15,18 กันยายน และคาดว่าจะสรุปสำนวนได้ภายในเดือนกันยายนนี้เช่นกัน

คดีพิเศษที่ 64/2557 ในข้อหายักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ โดยศุภชัยสั่งจ่ายเช็คให้ตัวเอง 27 ล้านบาทขณะก่อนและดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์ในปี 2556 ซึ่งคดีนี้ทำให้นายศุภชัยต้องอยู่ในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2558 เพราะศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว แม้จะยื่นอุทธรณ์ถึง 2 ครั้ง และคาดว่าจะสรุปสำนวนได้ภายในเดือนกันยายน

คดีพิเศษที่ 68/2558 และคดี 70/2558 ข้อหาฟอกเงิน ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินคดีใคร แต่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายศุภชัยและนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล อดีตพระวัดพระธรรมกาย ซึ่งคดีนี้ต้องรอให้สรุปสำนวนคดีฉ้อโกงประชาชนให้แล้วเสร็จ โดยคาดว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการภายในเดือนตุลาคมนี้