
ต่อจากตอนที่แล้ว กรณี น.ส.ศิวพร กาญจนภิญพงศ์ อดีตปลัดอำเภอสามพราน นำเอกสารหลักฐานร้องเรียนกับ พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันตนเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการการรับจ้างชาวต่างชาติจดทะเบียนสมรสกับหญิงไทย โดยน.ส.ศิวพร ได้ให้ข้อมูลต่อ พ.ต.อ. ดุษฎีว่า หลังจากกรมการปกครองตรวจพบสำนักทะเบียนอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ออก “ใบสำคัญการสมรส” ให้หญิงไทยกับชาวอินเดีย 257 คู่ ในช่วงเดือนตุลาคม 2557-กุมภาพันธ์ 2558 ตรงกับช่วงที่ น.ส.ศิวพร ดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอสามพราน ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบและลงลายมือชื่อใบสำคัญรับรองการจดทะเบียนสมรส
แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า หลังจาก น.ส.ศิวพร ทราบข่าวว่ากรมการปกครองตรวจสอบพบกรณีสำนักทะเบียนอำเภอสามพรานรับจดทะเบียนสมรสให้หญิงไทยกับชาวอินเดียมากผิดปกติ ในขณะนั้น น.ส.ศิวพรได้ไปปฏิบัติหน้าที่ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จึงเดินทางกลับมาที่อำเภอสามพราน เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พบว่ามีใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส (คร.1-คร.2) ระหว่างหญิงไทยกับชาวอินเดียอย่างถูกต้อง 7 คู่ ส่วนแฟ้มใบคำร้อง คร.1-คร.2 ที่เหลืออีก 250 คู่ สูญหายไปจากตู้เก็บเอกสาร จากนั้น น.ส.ศิวพร ได้สอบถามนายทวีวัฒน์ วีระสมวงศ์ ปลัดอำเภอสามพราน ซึ่งมีหน้าที่ลงนามรับรองการจดทะเบียนสมรส ได้รับการยืนยันจากนายทวีวัฒน์ว่า “เซ็นชื่อรับรองไปแค่ 2 คู่เท่านั้น” ส่วน น.ส.ศิวพรลงนามในใบสำคัญการสมรสไปจำนวน 5 คู่
ทั้งนี้ ข้อมูลทะเบียนสมรสที่บันทึกอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของสำนักทะเบียนอำเภอสามพราน พบว่ารายงานบันทึกข้อมูลทะเบียนสมรสมีรายชื่อหญิงไทยจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียค้างอยู่ในฐานข้อมูลสำนักทะเบียนอำเภอสามพราน 257 คู่จริง
“จากรายชื่อดังกล่าว ได้ทำการสุ่มตรวจโดยเชิญหญิงไทย 2 รายมาสอบถาม พบว่าทั้ง 2 รายให้การตรงกัน คือได้รับการติดต่อจาก น.ส.กนกพรให้นำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านมาจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียนอกสถานที่ ได้รับค่าตอบแทนรายละ 2,000 บาท ระหว่างที่ลงลายมือชื่อใบคำร้อง คร.1-คร.2 ไม่พบเจ้าหน้าที่อำเภอสามพรานร่วมลงนามเป็นสักขีพยานแต่อย่างใด จึงพาหญิงไทยทั้ง 2 รายไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาครเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2558 ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.กนกพรและพวกในข้อหาร่วมกันกระทำการจดทะเบียนสมรสเป็นเท็จเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2558″
แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า ล่าสุดนี้ได้รับรายงานจากจังหวัดนครปฐมว่าทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีจดทะเบียนสมรสเป็นเท็จ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อำเภอสามพรานออกจดหมายให้หญิงไทยและชาวอินเดียที่จดทะเบียนสมรสมาสอบปากคำ พร้อมกับนำหลักฐานประกอบการจดทะเบียนสมรส อาทิ หนังสือรับรองความเป็นโสดของชาวอินเดียที่ลงนามรับรองโดยเอกอัครราชทูตอินเดียประจำกรุงเทพฯ มายืนยันกับเจ้าหน้าที่อำเภอสามพราน หากไม่มาพบเจ้าหน้าที่ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ได้รับจดมาย ถือว่าไม่ให้ความร่วมมือกับจะถูกเพิกถอนสิทธิในการจดทะเบียนสมรส พร้อมกับทำหนังสือแจ้งสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำกรุงเทพฯ, กระทรวงต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต่อไป
ต่อกรณีอำเภอสามพรานออกจดหมายให้หญิงไทยที่สมรสกับชาวอินเดีย 257 คู่ มาให้ปากคำนั้น นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “ขณะนี้ผมยังไม่ได้รับรายงานจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และยังไม่ได้เห็นหนังสือที่ให้ชาวต่างชาติที่สมรสกับหญิงไทยมาสอบปากคำ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงคงต้องใช้เวลาพอสมควร เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน คงต้องให้คนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องตอบคำถามนี้จะดีกว่า”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จังหวัดนครปฐมมีแนวทางในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร นายกำธรกล่าวว่า “คงต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ หากมีเจตนากระทำการทุจริต ก็ต้องยกเลิกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นใบสำคัญการสมรส วีซ่า แต่ถ้ากระทำการโดยสุจริต คู่สมรสสามารถนำหลักฐานมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง การจดทะเบียนสมรสถือว่ามีผลผูกพันตามกฎหมาย”