ThaiPublica > คอลัมน์ > ALL BOYS มาแอบดูเบื้องหลังหนังโป๊กันเถอะ

ALL BOYS มาแอบดูเบื้องหลังหนังโป๊กันเถอะ

19 พฤษภาคม 2013


เหว่ยเฉียง

all boys1

“หนังโป๊น่ะรึ…มันเป็นของต้องห้าม เป็นของต่ำ…แต่มันมีอยู่ทุกที่ แล้วเชื่อมั้ย…ไม่มีใครไม่เคยดู”

หลังทลายกำแพงเบอร์ลิน (ปี 1989) หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย (ปี 1991) สาธารณรัฐเช็กซึ่งเดิมทีรวมตัวกับสโลวาเกียก็เปลี่ยนผ่านสู่การสร้างประเทศปรับตัวต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก และสินค้าขายดีที่ทำให้ชาวโลกต้องเหลียวมอง คือ หนังโป๊เกย์

ในปี 1993 จอร์จ ดูรอย ชาวสโลวัก ผลิตหนังโป๊เกย์ส่งขายตลาดอเมริกาภายใต้แบรนด์ Bel Ami ตั้งแต่นั้นประวัติศาสตร์หนังโป๊เกย์ก็พลิกโฉมอย่างรวดเร็ว ด้วยว่าทีเด็ดของหนังโป๊แถบนี้คือเด็กหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีลีลาเด็ด แต่นั่นคือสิ่งที่ทุกคนเห็นเพียงเบื้องหน้า ทว่าเบื้องหลังที่ไม่มีใครเคยเห็นถูกเล่าผ่านสารคดีของ มาร์คคุ เฮกกินเนน ผู้กำกับชาวฟินแลนด์

All Boys (2009) เป็นสารคดีที่เล่าอุตสาหกรรมหนังโป๊เกย์ซึ่งบูมมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จาก Bel Ami เมื่อสินค้าขายดี ตีตลาด ค่ายใหม่ๆ ก็ผุดขึ้นมาร่วมส่วนแบ่ง บทสัมภาษณ์ส่วนใหญ่ใน All Boys จึงยึดแกนเรื่องไว้ที่ แดน โคมาร์ โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน หนึ่งในผู้ลงมาร่วมแบ่งตลาดนี้ที่มาตั้งหลักปักฐานในกรุงปราก

all boys2

สำหรับใครที่อาจจะกลัวว่าที่พูดถึงหนังโป๊นี่จะโป๊มากไหม ก็ขอให้สบายใจ (หรือบางคนอาจจะบ่นเสียดาย) ได้ว่า เขาเลือกถ่ายภาพเลี่ยงอวัยวะสำคัญ ซึ่งนอกจากจะเห็นกระบวนการผลิตผ่านแดน โคมาร์ แล้ว หนังยังเจาะลึกไปที่ชีวิตของบรรดาเด็กหนุ่มที่คุณอาจจะไม่เชื่อว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเกย์ บางคนเป็นเด็กเร่ร่อนอาศัยนอนตามใต้สะพาน บ้างขับแท็กซี่เป็นอาชีพหลัก และบ้างมีรสนิยมทางเอ็กซิบิชันนิสต์ที่ชอบอวดอวัยวะตัวเอง ซึ่งไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ธุรกิจนี้ก็ทำรายได้มหาศาลท่ามกลางสังคมปากกัดตีนถีบที่ผลักดันให้เด็กหนุ่มเหล่านี้มาจากทั่วสารทิศ โดยนอกจากสโลวาเกียและเช็กแล้วยังมีฮังการี โรมาเนีย รัสเซีย ลัตเวีย เอสโทเนีย และโปแลนด์ อันเป็นผลพวงจากการล่มสลายทางเศรษฐกิจหลังปกครองแบบคอมมิวนิสต์มาอย่างยาวนาน

แต่แทนที่ All Boys จะเล่าภาพกว้างของสังคม ตัวเรื่องกลับเลือกที่จะเจาะลึกชีวิตของผู้ร่วมธุรกิจนี้ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มที่ชื่อรูดา โพรชาซคา หรือชื่อในวงกามว่า แอรอน ฮอว์ค ที่ได้มาเพราะหน้าตาหล่อเหลาประมาณ อีธาน ฮอว์ค (ลองหลับตานึกภาพหนุ่มหล่อระดับอีธาน ฮอว์ค มาแก้ผ้าเล่นหนังแนวนี้ คุณคงนึกออกแล้วใช่ไหมว่าทำไมเช็กบอยจึงขับเคลื่อนธุรกิจนี้ให้ร้อนปรอทแตก) เขาเป็นพวกบ้านแตก เคยทำงานแบกหาม ไม่ได้เรียนสูง หนังโป๊จึงเป็นงานสบาย เงินดี ไม่ต้องอาศัยความรู้อะไร…และชีวิตไม่ได้มีทางให้เลือกมากนัก

