เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2558 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เผยแพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ เรื่องผลการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่เห็นชอบแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) กองทัพบก (ททบ.5) กรมประชาสัมพันธ์ (ช่อง 11) และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (ช่อง 9 Modernine TV) ตามที่ทั้ง 4 ช่องได้ส่งมา และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. เร่งรัดการส่งแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ของประเทศไทย ก่อนนำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อไป
สำหรับไทยพีบีเอส ได้ส่งแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกมา 6 ระยะ ได้แก่
– ระยะที่ 1 วันที่ 1 กันยายน 2558 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก จำนวน 2 สถานี
– ระยะที่ 2 วันที่ 16 มิถุนายน 2559 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก จำนวน 12 สถานี
– ระยะที่ 3 วันที่ 31 ธันวาคม 2559 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก จำนวน 11 สถานี
– ระยะที่ 4 วันที่ 16 มิถุนายน 2560 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก จำนวน 13 สถานี
– ระยะที่ 5 วันที่ 31 ธันวาคม 2560 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก จำนวน 11 สถานี
– ระยะที่ 6 วันที่ 16 มิถุนายน 2561 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก จำนวน 3 สถานี
ช่อง 5 ได้ส่งแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกมา 2 ระยะ ได้แก่
– ระยะที่ 1 วันที่ 31 ธันวาคม 2560 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกจำนวน 4 สถานี
– ระยะที่ 2 16 มิถุนายน 2561 จะยุติให้บริการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก จำนวน 37 สถานี
ช่อง 11 ได้ส่งแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกมา 1 ระยะ คือ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 50 สถานี
และช่อง 9 ได้ส่งแผนการยุติการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกมา 1 ระยะ คือ 16 กรกฎาคม 2561 จำนวน 36 สถานี
วันเดียวกัน ที่ประชุม กสท. มีมติไม่รับข้ออุทธรณ์คำสั่ง กสท. เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 ของกรมประชาสัมพันธ์ กรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตการติดตั้ง ขยายโครงข่าย และให้บริการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน โดยหากไม่ดำเนินการจะใช้มาตรการทางปกครองให้ชำระค่าปรับทางปกครองในอัตราวันละ 20,000 บาท และหากยังไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ ก็จะพิจารณามาตรการทางปกครองที่สูงขึ้น และให้จัดทำมาตรการเยียวยาช่องรายการที่ใช้บริการโครงข่ายของกรมประชาสัมพันธ์ และให้ทำการประชาสัมพันธ์แก่ผู้บริโภคให้ทราบถึงสาเหตุของความล่าช้า
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสท. ไม่รับหนังสือขอความเป็นธรรมของบริษัท ทีวี จำกัด หรือช่องพีซทีวี โดยที่ประชุม กสท. พิจารณาแล้วว่าคำสั่งของ กสท. ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ หากช่อง พีซทีวี ไม่พอใจในมติของ กสท. สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อไปได้