เงิน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนังจงใจจะมุ่งประเด็นไปหา ไม่ว่าการเลือกภาพให้เห็นป้ายโฆษณาสินค้าของแบรนด์ดังฝั่งอเมริกา หรือคำบ่นพล่ามของบรรดาผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ “ที่อเมริกา ผมเป็นเหมือนดาราดังเลยนะ…ตอนเล่นหนังโป๊ผมได้แต่งตัวดีดี แม้แต่พวกอเมริกันยังต้องเหลียวหลังมอง…ที่อเมริกาน่ะ เขาได้ค่าตัวกันเป็นแสน แต่ที่ปรากขนาดแก้ผ้าเล่นหนังยังได้แค่หลักหมื่น”

ความสนุกอีกอย่างของสารคดีเรื่องนี้เกิดจากการจงใจใช้ภาพใกล้ในบางคัตที่ปล่อยว่างโดยแทบไม่มีบทสนทนาใด แต่ในพื้นที่ว่างนั้น แท้จริงมิได้เปล่าหากกลับเต็มไปด้วยความรู้สึก ไม่ว่าจะจากสีหน้า แววตา ภาษากาย “สามปี” คือคำตอบของแอรอน (นักแสดง) ต่อคำถามที่ว่าเขาใช้ชีวิตคู่ร่วมกับ แดน (โปรดิวเซอร์) มาแล้วกี่ปี ระหว่างที่ตอบคำถามนี้ แอรอนยกมือขึ้นปิดหน้า ก่อนจะเสมองไปทางอื่น แล้วหันกลับมาเชิดหน้ายิ้มใส่กล้อง “ก็ไม่เลวนะ ว่ามั้ย”

all boys3

all boys4

หนังเต็มไปด้วยหลายสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมา โดยใช้การประมวลจากภาพหนึ่งสู่อีกภาพหนึ่ง จากลักษณะของคนหนึ่งกับอีกคน อย่างคู่ของแอรอนนักแสดงชาวเช็กอายุ 22 กับแดน โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันอายุ 51 ที่คนหนึ่งพูดได้แต่ภาษาอังกฤษ ส่วนอีกคนก็สนทนาภาษาอังกฤษพร่องๆ แม้ว่าพวกเขาจะพร่ำบอกว่าเป็นเพราะความรักที่ทำให้สามปีก่อนพวกเขาตัดสินใจคบกัน หรือบางคนอาจมองว่าอาจเป็นเพราะเงิน หรือจะเพราะพวกเขาทำงานใกล้ชิดกันขนาดนั้น หรือใครอาจจะมองว่าโปรดิวเซอร์อเมริกันนั่นต่างหากที่เข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์จากหนุ่มเช็กบอยพวกนี้ แม้ว่าสุดท้ายทั้งคู่ก็เลิกกัน แต่ช่องว่างของคำตอบต่อคำถามทำนองนี้ก็ปรากฏเป็นระยะๆ ในหลายสถานการณ์โดยที่หนังไม่ได้ตัดสินอะไร

ขณะที่บางคนยังคงวนเวียนเข้าๆ ออกๆ ในวงกามนี้ บางคนกลับไม่ปล่อยตัวเองให้จมปลัก แต่เปลี่ยนอาชีพ ก้าวไปข้างหน้าเมื่อมีโอกาส และแน่นอนว่าเมื่อเวลาเปลี่ยน อะไรๆ ก็เปลี่ยนตามไป การมาถึงของอินเทอร์เน็ต-ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจแนวนี้บูม-ก็เป็นช่องทางทำให้หนังโป๊ล่มสลายด้วยเช่นกัน เมื่อเทคโนโลยีดาวน์โหลด ง่าย ใช้คล่อง และฟรี

all boys5

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะมองหนังโป๊และเงินในแง่ดีหรือแง่ร้าย เพลงสุดท้ายในหนังที่ร้องโดยอดีตดาราหนังโป๊คนหนึ่งก็น่าจะบอกอะไรได้พอสมควร

“เงินเป็นเพื่อนของฉัน
ถ้าคุณมีเงินคุณก็ไม่ต้องฝัน
ไม่ต้องกังวล จะซื้ออะไรก็ได้ที่อยากจะได้
แต่คุณรู้ความรู้สึกของการไม่มีอะไรสักอย่างไหม
มีตู้เย็นที่แสนจะว่างเปล่า กับท้องที่หิวจนไส้กิ่ว
แล้วคุณก็ถามพระเจ้าว่า ทำไมฉันถึงโชคร้ายขนาดนี้นะ”